พลบค่ำวันนั้น
จินเทียนเสวียนเยวี่ยนำป้ายผ่านประตูงานประมูลกลับมาสองป้าย
“คุณชาย งานประมูลครั้งนี้ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ ได้ยินว่าผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจใหญ่และตระกูลใหญ่มากมายในแคว้นเขียวนี้จะมาเข้าร่วมทั้งสิ้น”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าว “ตามที่ข้าสันนิษฐาน ดูเหมือนทั้งหมดจะมาเพราะ ‘เจตวัตถุปริศนา’ ชิ้นนั้น”
หลินสวินกล่าวอืมออกมาคำหนึ่งก่อนเอ่ยถาม “แม่นางเสวียนเยวี่ย เจ้าว่าหากข้าจะประมูลผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าก้อนนั้น ต้องใช้ผลึกมรรคประมาณเท่าไหร่”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยใคร่ครวญเล็กน้อยก็กล่าว “ก่อนหน้านี้ในเมืองจักรพรรดิขาวก็เคยมีผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นมาก่อน แต่แค่ขนาดเหรียญทองแดงก็ยังขายได้ในราคาห้าแสนผลึกมรรค”
“ผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าที่จะปรากฏตัวในงานประมูลครั้งนี้มีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง จากที่ข้าคาดเดาน่าจะถึงหนึ่งล้านผลึกมรรค”
“เพียงแต่ราคาในงานประมูลมักจะไม่เหมือนราคาตลาด หากมีคนตั้งมั่นว่าต้องเอาสมบัตินี้มาให้ได้ ราคาประมูลก็จะมีแต่สูงขึ้น”
พอฟังจบหลินสวินก็อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้
แค่ผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าเม็ดหนึ่งที่มีขนาดเพียงหัวแม่โป้งเท่านั้น แต่กลับมีราคาเท่ากับหนึ่งล้านผลึกมรรค หากถูกประมูลไปราคาต้องสูงกว่านี้แน่!
นี่เป็นราคาที่สูงลิ่วจริงๆ!
ไม่ต้องกล่าวถึงผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้เป็นบุคคลชั้นยอดระดับราชันอริยะก็เกรงว่าคงไม่มีผลึกมรรคมากมายเช่นนี้
ตอนนี้แม้ว่าหลินสวินจะไม่ขาดเงิน แต่เวลานี้กลับรับรู้ได้อย่างลึกซึ้งว่าหากไม่มีผลึกมรรคที่มากพอ คิดอยากจะผงาดในโลกใหญ่หงเหมิงนี้เกรงว่าคงยากเสียยิ่งกว่ายาก
พลังปราณยิ่งสูง สมบัติทั่วไปก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการในการฝึกปราณได้
อย่างการฝึกปราณของหลินสวินในปัจจุบัน สมบัติล้ำค่าในสายตาของผู้ฝึกปราณทั่วไป สำหรับเขาแล้วถือว่าใช้การไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
กล่าวสรุปโดยง่าย สิ่งที่เขาต้องการคือทรัพยากรที่เติมเต็มการฝึกปราณในระดับมกุฎราชันอริยะได้!
เพียงแต่ทรัพยากรเช่นนี้ล้วนเรียกได้ว่ามีค่าและหายาก สมบัติจากธรรมชาติที่ไม่อาจร้องขอบางส่วนราคาย่อมแพงเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ว่าซื้อไม่ได้
“แม่นางเสวียนเยวี่ย ข้าอยากไปเดินเล่นในเมืองคนเดียวสักหน่อย”
นิ่งเงียบสักพักหลินสวินก็ตัดสินใจ
นัยน์ตาดุจดวงดาวของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเผยแววหดหู่เสี้ยวหนึ่งอย่างยากสังเกตเห็น พยักหน้ากล่าว “เช่นนั้นข้าจะรอคุณชายอยู่ที่โรงเตี๊ยม”
กระทั่งมองส่งหลินสวินจากไป นางจึงแอบทอดถอนใจ เห็นชัดว่าอวี่เสวียน… ยังไม่เชื่อใจตนอย่างสมบูรณ์
เมืองหลินอันใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าท้องถนนหรือสิ่งปลูกสร้าง ล้วนเห็นได้ชัดว่าเตรียมมาเพื่อผู้ฝึกปราณทั้งสิ้น ในเมืองก็ไม่เห็นเงาของปุถุชนคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง
ในฐานะที่เป็นเมืองท่า เมืองหลินอันถือว่าคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมากอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถเห็นพ่อค้าเร่ขายของจากพื้นที่ต่างๆ ได้ทุกหนแห่ง
และมีผู้ฝึกปราณจากทั่วสารทิศมาเลือกและแลกเปลี่ยนของกันที่นี่
หลินสวินสองมือไพล่หลัง หลังจากเดินเล่นในเมืองไปหนึ่งเค่อ ก็ยืนอยู่หน้าอาคารที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง
หอสดับวาโย!
