Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1827

สรุปบท ตอนที่ 1827 เด็กหนุ่มเสี่ยวจิ่ว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1827 เด็กหนุ่มเสี่ยวจิ่ว – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1827 เด็กหนุ่มเสี่ยวจิ่ว ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าผู้แข็งแกร่งหอเสียงสวรรค์ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง

จู่ๆ เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านก็รู้สึกหมดอารมณ์ น่าเบื่อมาก ไม่น่าสนใจ ไม่สนุกเลยสักนิด เขาถอนหายใจคราหนึ่งแล้วหมุนตัวเดินเข้าเรือน ไม่สนใจพวกขี้ขลาดเหล่านั้นอีก

ขี้ขลาดเกินไปแล้ว ทำให้เขาไม่มีความสนใจเลยจริงๆ กลับทำให้เขายิ่งรู้สึกน่าเบื่อ

เขาลูบคางพึมพำ “มดปลวกหรือ เฮอะๆ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพวกร้ายกาจเหล่านั้นจึงถอนหายใจเช่นนี้ ไม่น่าสนใจเลยจริงๆ”

“นายน้อย ใต้มหามรรคสรรพชีวิตล้วนเป็นมดปลวก”

หญิงชราเตือนประโยคหนึ่งเพื่อไม่ให้เด็กหนุ่มย่ามใจเกินไป

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเอนตัวบนเก้าอี้โยกอย่างเกียจคร้าน ยิ้มระรื่นพูด “ใช่ ในสายตาของท่านยาย ในสายตาของท่านพ่อข้า คนตัวเล็กๆ อย่างข้าก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกอยู่แล้ว”

ทันใดนั้นเขานึกบางอย่างขึ้นได้ ตีอกกระทืบเท้า พูดอย่างเศร้าโศกแค้นเคือง “จู่ๆ ข้าก็พบว่า ดูเหมือนจะกลายเป็นแพะรับบาปแทนเจ้าหมอนั่น!”

หญิงชรากลอกตา จนตอนนี้เจ้าเด็กเน่าอย่างเจ้าเพิ่งจะเข้าใจหรือ

ทว่ายามนางพูดกลับเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอีกแบบ เสียงเรียบเฉยนิ่งสงบ เอ่ยเบาๆ ราวกับเทพองค์หนึ่ง “นายน้อย ยายแก่อย่างข้าไม่ใช่แม่พระหรอกนะ”

จู่ๆ เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านที่ยิ้มหน้าทะเล้นสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา พูดอย่างจริงใจ “ท่านยาย ข้าไม่กลัวเรื่องวุ่นวาย ท่านอย่าได้ออกศีลเชียว”

ดวงตาขุ่นของหญิงชราเผยความอบอุ่น พยักหน้าน้อยๆ

เด็กหนุ่มถึงได้รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ยิ้มประหนึ่งเป็นพวกอันธพาลขึ้นมาอีกครั้ง

เพียงแต่ในใจเขารู้ดีว่าแม้ตนจะกำเริบเสิบสานไปสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับท่านยายแล้ว ตนก็เป็นเด็กดีที่ไม่มีพิษภัยเลยสักนิด

หากท่านยายเดือดดาลขึ้นมา สามารถแทงท้องฟ้าจนทะลุได้เลยเชียว!

……

นอกเรือนพัก

เหล่าผู้แข็งแกร่งหอเสียงสวรรค์หนีตาย รีบเร่งจากไปด้วยความแตกตื่นยากปกปิด

ผู้อาวุโสเฉิงเวิน ระดับราชันอริยะคนหนึ่งยังไม่ทันตอบสนอง ก็ถูกเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านนั่นสังหารแล้ว!

ยามคนเหล่านั้นย้อนกลับมาบอกข่าว เหล่าคนใหญ่คนโตของหอเสียงสวรรค์ต่างฮือฮา เดือดดาลกับเรื่องนี้

“อะไรนะ ผู้อาวุโสเฉิงเวินถูกฆ่าแล้วหรือ”

“ช่างกล้านัก”

“นี่เป็นถึงยานลมกรดของหอเสียงสวรรค์ เจ้าคนสมควรตายนั่นไม่รู้อะไรเรียกว่าเคารพยำเกรงเลยหรือ”

“เช่นนั้นฆาตกรที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์จะต้องเป็นคนผู้นี้แน่!”

