เวลาต่อมาหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่ได้รีบเร่งเดินทาง ระหว่างทางบ้างก็สัญจรข้ามภูผาธาราเวิ้งว้าง บ้างก็เดินเล่นกลางเมือง
สภาพจิตใจผ่อนคลายเหมือนกำลังท่องเที่ยว
โลกใหญ่หงเหมิงไพศาลถึงขีดสุด แต่ละแคว้นล้วนมีลักษณะเฉพาะของตน ร้อยพันทิวทัศน์ สีสันแตกต่างกัน
อย่างเชายยามผ่าน ‘แคว้นยมโลก’ พื้นที่ของแคว้นนี้กว้างใหญ่กว่าแคว้นเขียวหลายเท่า ผู้ฝึกปราณในแคว้นส่วนใหญ่เป็น ‘ผู้ฝึกปราณนรก’
ใช้การหลอมจิตวิญญาณ สร้างชื่อจากการควบคุมพลังแก่นวิญญาณ
แคว้นยมโลกนี้ถูกมองเป็นสถานที่ที่เหมือน ‘ยมโลก’ มากที่สุด เมืองที่กระจายตัวในนั้นล้วนมีแต่ภาพไอผีแน่นขนัด
ในสายตาของปุถุชนทั่วไป สถานที่แห่งนี้ชวนสยองมากจริงๆ สมบัติที่ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นหลอม รวมถึงวิชายุทธ์ที่ฝึกฝน ล้วนเผยลักษณ์ประหลาดที่ชั่วร้ายเหี้ยมโหด ภูตผีปีศาจหนาแน่น
และเพราะมาถึงแคว้นยมโลก หลินสวินจึงรู้ว่าภายในแคว้นแห่งนี้มีแดนแห่งปริศนาที่ถูกเรียกว่า ‘แดนนรกเซินหลัว’ แห่งหนึ่ง ถูกมองเป็นเขตต้องห้าม ต่อให้ระดับจักรพรรดิเข้าไปในนั้นก็เป็นตายเก้ารอดหนึ่ง
ตามคำเล่าลือ ในอดีต ‘คัมภีร์มรรคเทพนรก’ มรดกพิทักษ์สำนักของ ‘สำนักยุทธ์ยมโลก’ สำนักโบราณอันดับหนึ่งแห่งแคว้นยมโลก ก็ถ่ายทอดมาจากแดนนรกเซินหลัว แดนแห่งปริศนานี้
ไม่ว่าเป็นจริงหรือเท็จ แดนนรกเซินหลัวก็เป็นแดนแห่งปริศนาที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่ง ถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งใน ‘แปดเขตต้องห้ามใหญ่แห่งหงเหมิง’
หรืออย่างยามท่องเที่ยวใน ‘แคว้นดารา’ ก็เป็นทิวทัศน์อีกแบบหนึ่ง
ภายในแคว้นนี้มีโกรกธารมหึมาหาใดเปรียบแห่งแล้วแห่งเล่า ถึงขั้นที่เมืองบางส่วนยังถูกสร้างขึ้นในส่วนลึกของโกรกธาร
เล่ากันว่าก่อนหน้านี้เมื่อนานแล้ว เคยมีพวกเทียมฟ้าชั้นยอดสองคนต่อสู้ดุเดือดที่นี่ ระหว่างขยับตัวก็ฟันดวงดาวระฟ้าร่วง!
เศษอุกกาบาตดวงดาวเหล่านั้นหล่นกระแทกพื้นดิน ก่อให้เกิดโกรกธารมหึมาหาใดเปรียบแห่งแล้วแห่งเล่า
ที่น่าสนใจคือ ภายในอุกกาบาตเหล่านี้บรรจุเจตวัตถุและหินแร่ที่แปลกพิสารสารพัด ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดมีผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่มุ่งหน้ามาขุดค้น
และเพราะเหตุนี้ แคว้นดาราจึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘แคว้นเหมืองแร่’ ผลิตวัตถุดิบเทพทุกชนิด และเพราะเหตุนี้จึงให้กำเนิดปฐมาจารย์หลอมอาวุธที่โดดเด่นเป็นจำนวนมาก
…
กล่าวโดยสรุป แคว้นเขียว แคว้นยมโลก แคว้นดารา…แต่ละแคว้นล้วนกว้างใหญ่ไพศาลถึงขีดสุด มีอารยธรรมฝึกปราณและลักษณะเฉพาะของตน
ตลอดทางที่หลินสวินกับจินเทียนเสวียนเยวี่ยเดินทาง ล้วนได้เปิดโลกทัศน์ ความรู้ความเข้าใจต่อโลกใหญ่หงเหมิงก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างทางทั้งสองต่างก็ใช้เงินเหมือนเศษดิน จับจ่ายสินค้าเฉพาะถิ่นที่หายากแปลกประหลาดมากมาย
อย่างเช่น ‘หุ่นไม้แรดวิญญาณผี’ ที่ผลิตในแคว้นยมโลก หลอมแก่นวิญญาณของหนอนวิญญาณชิงฝูไว้ภายใน ขอเพียงผู้ฝึกปราณสองคนถือไว้ในมือคนละอัน ยามที่กระตุ้นวิชาลับเฉพาะตัว ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ที่ไหน ระยะทางห่างไกลปานใด ล้วนสามารถติดต่อกันแบบเฉพาะได้ สัมผัสได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย
