Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1837

มกุฎราชันอริยะ พลังเขตแดนมรรคที่ครอบครองย่อมน่าสะพรึงเหนือจินตนาการเป็นธรรมดา

อู้หมิงเป็นหนึ่งในเก้าผู้ทรงฌานหลุดพ้นแห่งแดนกษิติครรภ์ เคี่ยวกรำมรดกเมืองพุทธ รากฐานและพลังต่อสู้ย่อมหาใช่ธรรมดาทั่วไป

เมื่อหนึ่งฝ่ามือซัดออกไป อานุภาพเปี่ยมล้มที่สำแดงออกมาทำให้กึ่งจักรพรรดิเหลียงชวนยังรู้สึกตกใจ และทำเอาผู้แข็งแกร่งที่ลอบมองดูการต่อสู้ในเงามืดต่างสะเทือนอารมณ์ไม่สิ้น

ทว่าก็เป็นฝ่ามือนี้ ที่ถูกหลินสวินต้านทานสลายไปอย่างไร้สุ้มเสียง

พร้อมๆ กับพลังฝ่ามือของหลินสวินพุ่งออกไป

ตูม!

ทั่วทั้งตัวอู้หมิงล้วนส่ายไหวอย่างจัง เสื้อผ้าโบกสะบัด งอบเหนือศีรษะล้วนแตกระเบิดทันควัน แหลกกระจุยล่องลอย

“ทะยาน!”

ที่ตีนเขา ภิกษุเฒ่าตู้คงเปล่งคำหนึ่งออกมา

ทั่วทั้งเขารับแขกพลันปิดครอบด้วยพลังคุ้มกันไร้รูปหนึ่งชั้น

ชายชราในชุดคลุมสีหน้าไม่ไหวติง เก็บมือขวาที่รวบอยู่แขนเสื้อกลับมาเงียบๆ ก่อนหน้านี้เขาเองก็ตั้งใจจะทำเช่นนี้เหมือนกัน

หาไม่ ลำพังแค่การต่อสู้ครั้งนี้ปะทุขึ้น เขารับแขกลูกนี้คงถูกซัดกระจุยเป็นแน่

“แข็งแกร่งนัก!”

“เจ้าหมอนี่เก็บงำได้ลึกล้ำนัก มิน่าถึงสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์พวกนั้นได้ ขนาดผู้แข็งแกร่งเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนเหล่านั้นยังถูกเขากำราบด้วยมือเดียว”

พื้นที่ต่างๆ ของเขารับแขกมีเสียงร้องอุทานระลอกหนึ่งดังขึ้น

“สหายยุทธ์ เจ้าไม่คิดจะไปกับพวกเราสักเที่ยวจริงๆ หรือ”

สายตาของอู้หมิงดั่งมหาสมุทร ไหลเวียนสัญลักษณ์อักษรสันสกฤตอันคลุมเครือ

ขณะพูดเขาสาวเท้าก้าวขึ้นหน้า ใต้ฝ่าเท้าปรากฏดอกบัวสีดำดอกแล้วดอกเล่า และด้านหลังของเขามีภิกษุท่องธรรม กำราบเงาแสงมืดมิด ขับเน้นให้เขาดูมีอานุภาพน่าสยดสยอง

ตูม!

ทันใดนั้นเขายกมือขึ้น ครรลองฟ้าลักษณ์ปฐพี ห้าดรรชนีควบรวมประทับขวดสมบัติออกมา เหินข้ามอากาศเข้าโจมตี

“เจ้าอยู่ต่อไม่ใช่ว่ายิ่งดีหรือ”

หลินสวินเอ่ยปากเสียงเรียบ

ทันทีที่เขาดีดนิ้ว กระถางใหญ่ใบหนึ่งก็ปรากฏ ลายมรรคบนนั้นสอดประสาน กฎเกณฑ์ไหลเวียน เผยอานุภาพกำราบทั่วสี่ทิศ ไม่อาจสั่นคลอนได้

ประทับขวดสมบัติและกระถางใหญ่ชนกระแทกกันอย่างแรงบนห้วงอากาศ แสงมรรคและประกายเรืองรองน่าสะพรึงแผ่กว้าง เสียงอึกทึกครึกโครมก้องสะท้อนดุจสายฟ้า

ประทับขวดสมบัติแตกสลายทันที กระถางใหญ่ก็ร่วงตามลงไป เข้ากำราบไปทางอู้หมิง

อู้หมิงนัยน์ตาหดรัด สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทั่วร่างรายล้อมด้วยแสงธรรมสีดำ ชั่วขณะนั้นมองผ่านๆ ราวกับกลายร่างเป็นสามหัวหกแขน ซัดฝ่ามือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ปัง! ปัง! ปัง!

ประทับฝ่ามือราวกับหยาดฝนก็ไม่ปาน ซัดใส่กระถางใหญ่ ทุกๆ การโจมตีล้วนมีอานุภาพซัดถล่มภูผาธารา

สุดท้ายกระถางใหญ่ก็แตกกระจุยกระจาย

แต่หลินสวินสบโอกาสบุกโจมตีเข้ามานานแล้ว ร่างดั่งจอมราชันเจ้าเหนือหัวผู้ปกครองแว่นแคว้น ใช้เก้ากระถางเป็นพลัง พาดขวางกลางห้วงอากาศ อานุภาพไม่อาจขวางกั้น

ตูม โครม!

