ปราณกระบี่ดั่งลม ดุจสายฝน เหมือนน้ำตก ประหนึ่งกระแสน้ำหลาก
เมืองจักรพรรดิขาวที่ยิ่งใหญ่ ปราณกระบี่คับจักรวาล!
ขนาดหลินสวินยังไม่อาจไม่ยอมรับ เขตแดนมรรคที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยควบรวมออกมาเรียกได้ว่าตระการตาวิเศษอัศจรรย์ กว้างใหญ่ไพศาล คุณลักษณะเหนือธรรมดา
หากเปลี่ยนเป็นคนรุ่นเดียวกันทั่วไปเกรงว่าคงไม่มีแรงต้านทานสักนิด ผลสุดท้ายต้องลงเอยด้วยสภาพหมื่นกระบี่ทะลุกาย ตายอนาถคาที่
เพียงแต่หลินสวินกลับเหมือนมองไม่เห็นทุกสิ่งเหล่านี้ เขาลัดเลาะตามท้องถนนกว้างใหญ่ที่สะอาดสะอ้าน มุ่งหน้าไปทางต้นเมือง
ท่วงท่าสบายอารมณ์
ปราณกระบี่แน่นขนัดทั่วสี่ทิศแปดทางส่งเสียงกังวานแหลมฉีกทึ้งแก้วหูแหวกฝ่าห้วงอากาศมา แน่นขนัดดุจกระแสน้ำ พลุ่งพล่านดั่งมหาสมุทร ครอบฟ้าคลุมดิน
เพียงแต่ไม่รอให้สัมผัสโดนหลินสวิน ก็สลายหายไปเป็นเสี่ยงๆ ยามห่างออกไปสิบจั้ง
ปราณกระบี่นับพันหมื่น ยามนี้กลับเสมือนหยาดหิมะก็ไม่ปาน หลอมละลายหายไปอย่างไร้สุ้มเสียง ขับเน้นจนหลินสวินดุจดั่งหมื่นวิชาไม่อาจรุกราน
เขาสาวเท้าเดินไปข้างหน้าเนิบๆ เช่นนี้ ฝนกระบี่ดุจดั่งม่าน กองพะเนินเป็นชั้นๆ อานุภาพราวกับสามารถทำลายย่อยยับได้อย่างง่ายดาย
แต่ไม่ว่าจะบุกโจมตีอย่างไร ล้วนไม่สามารถสั่นคลอนบริเวณสิบจั้งรอบกายหลินสวินได้เลย!
แทบจะพริบตาเดียว หลินสวินก็เข้าประชิดหอกำแพงสูงตระหง่านนั่นแล้ว
แหงนหน้ามองขึ้นไป เงามายากำยำสายนั้นนั่งเป็นควบคุมอยู่บนหอกำแพง เจตกระบี่ทั่วร่างเวิ้งว้าง ประหนึ่งเทพมรรคกระบี่ในตำนาน
นี่ก็คือจักรพรรดิขาวดึกดำบรรพ์?
จักรพรรดิในตำนานที่ใช้กระบี่แจ้งมรรค เข้าสู่ระดับจักรพรรดิที่สุดยอดคนหนึ่ง?
จากนั้นหลินสวินก็เก็บสายตากลับมา ในใจค่อนข้างเสียดาย
เงามายาสายนี้ ลักษณะพลังสายเดียวสามารถคุกคามจิตใจผู้ฝึกปราณได้ แต่กลับไม่มีอานุภาพแท้จริงที่เป็นส่วนหนึ่งของระดับจักรพรรดิ
กล่าวง่ายๆ นี่ก็คือภาพเสมือนสายหนึ่ง เพียงแต่มีลักษณะพลังที่เป็นของมหาจักรพรรดิคนหนึ่งเท่านั้น
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ การที่ลักษณะพลังของมหาจักรพรรดิดึกดำบรรพ์คนหนึ่งซึมซาบเข้าสู่เขตแดนมรรคของตนได้ ฝีมือระดับนี้ล้วนเรียกได้ว่าวิเศษยอดเยี่ยม
เป็นครั้งแรกที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยใจสะท้าน ดวงเนตรงามหดรัด จิตใจผุดระลอกคลื่นเวียนวน
นางไม่อาจจินตนาการ บนโลกใบนี้ถึงกับมีคนสามารถ… เดินทอดน่องอยู่ภายใน ‘เมืองจักรพรรดิขาว’ ของนางได้!
นี่หมายความว่าการควบคุมพลังต่อเขตแดนมรรคของอีกฝ่ายอยู่เหนือกว่านางมากใช่หรือไม่
นี่เป็นไปได้อย่างไร
จินเทียนเสวียนเยวี่ยทระนงตนถึงขีดสุดเรื่อยมา มั่นใจเต็มเปี่ยมต่อความแข็งแกร่งแห่งตน ตั้งแต่เล็กจนโตยังไม่เคยถูกต้านเช่นนี้มาก่อน
ชั่วขณะนี้จิตใจของนางบังเกิดแรงสะเทือน!
เมื่อเห็นหลินสวินจวนจะเข้าใกล้หอกำแพงสูงตระหง่านนั่นอยู่รอมร่อ จินเทียนเสวียนเยวี่ยพลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใช้ไพ่ตายสุดท้ายของตน
“มรรคข้าประหนึ่งเมือง มั่นคงไม่อาจเคลื่อน!”
“เมืองข้าดุจโลก กระบี่ตัดสินเป็นตาย!”
ชิ้ง!
