บนเขารับแขกบรรยากาศกดดัน
จิตรับรู้ทั้งหมดจากภายนอกล้วนถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง
ส่วนการแทรกแซงของภิกษุเฒ่าตู้คง ชายชราในชุดคลุมไม่รู้สึกประหลาดใจ เขาเพียงแต่ไม่ค่อยเข้าใจ
“แค่พวกที่เหมือนมดตัวหนึ่ง ก็ควรค่าให้จอมมุนีระดับจักรพรรดิเช่นเจ้าออกโรงด้วยหรือ”
เสียงของชายชราในชุดคลุมราบเรียบ
นี่ผิดปกติยิ่ง
แดนกษิติครรภ์เป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืด ถูกทั่วทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราตราหน้า
อย่างจอมมุนีระดับจักรพรรดิอย่างตู้คง หากไม่ใช่เรื่องสำคัญก็ไม่กล้าปรากฏตัวบนทางเดินโบราณฟ้าดาราง่ายๆ เด็ดขาด หาไม่จะต้องถูกพวกร้ายกาจบางส่วนจับจ้องเป็นแน่
ภิกษุเฒ่าตู้คงสีหน้าราบเรียบ “เจ้าหมอนี่เป็นคนนอกรีตที่ชั่วช้าสุดขั้วคนหนึ่ง หลายปีมานี้เคยฆ่าผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ของข้าไปไม่น้อย”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อ “สหายยุทธ์ก็เห็นแล้ว พลังต่อสู้ของเจ้าหมอนี่แทบจะเป็นไร้ศัตรูอยู่ในระดับมกุฎราชันอริยะ ต่อให้ส่งผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิทั่วไปออกมา เกรงว่าก็ยากจะฆ่าเขาได้”
ประโยคนี้ทำให้หัวใจอู้หมิงและจินเทียนเสวียนเยวี่ยพลิกม้วน
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยโรมรันกับหลินสวิน ย่อมรู้ดีว่าพลังของคู่ต่อสู้คนนี้น่าสะพรึงปานใด พวกเขาถึงขั้นสงสัยว่าตั้งแต่ต้นจนจบอีกฝ่ายยังไม่เคยใช้พลังต่อสู้เต็มกำลังเลยด้วยซ้ำ!
“คนนอกรีต?”
ชายชราในชุดคลุมแค่นเสียงเย็น “สาเหตุที่แท้จริงเกรงว่าคงจะไม่ใช่เพียงเท่านี้กระมัง”
ภิกษุเฒ่าตู้คงขมวดคิ้ว
ไม่รอให้เขาเอ่ยปาก ชายชราในชุดคลุมก็กล่าวด้วยสีหน้าเรียบๆ “เจ้าอยากพาตัวเขาไปก็ได้ หมื่นปีให้หลัง ข้ารับรองว่าจะไม่ขัดขวางเจ้า”
นัยแฝงในคำพูดก็คือ ครั้งนี้อวี่เสวียนนี่จะต้องถูกกำราบหนึ่งหมื่นปี ต่อให้แดนกษิติครรภ์อย่างเจ้ายื่นมือเข้าแทรกก็ไม่ได้!
ภิกษุเฒ่าตู้คงถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง เอ่ยว่า “สหายยุทธ์ไยต้องทำเช่นนี้ด้วย”
เงาร่างเขาขยับไหว ถึงกับแบ่งออกเป็นสองร่าง!
ในที่นั้นปรากฏภิกษุเฒ่าตู้คงขึ้นอีกคน ลักษณะของทั้งคู่เหมือนกันไม่มีผิด เพียงแต่คนหนึ่งสวมชุดป่าน กลิ่นอายคลุมเครือมืดสลัว
อีกคนสวมจีวรสีขาว สีหน้าเคร่งขรึม ทั่วร่างแสงเจิดจ้าไหลหลั่ง เจือกลิ่นอายเต็มสมบูรณ์
“สองร่างฌานสว่างมืดมิด!”
ชายชราในชุดคลุมนัยน์ตาหดรัด
นี่คือมรดกสูงสุดที่วิเศษอัศจรรย์และน่าสะพรึงถึงขีดสุดของแดนกษิติครรภ์ ร่างฌานสองร่าง ร่างหนึ่งเคี่ยวกรำมรรคมืดมิดกษิติครรภ์ ร่างหนึ่งเคี่ยวกรำมรรคสว่างกษิติครรภ์
สว่างและมืดมิดโคจรร่วมกัน แบ่งแยกดีชั่ว แสงธรรมส่องทาง สัญจรในความมืดมิด อัศจรรย์พันลึกถึงขีดสุด
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ยามที่ต่อสู้ร่างฌานสว่างมืดมิดสองร่างล้วนมีระดับเหมือนกัน พลังต่อสู้เหมือนกัน ต่อสู้กับพวกเขาก็เหมือนสองรุมหนึ่ง!
