Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1853

พลบค่ำวันนั้น

จินเทียนเสวียนเยวี่ยนำป้ายผ่านประตูงานประมูลกลับมาสองป้าย

“คุณชาย งานประมูลครั้งนี้ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ ได้ยินว่าผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจใหญ่และตระกูลใหญ่มากมายในแคว้นเขียวนี้จะมาเข้าร่วมทั้งสิ้น”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าว “ตามที่ข้าสันนิษฐาน ดูเหมือนทั้งหมดจะมาเพราะ ‘เจตวัตถุปริศนา’ ชิ้นนั้น”

หลินสวินกล่าวอืมออกมาคำหนึ่งก่อนเอ่ยถาม “แม่นางเสวียนเยวี่ย เจ้าว่าหากข้าจะประมูลผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าก้อนนั้น ต้องใช้ผลึกมรรคประมาณเท่าไหร่”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยใคร่ครวญเล็กน้อยก็กล่าว “ก่อนหน้านี้ในเมืองจักรพรรดิขาวก็เคยมีผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นมาก่อน แต่แค่ขนาดเหรียญทองแดงก็ยังขายได้ในราคาห้าแสนผลึกมรรค”

“ผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าที่จะปรากฏตัวในงานประมูลครั้งนี้มีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง จากที่ข้าคาดเดาน่าจะถึงหนึ่งล้านผลึกมรรค”

“เพียงแต่ราคาในงานประมูลมักจะไม่เหมือนราคาตลาด หากมีคนตั้งมั่นว่าต้องเอาสมบัตินี้มาให้ได้ ราคาประมูลก็จะมีแต่สูงขึ้น”

พอฟังจบหลินสวินก็อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้

แค่ผลึกแดนห้วงอากาศว่างเปล่าเม็ดหนึ่งที่มีขนาดเพียงหัวแม่โป้งเท่านั้น แต่กลับมีราคาเท่ากับหนึ่งล้านผลึกมรรค หากถูกประมูลไปราคาต้องสูงกว่านี้แน่!

นี่เป็นราคาที่สูงลิ่วจริงๆ!

ไม่ต้องกล่าวถึงผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้เป็นบุคคลชั้นยอดระดับราชันอริยะก็เกรงว่าคงไม่มีผลึกมรรคมากมายเช่นนี้

ตอนนี้แม้ว่าหลินสวินจะไม่ขาดเงิน แต่เวลานี้กลับรับรู้ได้อย่างลึกซึ้งว่าหากไม่มีผลึกมรรคที่มากพอ คิดอยากจะผงาดในโลกใหญ่หงเหมิงนี้เกรงว่าคงยากเสียยิ่งกว่ายาก

พลังปราณยิ่งสูง สมบัติทั่วไปก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการในการฝึกปราณได้

อย่างการฝึกปราณของหลินสวินในปัจจุบัน สมบัติล้ำค่าในสายตาของผู้ฝึกปราณทั่วไป สำหรับเขาแล้วถือว่าใช้การไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

กล่าวสรุปโดยง่าย สิ่งที่เขาต้องการคือทรัพยากรที่เติมเต็มการฝึกปราณในระดับมกุฎราชันอริยะได้!

เพียงแต่ทรัพยากรเช่นนี้ล้วนเรียกได้ว่ามีค่าและหายาก สมบัติจากธรรมชาติที่ไม่อาจร้องขอบางส่วนราคาย่อมแพงเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ว่าซื้อไม่ได้

“แม่นางเสวียนเยวี่ย ข้าอยากไปเดินเล่นในเมืองคนเดียวสักหน่อย”

นิ่งเงียบสักพักหลินสวินก็ตัดสินใจ

นัยน์ตาดุจดวงดาวของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเผยแววหดหู่เสี้ยวหนึ่งอย่างยากสังเกตเห็น พยักหน้ากล่าว “เช่นนั้นข้าจะรอคุณชายอยู่ที่โรงเตี๊ยม”

กระทั่งมองส่งหลินสวินจากไป นางจึงแอบทอดถอนใจ เห็นชัดว่าอวี่เสวียน… ยังไม่เชื่อใจตนอย่างสมบูรณ์

เมืองหลินอันใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าท้องถนนหรือสิ่งปลูกสร้าง ล้วนเห็นได้ชัดว่าเตรียมมาเพื่อผู้ฝึกปราณทั้งสิ้น ในเมืองก็ไม่เห็นเงาของปุถุชนคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง

ในฐานะที่เป็นเมืองท่า เมืองหลินอันถือว่าคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมากอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถเห็นพ่อค้าเร่ขายของจากพื้นที่ต่างๆ ได้ทุกหนแห่ง

และมีผู้ฝึกปราณจากทั่วสารทิศมาเลือกและแลกเปลี่ยนของกันที่นี่

หลินสวินสองมือไพล่หลัง หลังจากเดินเล่นในเมืองไปหนึ่งเค่อ ก็ยืนอยู่หน้าอาคารที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง

หอสดับวาโย!

