ยานลมกรดเงียบกริบ ทุกคนล้วนสีหน้าแปลกไป
แขกบนยานรู้ดีแต่ต้น ก่อนหน้านี้ผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์พวกนั้นถูกอวี่เสวียนฆ่าตาย แต่อวี่เสวียนในยามนี้กลับถูกหอเสียงสวรรค์เทิดทูนเป็นแขกพิเศษ ตำแหน่งแปลกแยกโดดเด่น
ข่งหลินบอกว่าหอเสียงสวรรค์คุ้มครองและให้ท้ายอวี่เสวียน ไม่ใช่เรื่องเท็จเลย
ตอนนี้ขบวนคนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งมาเยือน หนำซ้ำฟ้าดาราละแวกนี้ก็เป็นส่วนของหนึ่งเขตแดนดาราราชันแสง นั่นเท่ากับอยู่บนในอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ อวี่เสวียน… เกรงว่าคงต้องประสบเคราะห์แล้ว!
“เหอะๆ ดียิ่ง!”
ข่งอวี้หัวเราะ เพียงแต่เสียงหัวเราะนั้นเย็นชาเป็นพิเศษ
ใครต่างก็ดูออก เขาเดือดดาลแล้ว!
เหลียงชวนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งกล่าวว่า “คุณชายข่งอวี้ เรื่องนี้มีอย่างอื่นแอบแฝง ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด ไม่สู้ไปเป็นแขกที่โถงใหญ่หอเสียงสวรรค์ของข้าก่อน ให้ข้าอธิบายสักหน่อยเป็นอย่างไร”
“ช่างเถิด”
เสียงของข่งอวี้เย็นชา “มิน่ายานลมกรดถึงไม่หยุดแวะที่โลกใหญ่แดนธรรม หากไม่ใช่เพราะข้าคนแซ่ข่งตามขึ้นมา เกรงว่าคงปล่อยให้พวกเจ้าทำเนียนผ่านไปแล้ว!”
ในใจพวกเหลียงชวนต่างสั่นสะท้าน ทั้งขมขื่นและจนปัญญา
“เหอะๆ แค่หอเสียงสวรรค์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ถึงกับช่วยคนอื่นรังแกตระกูลข่งของพวกเรา พวกเจ้าคงคร้านจะมีชีวิตอยู่กันแล้วกระมัง”
ด้านหลังข่งอวี้ ชายวัยกลางคนชุดขาวหัวเราะอย่างเยียบเย็น
“นายน้อย ท่านแค่พูดประโยคเดียว ข้าจะช่วยท่านเชือดสารเลวพวกนี้เอง”
ชายชราชุดเขียวเอ่ยปากด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ประโยคเดียวไอสังหารห้อมล้อม ทำเอาผู้ฝึกปราณที่เฝ้าดูอยู่บนยานต่างหายใจติดขัด หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่
“คุณชายข่งอวี้ พวกข้าสาบานต่อสวรรค์ หาได้มีใจจะหยามเกียรติตระกูลข่งเป็นอันขาด”
เหลียงชวนรีบอธิบายเป็นพัลวัน
กึ่งจักรพรรดิผู้สูงส่งเช่นเขา ยามนี้กลับมีท่าทางก้มหน้าพินอบพิเทา ร้อนรนจนปัญญา ทำเอาคนไม่น้อยที่ได้เห็นอดถอนหายใจในใจไม่ได้
ผู้อาวุโสชั้นสูงของหอเสียงสวรรค์แล้วอย่างไร
อยู่ต่อหน้าเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งนี่ สุดท้ายก็ไม่ได้ความเกินไปอยู่ดี!
ข่งอวี้กล่าวเสียงเย็น “หลิ่วชิงเยียน นางชั้นต่ำนั่นล่ะ”
ข่งหลินที่อยู่ด้านข้างรีบกล่าวว่า “ก็อยู่บนยาน ถูกอวี่เสวียนนั่นคอยคุ้มครองตลอด หากไม่ใช่เพราะเป็นเช่นนี้ ข้าคงจับตัวนางชั้นต่ำนั่นได้ตั้งนานแล้ว”
เพี๊ยะ!
ข่งอวี้สะบัดฝ่ามือใส่หน้าของข่งหลิน นัยน์ตามืดทะมึน “นางชั้นต่ำใช่คำที่เจ้าก็เรียกได้รึ”
ข่งหลินมึนงง กุมหน้าที่บวมแดงเอาไว้ เงียบกริบปานจักจั่นหน้าหนาว
ข่งอวี้หันสายตามองไปทางพวกเหลียงชวน น้ำเสียงเลือดเย็น
“ไปฆ่าอวี่เสวียนซะ แล้วพาตัวนางชั้นต่ำหลิ่วชิงเยียนนั่นมา ข้าจะให้โอกาสหอเสียงสวรรค์ของพวกเจ้าได้อธิบายสักครั้ง จำไว้ แค่โอกาสอธิบาย ส่วนจะรักษาชีวิตของพวกเจ้าได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับท่าทีต่อไปของพวกเจ้าแล้ว!”