หรืออย่าง ‘มุกวิญญาณหอยกาบ’ หากจะนำมุกนี้ฝังไว้ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปไหน ก็สามารถสอดส่องภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ได้ทุกเมื่อทุกเวลา
เหมือนปรากฏการณ์ภาพลวงตาที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลา
หรืออย่าง ‘แก่นหยกพก’ ที่ผลิตในแคว้นดารา เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เติบโตในหินหยกชนิดหนึ่ง ขนาดสามชุ่น ขาวหิมะไปทั้งตัว มีแขนที่เหมือนค้อนเล็กๆ คู่หนึ่ง สามารถแยกแยะสมบัติประเภทหยกทุกอย่างทั่วหล้า
นอกจากหุ่นไม้แรดวิญญาณผี มุกวิญญาณหอยกาบ แก่นหยกพก… ยังมีของเล่นหายากอื่นๆ บางส่วนด้วย
อย่างเช่น ‘แก่นเพลิง’ ที่สามารถช่วยนักหลอมอาวุธควบคุมอุณหภูมิของเปลวเพลิงได้
‘หมอนหยกขื่อทักษิณ’ ที่สามารถเสกภาพฝันมายางดงามต่างๆ นานา ทำให้ผู้ฝึกปราณจมอยู่ในห้วงฝันสัมผัสร้อยสภาพของสรรพชีวิต…
และอีกเยอะแยะมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว
โลกของผู้ฝึกปราณ นอกจากเข่นฆ่าและฝึกปราณแล้ว ก็วิวัฒน์พัฒนาข้าวของและอารยธรรมต่างๆ นานา ไปจนถึงด้านต่างๆ ของชีวิตการฝึกปราณ
และเพราะเหตุนี้ทำให้ทั้งโลกฝึกปราณเปลี่ยนเป็นหลากสีสัน เจิดจรัสแพรวพราว
แต่ว่ามูลค่าของของเล่นหายากพวกนี้ล้วนแพงหูฉี่สุดขีด ตลอดทางลำพังแค่ซื้อสมบัติเหล่านี้ ผลึกมรรคบนตัวหลินสวินก็ไหลทะลักออกไปปานกระแสน้ำหลากแล้ว
ของล้ำค่าอย่างหุ่นไม้แรดวิญญาณผีหนึ่งคู่ ยังราคาถึงหนึ่งแสนผลึกมรรค และราคาของหมอนหยกขื่อทักษิณใบหนึ่งยิ่งไปกันใหญ่ หนึ่งล้านเก้าแสนผลึกมรรคเต็มๆ คนทั่วไปล้วนซื้อไม่ไหวทั้งสิ้น
…
ท่องเที่ยวตลอดทาง ไม่ทันรู้ตัวก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว
ในวันนี้หลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยเดินทางมาถึง ‘แคว้นหิมะ’ และแวะพักในเมืองแห่งหนึ่งชื่อว่า ‘พันกระแส’
แคว้นหิมะ ชื่อสื่อความหมายชัด นี่เป็นแคว้นที่ปกคลุมด้วยหิมะน้ำแข็งตลอดปี ภูผาธาราสรรพชีวิตต่างปกคลุมด้วยสีเงินขาว หิมะหนาปลิวว่อน
วัสดุที่สร้างเมืองล้วนสร้างจากน้ำแข็งดำ แวววาวโปร่งแสง วิจิตรงดงาม
“คุณชาย นี่คือตำราโบราณเกี่ยวกับแคว้นหิมะทั้งหมดที่พอจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด”
ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ตอนที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยกลับมาได้นำม้วนหยกกองใหญ่กลับมาด้วย
หลินสวินถือไว้ในมือแล้วพลิกอ่านทีละอัน
ทุกครั้งที่ไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เขาก็จะรวบรวมตำราโบราณของสถานที่นั้นๆ มาศึกษาความรู้ต่างๆ อย่างเช่นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ของที่แห่งนั้น…
อ่านหมื่นตำรา เดินทางหมื่นลี้
ไม่อ่านหนังสือ ต่อให้ไปเยี่ยมชมโบราณสถานเลื่องชื่อบางส่วน ก็ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์และความเป็นมาของร่องรอยโบราณเหล่านั้น รวมถึงความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ภายในด้วย
หากเป็นเช่นนี้ต่อให้เดินทางไปหลายแห่งปานใด ก็เหมือนแค่ควบม้าชมดอกไม้ ดูความคึกคัก แต่ไม่สามารถเกิดประโยชน์ใดๆ ต่อประสบการณ์ความรู้ของตน
โลกใหญ่หงเหมิงเป็นโลกใหญ่อันดับหนึ่งของฟ้าดารา และถูกมองเป็น ‘แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค’ หากสามารถทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ ของโลกนี้ได้ การฝึกปราณในภายหน้าของหลินสวินจะต้องเกิดประโยชน์ที่ประเมินค่าไม่ได้แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์