เสียงเดือดดาลดังก้องขึ้นในโถงใหญ่

ผู้อาวุโสชั้นสูงฮว่าเตี่ยนซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งประธานขมวดคิ้วแน่น สีหน้าอึมครึมน่ากลัว พลันส่งเสียงตะโกน “หุบปาก!”

เสียงราวกับระเบิด ทำให้ทุกคนต่างเงียบกริบ

ยามนี้ฮว่าเตี่ยนถึงสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เอ่ยว่า “เล่าฐานะและที่มาของเด็กหนุ่มคนนั้นมาหน่อย”

“รายงานผู้อาวุโสชั้นสูง ในบันทึกขึ้นยาน เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านนั่นนามว่า ‘เสี่ยวจิ่ว’ ข้างกายมีหญิงชราคนหนึ่งติดตาม”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งรีบพูด

เสี่ยวจิ่ว?

ทุกคนในที่นั้นรู้ทันทีว่านี่ต้องเป็นชื่อปลอมแน่!

“ที่มาล่ะ”

ฮว่าเตี่ยนถาม “คนที่สามารถพักในเรือนพักเขารับแขกได้ ล้วนไม่ใช่คนทั่วไปแน่”

ผู้อาวุโสคนนั้นเหงื่อซึมหน้าผาก พูดเสียงสั่น “พวกเด็กหนุ่มเสี่ยวจิ่วนั่นจ่ายผลึกมรรคมาสามล้านผลึกจึงได้เข้าพักที่เขารับแขกขอรับ”

ทุกคนต่างอึ้งงัน นี่เป็นราคาที่สูงมาก คนทั่วไปจ่ายไม่ไหวแน่

อีกทั้งเพียงใช้เช่าเรือนพักหลังหนึ่งเท่านั้น ความรู้สึกที่มอบให้เหมือนกำลังฟุ่มเฟือย…

เวลานี้อู่อวิ๋นเหลียนพลันกล่าวว่า “ยอมเสียสามล้านผลึกมรรคก็ไม่ยอมเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตน อีกทั้งทันทีที่ลงมือก็สามารถฆ่าระดับราชันอริยะได้ นี่น่าสงสัยมาก!”

ทุกคนนัยน์ตาหดรัด

ฮว่าเตี่ยนลุกยืนทันใด นัยน์ตาสาดประกาย พูดด้วยไอสังหารพลุ่งพล่าน “ข้าล่ะอยากเห็นนัก ว่าเจ้าเสี่ยวจิ่วนี่เป็นอริยเทพจากไหนกันแน่!”

……

เขารับแขก ในเรือนพักที่เงียบสงบ

หนึ่งบทเพลงจบไป ท่วงทำนองที่เหลือลอยอวล ความคิดของหลินสวินก็ถูกดึงออกจากภวังค์ด้วย

เขาเงยมองไปก็เห็นหลิ่วชิงเยียนกำลังมองมาเช่นกัน ดวงตากระจ่างใสคู่นั้นสว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าเสียอีก

“ผู้อาวุโส ท่านดูเหมือนคิดถึงเรื่องทุกข์ใจอะไรบางอย่าง”

หลิ่วชิงเยียนถามเสียงเบา สิ่งที่นางเชี่ยวชาญที่สุดก็คือมรรคแห่งศาสตร์ดนตรี และดนตรีพันเปลี่ยนหมื่นแปลง สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์สภาวะจิตอย่างที่สุด

นางถึงขั้นสามารถใช้บทเพลงหนึ่งสอดส่องทุกความลับในใจผู้ฟังได้!

ทว่าเมื่อครู่นี้นางไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับการล่วงเกิน

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้นางก็ยังสังเกตได้อย่างฉับไว ว่าคลื่นอารมณ์ของผู้อาวุโสอวี่เสวียนที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนจะรุนแรงเกินไปหน่อย

หลินสวินพยักหน้าพูด “ข้าขอดูขลุ่ยวิญญาณโบราณนี้หน่อยได้หรือไม่”

หลิ่วชิงเยียนยื่นส่งให้พร้อมรอยยิ้ม

หลินสวินถือไว้ในมือ นิ้วทั้งสิบกดบนรูขลุ่ยวิญญาณโบราณอย่างเป็นธรรมชาติ ถูไปมาเบาๆ

หลิ่วชิงเยียนกล่าว “พูดถึงเครื่องดนตรีนี้ ทำให้ข้านึกถึงสหายคนหนึ่งขึ้นมา”