ทุกประโยคเผยกลิ่นอายไม่ยอมให้ขัดขืน ทำเอาพวกเหลียงชวนต่างหน้าเปลี่ยนสี
ฆ่าอวี่เสวียน?
พวกเขากล้าที่ไหน!
เหลียงชวนนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ภาพเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มซึ่งราวกับชาวนาคนนั้นใช้อานุภาพของสามหมัดกำราบภิกษุเฒ่าตู้คง
และนึกถึงภาพที่เฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนอย่างจักรพรรดิกระบี่วายุยังได้แต่ก้มหัว
แต่สิ่งเหล่านี้…
เหลียงชวนกลับไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว!
เมล็ดของหญ้านรกกักจิตนั่นได้ปลูกอยู่ในสภาวะจิตของตั้งแต่ต้น ถ้ากล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว สภาวะจิตจะต้องพังทลาย ร่างตายมรรคสลายทันที!
“อาจารย์ลุงเหลียงชวน…”
บรรดาคนใหญ่คนโตของหอเสียงสวรรค์ในที่นี้ต่างหันสายตามองไปทางเหลียงชวน เจือแววหวาดหวั่นและวิงวอน
เหลียงชวนหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด
ฝึกปราณจนป่านนี้ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกล้ำกลืน อึดอัด และจนปัญญาเช่นนี้
มดน้อยที่ต้องเอาชีวิตรอดกลางซอกหลืบก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
สีหน้าของเขาทุกข์ระทม ริมฝีปากสั่นระริกอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ส่งเสียงถอนหายใจยาวออกมา
“คุณชายข่งอวี้ โปรดอภัยที่ทำตามคำสั่งไม่ได้!”
เพียงไม่กี่คำสั้นๆ เสมือนสูบเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายของเขาไปสิ้น เผยแววซึมเซาไร้สิ้นสุด
ทุกคนที่เฝ้าดูอยู่ไกลๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ต่างไม่มีใครไม่สังเวชใจ คนที่แข็งแกร่งอย่างกึ่งจักรพรรดิเหลียงชวนยังถูกบีบถึงขั้นนี้ จะไม่ให้สะเทือนอารมณ์ได้อย่างไร
หลินสวินซึ่งมองดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ไกลๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจ
เดิมเหลียงชวนสามารถโยนทุกอย่างมาใส่เขาได้ แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น แม้จะถูกเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งข่มขู่ สุดท้ายก็ยังเลือกปฏิเสธ
จากจุดนี้ก็ได้รับการยอมรับจากหลินสวินแล้ว
เขาเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
และยามนี้ดวงตาของข่งหลินเบิกกว้าง ออกอาการยากจะเชื่อ “เจ้าเฒ่า เจ้าถึงกับกล้าไม่รับน้ำใจเรอะ!”
ข่งอวี้ก็หน้าขรึมลง โกรธจัดจนหัวเราะออกมา “เพื่ออวี่เสวียนคนเดียว พวกเจ้าหอเสียงสวรรค์แม้แต่ชีวิตก็ไม่ต้องการแล้ว ดี ดีนัก!”
เอ่ยถึงตอนท้ายเขาไม่อาจระงับไอสังหารและความเดือดดาลภายในใจได้อีกแล้ว “วันนี้ พวกเจ้าหอเสียงสวรรค์อย่าคิดรอดชีวิตออกไปแม้แต่คนเดียว!”
“นายน้อย มอบหมายให้พวกเราเถิด”
ชายวัยกลางคนชุดขาวก้าวมาเบื้องหน้าพร้อมกับชายชราชุดเขียวคนนั้น
บรรยากาศตึงเครียดกดดัน
ทุกคนต่างรู้สึกว่าแม้แต่หายใจยังลำบาก
คนใหญ่คนโตของหอเสียงสวรรค์อย่างพวกเหลียงชวนต่างสีหน้าซีดเซียว ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่พวกเขา… จะทำอย่างไรได้อีกกัน
เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ พวกเขาล่วงเกินไม่ได้ เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน พวกเขาล่วงเกินไม่ได้ อวี่เสวียน… พวกเขาก็ล่วงเกินไม่ได้เช่นเดียวกัน!
ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาล้วนได้แต่อดทนก้มหน้า ทว่าในตอนท้ายก็ยังหนีไม่พ้นหายนะครั้งนี้อยู่ดี…
ตูม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์