Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1825

ภายใต้ยามราตรี บนยานลมกรดที่ส่องแสงสว่างจ้าตกสู่ความโกลาหลวุ่นวาย มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ

อารมณ์ตื่นตระหนก ไม่ปลอดภัย หวาดผวาราวกับกำลังหมักบ่ม คละคลุ้งอยู่ในจิตใจของผู้ฝึกปราณทุกคนบนยานลมกรด

ผู้แข็งแกร่งจากหอเสียงสวรรค์กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าบังคับแสงเคลื่อนไหวเจิดจ้า ปรากฏตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ อย่างเช่นลานมรรคหลอมยุทธ์ หอลิ้มหิมะ หอมกำจรเป็นต้น

และหลังจากนั้นมีข่าวมากมายแพร่สะพัดไปทั่วยานลมกรดที่แสงไฟประดุจมังกร และโกลาหลปั่นป่วนลำนี้ราวกับอัสนีบาต…

“ลานมรรคหลอมยุทธ์ตายเจ็ดคน มกุฎราชันอริยะหนึ่งคน ระดับราชันอริยะหกคน! ผู้ตายล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์!”

“ห้องอักษร ค. หมายเลขสามกลิ่นคาวเลือดฉุนกึก! ว่ากันว่าผู้เฒ่าทังผู้รับผิดชอบลานมรรคหลอมยุทธ์หายตัวไปไม่รู้ร่องรอย”

“หอลิ้มหิมะ คนใหญ่คนโตหกคนจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์หกคนหายตัวไปอย่างน่าประหลาด เหมือนกับระเหยไปจากโลก ไม่มีเหลือร่องรอยใดๆ หลงเหลือ”

“ว่ากันว่าตอนนั้นชั้นสองของหอลิ้มหิมะถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้ แต่กลับเกิดเรื่องพิสดารเช่นนี้ หลงจู๊หอสุราถูกจับกุมตัว ดำเนินการไต่สวนแล้ว”

“หอหอมกำจร ห้องพิเศษรับรองแขกสูงศักดิ์ ไหวจื่ออิ๋นผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์หายตัวไป ในที่เกิดเหตุเหลือเพียงอาภรณ์เกลื่อนพื้นกับหญิงคณิกาที่สลบไสลหลายสิบคน”

“ผู้สืบทอดที่โดดเด่นคนหนึ่งของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ กลับเหลวไหลมากราคะไม่สิ้นเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องฉาวโฉ่ใหญ่โตปานใด ยามนี้ข่าวพวกนี้ล้วนถูกหอเสียงสวรรค์เก็บเงียบแล้ว”

“ร้านเตาโอสถ รุ่ยคงผู้อาวุโสสายนอกของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ หัวถูกเด็ดไปแล้ว”

“ร้านหญ้ามรกต ชวีฝูผู้ดูแลสายนอกของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ จิตวิญญาณถูกขจัด”

…แต่ละข่าวต่างเรียกได้ว่าเป็นพายุ และเมื่อข่าวชุดนี้แพร่สะพัดออกไปพร้อมกัน บนยานลมกรดก็จมสู่ความโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

ผู้โดยสารบนยาน ไม่ว่าจะมาจากขุมอำนาจชั้นนำแห่งไหน หรือจะเป็นเหล่าผู้กล้า ผู้สูงศักดิ์ หรือเทพเซียนชั้นนำใดๆ ล้วนถูกทำให้ตื่นตะลึงระส่ำระสาย

ยานลมกรด นี่เป็นถึงยานข้ามโลกของหอเสียงสวรรค์ แต่คืนนี้กลับเกิดเรื่องนองเลือดเช่นนี้ขึ้น ใครจะไม่ตกใจบ้าง

ที่น่าสยดสยองที่สุดคือ พวกที่บ้างก็ถูกฆ่า บ้างก็หายตัวไปอย่างลึกลับเหล่านั้น ล้วนมาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์!

นี่เป็นถึงหนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่แห่งทางเดินโบราณฟ้าดารา ลูกศิษย์ในสำนักคนใดคนหนึ่งเดินออกมา อยู่ในโลกอื่นล้วนถูกปฏิบัติเยี่ยงแขกสูงศักดิ์ชั้นยอดที่สุด

อย่างหอเสียงสวรรค์ เป็นสำนักอันดับหนึ่งของเขตแดนดาราจื่อเหิง แต่เมื่อเทียบกับเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ก็ยังห่างชั้นราวฟ้ากับเหว เทียบกันไม่ติด

แต่ยามนี้ผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มที่มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ไม่ว่าสถานะสูงต่ำล้วนตายกันหมด!