นัยน์ตาของหลินสวินดูแปลกไป

ตอนนั้นที่จากโลกลำนำสวรรค์และมาถึงโลกต้าอวี่เป็นครั้งแรก เขาก็เคยเข้าไปสืบข่าวในหอสดับวาโย เดิมคิดว่าหอสดับวาโยเป็นแค่ขุมอำนาจหนึ่งของโลกต้าอวี่เท่านั้น

ใครจะคิดว่าในเมืองหลินอันที่โลกใหญ่หงเหมิงนี้จะมีหอสดับวาโยอยู่เช่นกัน!

‘ดูเหมือนว่าขุมอำนาจที่รวบรวมและขายข่าวโดยเฉพาะนี้ จะยิ่งใหญ่กว่าที่ข้าคาดคิดไว้…’

หลินสวินใคร่ครวญพลางเดินเข้าไปในหอสดับวาโย

“ข้าอยากสืบข่าวบางอย่าง”

หลังจากแสดงออกถึงจุดประสงค์การมาอย่างชัดเจน หลินสวินก็ถูกพาเข้าไปในห้องลับที่ตัดขาดจากโลกภายนอก โดยมีชายกลางคนชุดเทาคนหนึ่งคอยรับรอง

“หากข้าอยากรู้เส้นทางไป ‘แดนเจินหลง’ ควรต้องจ่ายกี่ผลึกมรรค”

หลินสวินตั้งใจจะหยั่งเชิง

ชายกลางคนชุดเทาสีหน้าค้างแข็งก่อนยิ้มกล่าว “สหายยุทธ์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเคยมีคนมากมายต้องการสืบหาเส้นทางไปยังแดนเจินหลงเหมือนเจ้า ทั้งยังมีคนเสนอราคาสูงลิ่วถึงแปดล้านผลึกมรรค!”

ไม่ทันไรเขาก็ถอนใจกล่าว “น่าเสียดาย หอสดับวาโยของข้ากลับไม่อาจหาข่าวนี้ให้ได้”

หลินสวินกล่าว “บนโลกนี้มีเรื่องที่หอสดับวาโยไม่รู้ด้วยหรือ”

เมื่อถูกตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ ชายกลางคนชุดเทากลับไม่ใส่ใจพลางยิ้มกล่าว “โลกใหญ่หงเหมิงนี้ยิ่งใหญ่ระดับใด ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน แน่นอนว่าหอสดับวาโยของพวกเราไม่มีทางรู้ทุกอย่างในใต้หล้า”

หลินสวินพยักหน้า ไม่หยั่งเชิงอีก เอ่ยคำถามที่ตนอยากรู้ออกมา “ตลาดมืดของเมืองหลินอันอยู่ที่ไหน ควรเข้าไปอย่างไร”

นัยน์ตาของชายกลางคนชุดเทาดูแปลกออกไป ยื่นนิ้วออกมาห้านิ้ว “ข่าวนี้มีมูลค่าห้าหมื่นผลึกมรรค”

ตลาดมืดก็คือสถานที่ขายของใต้ดิน ทำแต่เรื่องผิดศีลธรรม!

“ได้”

หลินสวินนำเงินออกมาห้าหมื่นผลึกมรรค

เมื่อออกจากหอสดับวาโย หลินสวินก็ได้ชื่อของตลาดมืดใต้ดินมาแห่งหนึ่ง…

เรือนเร้นหมอก!

ขุมอำนาจใต้ดินแห่งหนึ่งที่ความเป็นมาลึกลับ เบื้องหลังมีสายสนกลในชวนตะลึง ได้ยินว่าในเมืองมากมายของโลกใหญ่หงเหมิงล้วนมีตลาดมืดใต้ดินของเรือนเร้นหมอกอยู่

ในส่วนลึกของตรอกที่ลับตาคนเส้นหนึ่ง มีเรือนเรียบง่ายไม่สะดุดตาตั้งอยู่

หลังจากหลินสวินมาถึงก็เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนก้าวตรงเข้าไปในเรือน

ฮูม…

ก็เห็นเรือนนั้นเกิดระลอกคลื่นวงแล้ววงเล่าเหมือนม่านแสงมายา เงาร่างของหลินสวินหายเข้าไปในนั้น

ในเรือนเป็นทิวทัศน์อีกแบบหนึ่ง

ราวกับโลกใบเล็กใบหนึ่ง ถนนตัดสลับ สิ่งปลูกสร้างแออัดเรียงราย ฟ้าดินปกคลุมด้วยหมอกควันหลายสาย มองเห็นอยู่รางๆ

บนท้องถนนมีเงาร่างผู้ฝึกปราณมากมาย ล้วนท่าทางรีบร้อน บ้างสวมหมวกไม้ไผ่ บ้างสวมหน้ากาก บ้างสวมชุดดำบดบังร่าง…

และมีผู้ฝึกปราณบางคนตั้งแผงเร่ขายของบนท้องถนน

เพียงแต่ไม่อึกทึกครึกครื้นเหมือนโลกภายนอก ในโลกมืดสลัวที่หมอกควันอบอวลผืนนี้เงียบสงัด ไม่มีเสียงอื้ออึงใดๆ ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์