ฟ้าหม่นมัวดินมืดมิด ห้วงอากาศปั่นป่วน

เพียงพริบตาเท่านั้นทั้งคู่ก็ปะทะโรมรันกันกว่าร้อยกระบวน สภาพการต่อสู้สุ่มเสี่ยง น่าตระหนกตกตะลึง

เพียงแต่อู้หมิงอยู่ในสภาพถูกกำราบอย่างสิ้นเชิง

อานุภาพบุกโจมตีของหลินสวินเหี้ยมหาญเกินไป แข็งแกร่งไร้ทัดเทียม ทุกท่วงท่าอิริยาบถยิ่งมีอานุภาพยิ่งยง ทุกการโจมตีล้วนสามารถฆ่าราชันอริยะคนหนึ่งอย่างง่ายดาย

ไม่ว่าอู้หมิงจะต่อต้านหรือสลายอย่างไร ล้วนตกอยู่ในสภาพถูกกำราบอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน

ไม่ใช่ว่าเขาแข็งแกร่งไม่พอ ตรงกันข้าม ในฐานะหนึ่งในเก้าผู้ทรงฌานแดนกษิติครรภ์ รากฐาน พลังปราณ รวมถึงพลังมหามรรคที่เขาครอบครอง ไม่มีสิ่งไหนไม่ใช่ชั้นยอดในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ถือเป็นพวกแนวหน้า

หากไม่ใช่เพราะมาจากโลกมืด ด้วยศักยภาพของเขาก็สามารถไต่เต้าขึ้นร้อยอันดับแรกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย

เพียงแต่ครั้งนี้เขามาพบกับหลินสวิน พวกร้ายกาจยิ่งยวดที่ข้ามมหาเคราะห์ต้องห้ามแห่งยุค เคี่ยวกรำมรรคาหนึ่งเดียวในใต้หล้า

ว่ากันถึงความเชี่ยวชาญในระดับมกุฎราชันอริยะ ในหมู่ผู้แข็งแกร่งรุ่นเดียวกันนับแต่อดีตจนปัจจุบัน ล้วนหาไม่ได้สักกี่คนที่สามารถเทียบรัศมีกับหลินสวินได้!

แม้จะไม่ได้ใช้ร่างเดิม ทว่าอาศัยพรสวรรค์แห่งกายมรรคไม้เขียว ก็เพียงพอจะทำให้หลินสวินไม่เกรงกลัวคนรุ่นเดียวกันคนใดแล้ว

อู้หมิง…

ไม่ไหว!

คนไม่น้อยเป็นพยานเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องหน้านี้ ต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี หวาดผวาไม่สิ้น

จนป่านนี้มีหรือพวกเขาจะดูไม่ออก ว่าภายใต้การปะทะซึ่งหน้า ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์นั่นยังดูด้อยกว่าอยู่หนึ่งช่วง!

เด็กหนุ่มชุดป่านนึกอยากกระโจนออกไปหลายครั้ง ทว่าล้วนถูกหญิงชราขวางไว้ เขาทั้งจนปัญญาทั้งทอดถอนใจ พี่ชายคนนี้เก็บงำไว้ลึกเกินไปแล้ว!

“นายน้อย ต่อไปท่านก็เข้าใจ โลกใหญ่หงเหมิงไม่เคยขาดแคลนคนแบบนี้”

เสียงของหญิงชราราบเรียบ

อันที่จริงในใจนางเองก็เจือแววเสียดายเสี้ยวหนึ่ง โลกใหญ่หงเหมิงไม่ขาดแคลนยอดอัจฉริยะจริงอย่างว่า แต่ยอดอัจฉริยะแบบหลินสวิน สุดท้ายก็ยังมีจำนวนน้อยอยู่ดี

น่าเสียดาย หลังจากวันนี้ไป ยอดอัจฉริยะเช่นนี้เกรงว่าคงต้องหายสาบสูญไปจากโลก…

พรวด!

ในที่นั้นสุดท้ายอู้หมิงก็กลั้นไม่อยู่ ริมฝีปากกระอักเลือด

สีหน้าเขาซีดขาว กลางนัยน์ตาเต็มไปด้วยแววเคร่งเครียด

ตอนนี้เขากล้าฟันธงแล้ว ว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นมารนอกรีตคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเป็นแน่

ต่อให้กลิ่นอายของอีกฝ่ายจะถูกซ่อนเร้น ทว่าพลังและฝีมือที่สำแดงออกมา ล้วนมีส่วนคล้ายคลึงกับมารนอกรีตคนนั้นอย่างน่าทึ่ง

“เขาไม่ไหว เจ้าอยากเข้ามาพร้อมกันหรือไม่”

ผมดำของหลินสวินโบกพลิ้ว แสงมรรคสีเขียวรอบกายโปร่งใสราวกับกระจกแก้ว เงาร่างเรืองรอง ท่าทางผงาดผยองและองอาจ

“ข้าคนเดียวก็พอ”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยเอ่ยปากเสียงเย็นเยียบ

เงาร่างของนางขยับไหว ดั่งฝันดุจมายา โผล่มาในสนามรบโดยพลัน รวบนิ้วเหมือนกระบี่ เสียงฉัวะดังคราหนึ่ง บั่นเฉือนห้วงอากาศขาดสะบั้น!

คมของมันราวกับสายฟ้า อานุภาพของมันเหมือนสายลม ท่วงทำนองของมันดุดัน บารมีของมันไม่อาจคาดเดา!

“คัมภีร์ลมกรดกระบี่ปั่นป่วน!”

เด็กหนุ่มชุดป่านที่ชมการต่อสู้อยู่ในลานตลอดเวลาร้องโพล่งออกมา กระบี่นี้เป็นมรดกตกทอดสูงสุดของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน เป็นคัมภีร์กระบี่ชั้นยอดที่จักรพรรดิขาวดึกดำบรรพ์สร้างขึ้น!

เงาร่างหลินสวินขยับไหว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์