นี่เป็นความสะท้านสะเทือนครั้งใหญ่ชัดๆ ผลกระทบและคลื่นลมที่เกิดขึ้นทั้งหมด สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามบนยานลมกรดต่างขวัญผวา

“ฆาตกรคือใคร”

นี่คือสิ่งที่ทุกคนต่างให้ความสนใจมากที่สุด

“หอเสียงสวรรค์… เจอปัญหาใหญ่แล้ว!”

และมีคนมากมายคาดเดาออกมาว่า เมื่อผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์พวกนี้ตายบนยานลมกรด หอเสียงสวรรค์จะต้องประสบคลื่นมรสุมอย่างแน่นอน

ภายในโถงใหญ่ที่งดงามหรูหราแห่งหนึ่ง

ผู้อาวุโสชั้นสูงฮว่าเตี่ยนของหอเสียงสวรรค์สีหน้ามืดทะมึน นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดจาสักคำ ผมเคราของเขาดุจสีหมึก สวมชุดปราชญ์แขนกว้าง นัยน์ตาลุ่มลึกดุจวังน้ำวน ทอประกายแสงน่าสะพรึง

มกุฎราชันอริยะสี่คน ราชันอริยะทั้งกลุ่ม รวมถึงผู้สืบทอดหอเสียงสวรรค์อย่างพวกอู่อวิ๋นเหลียน เวลานี้ล้วนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เงียบกริบปานจักจั่นหน้าหนาว

สีหน้าแต่ละคนต่างฉายแววตกใจแกมสงสัย หวาดผวา เป็นกังวล เดือดดาลต่างๆ นานายากปกปิด

บรรยากาศกดดันจนทำเอาผู้คนจวนจะหายใจไม่ออก

“เรียนผู้อาวุโส นับมาแล้ว ผู้แข็งแกร่งจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์รวมทั้งสิ้นสิบเก้าคน ทั้งหมดล้วน… ล้วนไม่เห็นแล้ว”

น้ำเสียงสั่นเทาสายหนึ่งดังขึ้นนอกโถงใหญ่ ทำลายความเงียบลง

เปรี้ยง!

ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด หัวใจรัดเกร็งรุนแรงครู่หนึ่ง

“แล้วคนที่หายตัวไปอย่างประหลาดนั่นล่ะ จะระเหยไปจากโลกจริงๆ หรือ ที่นี่เป็นถึงยานลมกรด อยู่ในฟ้าดารา ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากยานลมกรด!”

อู่อวิ๋นเหลียนตวาดลั่น

นอกโถงใหญ่น้ำเสียงสั่นเทาสายนั้นดังขึ้นต่อ “พวกเราค้นหาทั่วทุกซอกมุมของยานลมกรดแล้ว ล้วนไม่มีร่องรอยของพวกเขาเลย…”

“พวกสวะ!”

อู่อวิ๋นเหลียนก่นดาอย่างเดือดดาล

และในยามนี้เอง ฮว่าเตี่ยนที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “มีแต่คนตายเท่านั้นถึงจะถูกกำจัดไปจากโลกอย่างไร้สุ้มเสียง”

ประโยคเดียวทำให้หัวใจของทุกคนในที่นี้หนักอึ้ง

ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ทั้งกลุ่มที่ข่งอวี้ส่งมา กลับตายบนยานลมกรดของหอเสียงสวรรค์ของพวกเขา เรื่องนี้ต่อให้พวกเขาไม่ได้ทำ ก็ต้องถูกโยงไปเกี่ยวด้วยอยู่ดี!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ทุกคนต่างตกใจแกมโกรธยากระงับ

“ฆาตกรล่ะ ยังตรวจสอบไม่ได้อีกหรือ”

เสียงของฮว่าเตี่ยนกดต่ำ เจือแววเยียบเย็นกรีดกระดูก โทสะที่สั่งสมอยู่ภายในใจของเขาจวนจะปะทุอยู่รอมร่อ

นอกโถงใหญ่ผู้อาวุโสหอเสียงสวรรค์ที่มารายงานคนนั้นทรุดเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุ้บหนึ่งครา กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ฆาตกรคนนั้นไม่เหลือร่องรอยใดๆ ตอนที่ลงมือสังหารก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใคร ยามนี้ พวกเรายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบขอรับ”

อู่อวิ๋นเหลียนกล่าวทันควัน “จะใช่อวี่เสวียนนั่นหรือไม่”

วันนี้นางเพิ่งสั่งการให้จั่นปิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพวกผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เพื่อกำจัดอวี่เสวียน และในวันนี้ก็ดันเกิดเหตุการณ์นองเลือดพวกนี้ขึ้น!

อีกทั้งอู่อวิ๋นเหลียนได้รับข่าวว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ อวี่เสวียนเคยออกจากที่พัก เข้าไปในเมืองของยานลมกรด

เดิมทีในความคิดของอู่อวิ๋นเหลียน เจ้าหมอนี่จะต้องเป็นคนตายคนหนึ่งแล้วชัดๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์