บนหอกำแพงสูงตระหง่าน ประทับกระบี่จักรพรรดิขาวสายหนึ่งที่ลอยอยู่กลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งโดยพลัน ยาวสองฉื่อสามชุ่น กว้างสี่นิ้วมือ ขาวหิมะโปร่งใส
ตูม โครมๆ !
สี่ทิศแปดทางมีกระแสฝนกระบี่นับไม่ถ้วนรวมตัวกันเข้ามา ทั้งหมดล้วนผสานเข้ากระบี่เล่มนี้ ทำให้กระบี่นี้ราวกับอาทิตย์ดวงใหญ่ ประกายแสงยิ่งแสบตามากขึ้น อานุภาพยิ่งบีบคั้นมากขึ้นทุกที
ทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิขาวล้วนถูกเจตกระบี่น่าสะพรึงที่มันแผ่ออกมาปิดครอบ
หลินสวินชะงักเท้า ในที่สุดก็เผยสีหน้าเคร่งขรึม
กระบี่นี้ ทำให้เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันอย่างหนึ่งที่ปะทะเข้ามา
“ฟัน!”
บนหอกำแพง กระบี่นั้นราวกับสูบพลังทั้งหมดของเมืองจักรพรรดิขาว ใช้อานุภาพเนิบช้าแต่แฝงตัวอยู่ทุกแห่งหนบรรจงฟันลงมา
กระบี่เดียวพาดขวางฟ้าดิน ปิดครอบทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิขาว ไม่อาจหลบเลี่ยง!
“กระบี่นี้ คุ้มกับการที่ข้าบุกโจมตีเต็มกำลัง”
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง บริเวณสิบจั้งของร่างกายปรากฏต้นแบบเขตแดนมรรคหนึ่งออกมา
คล้ายเตาหลอมก็ไม่ใช่ คล้ายหุบเหวก็ไม่เชิง
คลุมเครือลึกล้ำ ไม่อาจสาธยาย!
ตูม…
ชั่วขณะนี้ เงาร่างหลินสวินราวกับกลายเป็นหลุมดำ ตึกอาคาร ถนนหนทาง ผืนดินกว้างใต้เท้า ฟ้าดาราเหนือศีรษะละแวกนั้นทั้งหมดล้วนถูกพลังน่าสะพรึงดึงดูด ทยอยแตกระแหงระเบิดกระจุยตามๆ กัน
ขณะที่กระบี่นั่นฟันลงมา เมืองจักรพรรดิขาวกว้างใหญ่ก็กลายเป็นหุบเหวลึกที่ประหนึ่งเป็นความว่างเปล่าไปทั้งสิ้น
กระบี่นี้น่าสะพรึงปานใด พราวตาปานใด
ทว่าในเวลานี้กลับตกสู่หุบเหวลึกอย่างไร้สุ้มเสียง ถูกกลืนกินหายลับ…
เมืองจักรพรรดิขาว เวลานี้ระเบิดกระจุยกระจาย
บนเขารับแขก ประกายศักดิ์สิทธิ์ระเบิดแสง เสียงกัมปนาทก้องกระหึ่มดุจสายฟ้า สั่นสะเทือนและปั่นป่วน
จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่ท่วงท่าผ่าเผยมีสง่าราศี ดวงหน้าอรชรซีดขาว ริมฝีปากมีคราบเลือดแดงก่ำไหลออกมาสายหนึ่ง ทั่วร่างสั่นเทิ้มเล็กน้อย
ดวงเนตรงามของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ อึ้งงันอยู่ตรงนั้น
นางหยั่งรู้มาสามสิบหน แต่ ‘เมืองจักรพรรดิขาว’ ที่ควบรวมขึ้นมายามนี้ถึงกับถูกทำลายทั้งอย่างนี้…
ทั่วลานเงียบกริบ เงียบสงัดไร้สุ้มเสียง
ทั้งบนล่างเขารับแขก ไม่มีใครไม่สะท้าน
จินเทียนเสวียนเยวี่ยเป็นผู้โดดเด่นดุจเซียน ‘เมืองจักรพรรดิขาว’ วิเศษอัศจรรย์ปานใด แต่กลับไม่สามารถล้อมสังหารอวี่เสวียนนั่นได้!
นี่เหนือความคาดหมายของผู้คนเกินไป!
หญิงชราอึ้งงันเล็กน้อยอย่างหาได้ยาก ลอบกล่าวในใจว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เจ้าหมอนั่นจะเป็นพวกไร้ชื่อเสียง แค่ไม่ว่ารู้มาจากสำนักไหนก็เท่านั้น
เด็กหนุ่มชุดป่านอ้าปากกว้าง จากนั้นสูดหายใจเฮือก เขาเองก็ถูกทำให้สะท้านไปยกหนึ่ง ในใจบังเกิดความตกตะลึง
ที่ตีนเขา กลางนัยน์ตาภิกษุเฒ่าตู้คงที่ลืมขึ้นมีประกายวาบผ่าน เจ้านอกรีตนี่เทียบกับตอนที่อยู่แหล่งสถานคุนหลุนแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ที่ไหล่เขา ชายชราในชุดคลุมอึ้งค้างไม่พูดจา หัวคิ้วขมวดมุ่น
จินเทียนเสวียนเยวี่ย ความภาคภูมิในหมู่คนรุ่นเยาว์ของตระกูลจินเทียน ถูกเขาตั้งความหวัง เดิมทีคิดว่าระดับของนางทะลวงแล้ว ควบรวม ‘เมืองจักรพรรดิขาว’ ได้ย่อมต้องกำราบคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์