แต่กลับสับสนมาก ไม่สามารถแยกแยะและยืนยันได้มาโดยตลอด

……

หลินสวินเดินออกจากเรือนพักก็มองเห็นในทันใด บนทางภูเขาโคมไฟสว่างไสว เหล่าคนใหญ่คนโตของหอเสียงสวรรค์รวมตัวกัน ปิดล้อมอยู่หน้าประตูเรือนพักหลังหนึ่ง

ผู้แข็งแกร่งที่อาศัยอยู่ในเรือนแต่ละหลังบนเขารับแขกล้วนแปลกใจเหมือนหลินสวิน กำลังจับตามองทุกสิ่งนี้

“ทำไมไปหาเจ้าหมอนั่นล่ะ…”

หลินสวินอึ้งไป จำเรือนพักที่ถูกปิดล้อมได้ นั่นคือที่พักของเด็กหนุ่มชุดป่านคนนั้น

หลินสวินเผยสีหน้าประหลาดใจ ยืนดูการเปลี่ยนแปลงอยู่ตรงนั้นเงียบๆ

ประตูเรือนเปิดออก เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเดินเกียจคร้านออกมา พูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ข้าว่าแล้วเชียว นายน้อยอย่างข้ากลายเป็นแพะรับบาปเสียแล้ว แม่งเอ๊ย เมื่อกี้ไม่น่ามือบอนเลย นี่ไม่ใช่หาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ”

นอกเรือนบรรยากาศครัดเคร่ง

เหล่าคนใหญ่คนโตของหอเสียงสวรรค์กลุ่มนั้นถูกผู้อาวุโสชั้นสูงฮว่าเตี่ยนนำมา มีมกุฎราชันอริยะ มีราชันอริยะ แน่นขนัดเป็นกลุ่มใหญ่

เมื่อรวมกับระดับกึ่งจักรพรรดิอย่างฮว่าเตี่ยน ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยกันแล้ว เพียงแค่กลิ่นอายน่ากลัวที่แผ่ออกจากตัว ก็สามารถทำให้คนทั้งโลกสะพรึงกลัวแล้ว

อย่างเช่นตอนนี้ บนยานลมกรดจิตรับรู้ของผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ล้วนเฝ้ามองที่แห่งนี้ ทุกคนดูระมัดระวังอย่างที่สุด รู้สึกกดดันไปด้วย

ถึงอย่างไรขบวนรบเช่นนี้ก็แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ

แต่เด็กหนุ่มชุดป่านตัวคนเดียวเท่านั้น ไม่เพียงเดินอาดๆ ออกมาจากเรือน ยังท่าทางไม่เห็นพวกฮว่าเตี่ยนอยู่ในสายตา นี่ทำให้หลายคนประหลาดใจอย่างที่สุด

เด็กหนุ่มคนนี้เป็นอริยเทพมาจากไหน ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

“เจ้าเป็นคนฆ่าเฉิงเวินหรือ”

สีหน้าฮว่าเตี่ยนอึมครึม เอ่ยปากเฉยชา ข่มกลั้นไอสังหารในใจ ไม่ได้ลงมือในทันที

อีกฝ่ายสงบนิ่งเกินไป อีกทั้งที่มาก็ลึกลับอย่างมาก หากเป็นคนทั่วไปย่อมไม่กล้าฆ่าผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์แน่

และไม่ใช่ฆ่าคนเดียว แต่ฆ่าไปกลุ่มหนึ่งแล้ว!

“เจ้าหมายถึงเจ้าเฒ่าไร้ประโยชน์ที่ข่มขู่ข้าเมื่อครู่นี้หรือ”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านยิ้มถาม

ประโยคเดียวทำเอาทุกคนในที่นั้นเดือดดาลยกใหญ่ คำถามนี้ควรตอบอย่างไร บอกว่าใช่ ก็เหมือนยอมรับว่าเฉิงเวินคือเจ้าเฒ่าไร้ประโยชน์ แต่จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้

“เจ้าหนู ก่อนตายยังจะปากคอเราะราย! ขืนยังไม่พูดความจริงเชื่อหรือไม่ว่าจะจับเจ้าถลกหนังตอนนี้เลย”

ผู้อาวุโสระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งด่าว่าอย่างน่าเกรงขาม

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านหลุดขำออกมา เหลือบตามองแล้วชี้จมูกตนอย่างท้าทายเต็มประดา “บอกแล้วนะว่าจะถลกหนัง เดี๋ยวหากเจ้าทำไม่ได้ นายน้อยอย่างข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์