นัยน์ตาของหลินสวินดูแปลกไป
ตอนนั้นที่จากโลกลำนำสวรรค์และมาถึงโลกต้าอวี่เป็นครั้งแรก เขาก็เคยเข้าไปสืบข่าวในหอสดับวาโย เดิมคิดว่าหอสดับวาโยเป็นแค่ขุมอำนาจหนึ่งของโลกต้าอวี่เท่านั้น
ใครจะคิดว่าในเมืองหลินอันที่โลกใหญ่หงเหมิงนี้จะมีหอสดับวาโยอยู่เช่นกัน!
‘ดูเหมือนว่าขุมอำนาจที่รวบรวมและขายข่าวโดยเฉพาะนี้ จะยิ่งใหญ่กว่าที่ข้าคาดคิดไว้…’
หลินสวินใคร่ครวญพลางเดินเข้าไปในหอสดับวาโย
“ข้าอยากสืบข่าวบางอย่าง”
หลังจากแสดงออกถึงจุดประสงค์การมาอย่างชัดเจน หลินสวินก็ถูกพาเข้าไปในห้องลับที่ตัดขาดจากโลกภายนอก โดยมีชายกลางคนชุดเทาคนหนึ่งคอยรับรอง
“หากข้าอยากรู้เส้นทางไป ‘แดนเจินหลง’ ควรต้องจ่ายกี่ผลึกมรรค”
หลินสวินตั้งใจจะหยั่งเชิง
ชายกลางคนชุดเทาสีหน้าค้างแข็งก่อนยิ้มกล่าว “สหายยุทธ์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเคยมีคนมากมายต้องการสืบหาเส้นทางไปยังแดนเจินหลงเหมือนเจ้า ทั้งยังมีคนเสนอราคาสูงลิ่วถึงแปดล้านผลึกมรรค!”
ไม่ทันไรเขาก็ถอนใจกล่าว “น่าเสียดาย หอสดับวาโยของข้ากลับไม่อาจหาข่าวนี้ให้ได้”
หลินสวินกล่าว “บนโลกนี้มีเรื่องที่หอสดับวาโยไม่รู้ด้วยหรือ”
เมื่อถูกตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ ชายกลางคนชุดเทากลับไม่ใส่ใจพลางยิ้มกล่าว “โลกใหญ่หงเหมิงนี้ยิ่งใหญ่ระดับใด ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน แน่นอนว่าหอสดับวาโยของพวกเราไม่มีทางรู้ทุกอย่างในใต้หล้า”
หลินสวินพยักหน้า ไม่หยั่งเชิงอีก เอ่ยคำถามที่ตนอยากรู้ออกมา “ตลาดมืดของเมืองหลินอันอยู่ที่ไหน ควรเข้าไปอย่างไร”
นัยน์ตาของชายกลางคนชุดเทาดูแปลกออกไป ยื่นนิ้วออกมาห้านิ้ว “ข่าวนี้มีมูลค่าห้าหมื่นผลึกมรรค”
ตลาดมืดก็คือสถานที่ขายของใต้ดิน ทำแต่เรื่องผิดศีลธรรม!
“ได้”
หลินสวินนำเงินออกมาห้าหมื่นผลึกมรรค
เมื่อออกจากหอสดับวาโย หลินสวินก็ได้ชื่อของตลาดมืดใต้ดินมาแห่งหนึ่ง…
เรือนเร้นหมอก!
ขุมอำนาจใต้ดินแห่งหนึ่งที่ความเป็นมาลึกลับ เบื้องหลังมีสายสนกลในชวนตะลึง ได้ยินว่าในเมืองมากมายของโลกใหญ่หงเหมิงล้วนมีตลาดมืดใต้ดินของเรือนเร้นหมอกอยู่
ในส่วนลึกของตรอกที่ลับตาคนเส้นหนึ่ง มีเรือนเรียบง่ายไม่สะดุดตาตั้งอยู่
หลังจากหลินสวินมาถึงก็เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนก้าวตรงเข้าไปในเรือน
ฮูม…
ก็เห็นเรือนนั้นเกิดระลอกคลื่นวงแล้ววงเล่าเหมือนม่านแสงมายา เงาร่างของหลินสวินหายเข้าไปในนั้น
ในเรือนเป็นทิวทัศน์อีกแบบหนึ่ง
ราวกับโลกใบเล็กใบหนึ่ง ถนนตัดสลับ สิ่งปลูกสร้างแออัดเรียงราย ฟ้าดินปกคลุมด้วยหมอกควันหลายสาย มองเห็นอยู่รางๆ
บนท้องถนนมีเงาร่างผู้ฝึกปราณมากมาย ล้วนท่าทางรีบร้อน บ้างสวมหมวกไม้ไผ่ บ้างสวมหน้ากาก บ้างสวมชุดดำบดบังร่าง…
และมีผู้ฝึกปราณบางคนตั้งแผงเร่ขายของบนท้องถนน
เพียงแต่ไม่อึกทึกครึกครื้นเหมือนโลกภายนอก ในโลกมืดสลัวที่หมอกควันอบอวลผืนนี้เงียบสงัด ไม่มีเสียงอื้ออึงใดๆ ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์