“สหายยุทธ์ หากจะสู้กันแดนกษิติครรภ์ของข้าไม่กลัวเป็นตาย โปรดคิดทบทวนให้ดี”
ภิกษุเฒ่าตู้คงสองคนเอ่ยปากพร้อมกัน คนหนึ่งสีหน้าโอบอ้อม อีกคนสีหน้าเลือดเย็น ให้ความรู้สึกขัดแย้งยิ่งยวด
“เพื่อมดตัวเดียว กลับข่มขู่ข้าโดยไม่กลัว ดูท่าบนตัวเจ้าหมอนี่ต้องมีจุดที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่ ใช่หรือไม่”
นัยน์ตาชายชราในชุดคลุมราวกับมีหมื่นกระบี่ไหลพล่าน แผ่ลำแสงคมกริบน่าสะพรึงออกมา
หัวใจของจินเทียนเสวียนเยวี่ยกับอู้หมิงต่างบีบรัด
ใครก็คิดไม่ถึงว่าเพื่ออวี่เสวียนคนเดียว ระดับจักรพรรดิสองคนถึงกับไม่ยอมอ่อนข้อ แข็งกร้าวใส่กัน!
ส่วนหลินสวิน ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนถูกมองข้าม
ก็เหมือนแกะรอถูกเชือดตัวหนึ่ง ใครๆ ต่างก็ยื้อแย่งอยากจะสังหารเขา!
ภาพเช่นนี้ ทำให้ในใจหลินสวินบังเกิดโทสะขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
นานมากแล้ว เขาไม่เคยสัมผัสกับรสชาตินี้อีกเลย
ระดับจักรพรรดิสองคน สูงส่งผ่าเผย คนหนึ่งอยากจะกำราบเขาหนึ่งหมื่นปี อีกคนเห็นเขาเป็นคนนอกรีต อยากจะพาตัวเขาไปด้วย
หนำซ้ำยังยื้อแย่งกันด้วยเหตุนี้อีกด้วย!
‘นี่พวกเขาเห็นข้าเป็นตัวอะไร… เหยื่อที่จะฆ่าได้ตามใจชอบหรือ’
นัยน์ตาดำของหลินสวินยิ่งลุ่มลึกมากขึ้น จู่ๆ ก็กล่าวว่า “วันหน้าหากข้าเป็นจักรพรรดิ จะทำให้พวกเจ้าได้สัมผัสรสชาตินี้บ้างอย่างแน่นอน”
น้ำเสียงราบเรียบยิ่ง
สีหน้าก็สงบนิ่งไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ
ทว่ากลิ่นอายในนั้นกลับเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นและปราศจากข้อกังขาปานนั้น!
อู้หมิง จินเทียนเสวียนเยวี่ยต่างพากันอึ้งไป จากนั้นในใจก็มีความรู้สึกขบขันอย่างหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมา เจ้าหมอนี่ยังคิดว่าครั้งนี้ตัวเองจะรอดชีวิตได้อีกหรือ
ชายชราในชุดคลุมมุมปากกระตุก กล่าวว่า “รู้ทั้งรู้ว่าจนหนทางแต่ยังร้องทุกข์อย่างไม่ยินยอมหรือ อ่อนหัด”
บนโลกนี้ยามที่ทุกคนใกล้ตาย มักจะคำรามเดือด สาบาน สาปแช่งอย่างไม่ยินยอม… นี่ช่างน่าขันอย่างยิ่ง
ไม่มีใครเก็บมาใส่ใจ!
ภิกษุเฒ่าตู้คงส่ายหน้า ไม่ได้สนใจ
“พี่ชาย ข้าเสวียนจิ่วอิ้นชั่วชีวิตนี้ไม่เคยยอมให้ใครที่ไหน ครั้งนี้หากเจ้าตายไป ภายหน้าข้าจะช่วยเจ้าทำความปรารถนานี้ให้เป็นจริงเอง!”
ในเรือนพัก เด็กหนุ่มชุดป่านที่ภายในใจอัดอั้นจนแทบจะระเบิดมานานแล้วส่งเสียงตะโกนขึ้นมากะทันหัน ดวงตาแดงก่ำ ร่างกายสั่นเทิ้ม
หญิงชราอึ้งไป เท่าที่จำได้นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นเด็กหนุ่มชุดป่านทำหน้าเดือดดาลเด็ดขาดปานนี้
เขาก่อนหน้านี้เกเรเอาแต่ใจ ไม่ยั้งคิด ไร้ขื่อไร้แป ถึงแม้ปราณจะรุดหน้าด้วยความเร็วน่าทึ่ง แต่กลับเหมือนเด็กไม่รู้จักโตอยู่เรื่อย
แต่ตอนนี้…
ดูเหมือนจะต่างออกไปจริงๆ แล้ว
ชายชราในชุดคลุมขมวดคิ้ว แซ่เสวียน! หรือจะเป็นทายาทเผ่าโบราณคนนั้น
ภิกษุเฒ่าตู้คงสีหน้าเฉยชา หากไม่ใช่ติดที่หญิงชราคนนั้นอยู่ด้วย เขาคงจัดการสังหารเด็กหนุ่มที่โพล่งวาจาสามหาวคนนี้อย่างไม่ลังเลเป็นแน่
เสวียนจิ่วอิ้น
หลินสวินพึมพำในใจ ที่แท้เจ้าหมอนี่ก็แซ่เสวียน…
“ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าพี่ชาย ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะบอกเจ้า ข้าไม่ตายหรอก ขืนเจ้ายังสาปแช่งข้าอีกระวังข้าจะต่อยเจ้า”
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยปากเสียงเรียบ
ประโยคเดียวทำเอาเสวียนจิ่วอิ้นเบิกตากว้าง เหตุใดเจ้าหมอนี่ใกล้ตายรอมร่อแล้วยังปากแข็งอยู่อีก!
พวกอู้หมิง จินเทียนเสวียนเยวี่ยต่างก็ส่ายหน้าไม่หยุด
ไม่ตายหรอก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์