Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1866

นัยน์ตาดำหลินสวินหรี่ลง ชายชราคนนี้คือผู้แข็งแกร่งที่มองออกในทันทีว่าตนทะลวงขั้น!

เมื่อมองคนอื่นๆ รอบข้าง รวมถึงจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่อยู่ข้างกายด้วย ถึงกับไม่มีใครสังเกตเห็นการคงอยู่ของหนึ่งแก่หนึ่งเด็กนั่น

ยังดี ชายชราคลี่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก ทำเพียงโบกมือให้

หลินสวินเห็นเช่นนี้ก็พยักหน้าน้อยๆ หมุนตัวเดินเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณพร้อมกับจินเทียนเสวียนเยวี่ย

วู้ม!

เมื่อเสียงดังก้องกระหึ่ม ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเปล่งแสง เงาร่างของพวกหลินสวินก็หายลับไปโดยพลัน

“นายน้อย เห็นแล้วหรือไม่ อัจฉริยะแห่งยุคที่มรรควิถีกร้าวแกร่งแกล้วกล้า เดินเหินนั่งนอนล้วนฝึกปราณ แต่หากต้องการทะลวงระดับขั้นได้โดยธรรมชาติ หากไม่มีการสั่งสมที่แน่นหนาหาใดเปรียบย่อมไม่อาจทำสำเร็จได้แน่”

มองส่งหลินสวินจากไปแล้ว ชายชราถึงกล่าวเสียงนุ่มว่า “สิ่งที่โลกใหญ่หงเหมิงแห่งนี้ไม่ขาดแคลนมากที่สุด ก็คือบุคคลเฉิดฉายน่าทึ่งเช่นนี้”

เด็กหนุ่มชุดดำกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เช่นนี้ไม่ยิ่งดีกว่าหรือ ข้ามาโลกใหญ่หงเหมิง ก็เพื่อใช้ดาบของข้าสร้างความปราชัยให้อัจฉริยะผู้กล้าที่ว่าพวกนี้!”

น้ำเสียงคมกริบชวนหวาดหวั่นกับปลายดาบ

ชายชรายิ้มกล่าว “เช่นนั้นก็เริ่มจากแคว้นเมฆาหรือ”

“ดี”

เด็กหนุ่มชุดดำพยักหน้า

เขาใช้ ‘เตา’ เป็นแซ่ ใช้ ‘ต้วนหลิว’ เป็นชื่อ

เขาชื่อว่าเตาต้วนหลิว (ดาบตัดกระแสธาร)

แคว้นเมฆา

หนึ่งในสี่สิบเก้าแคว้นแห่งโลกดึกดำบรรพ์ ชายแดนไพศาล เมืองกระจายตัว ความกว้างของอาณาเขตมากกว่าแคว้นเขียวหลายสิบเท่า!

แคว้นเมฆามีเจ็ดสำนักใหญ่ตั้งอยู่ ควบคุมพื้นที่ชายแดนแคว้นเมฆาประหนึ่งเจ็ดยักษ์ใหญ่ กลายเป็นแดนอริยะฝึกปราณในใจผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน

สำนักยุทธ์เสวียนจีก็คือหนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่แห่งแคว้นเมฆา อยู่ในลำดับที่สาม

เมื่อเทียบกับแคว้นเขียว ขุมอำนาจฝึกปราณของแคว้นเมฆาย่อมยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย สาเหตุก็เพราะในแคว้นเมฆามีขุมอำนาจเผ่าจักรพรรดิเก่าแก่อยู่ไม่น้อย!

ขุมอำนาจอย่างตระกูลสิงแห่งเมืองหลินอัน หากมาอยู่ในอาณาเขตแคว้นเมฆาก็ยังไม่ใช่แม้แต่ขุมอำนาจชั้นรอง

และในแคว้นเมฆา การจะเทียบว่าขุมอำนาจแห่งหนึ่งมีมาตรฐานชั้นหนึ่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่ากำลังหลักของขุมอำนาจนั้นมีระดับกึ่งจักรพรรดิมากกว่าห้าคนควบคุมดูแลหรือไม่!

ส่วนเจ็ดสำนักใหญ่แห่งแคว้นเมฆา อยู่เหนือขุมอำนาจชั้นหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นขุมอำนาจระดับนายเหนือหัว รากฐานแน่นหนาไม่มีใครยอมใคร

เมืองเนินอุดร

หนึ่งในเมืองของแคว้นเมฆา จัดอยู่ในระดับกลาง ห่างจากเมืองนี้ไปสองสามหมื่นลี้ก็คือ ‘สำนักกระบี่จรดฟ้า’ หนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่

ดังนั้นเมืองนี้จึงรุ่งเรืองสุดขีดเช่นเดียวกัน

นอกเมืองเนินอุดร

วู้ม…

พร้อมๆ กับเสียงก้องกระหึ่มแปลกพิกล ในค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณมีเงาร่างผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งเดินออกมา

หลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยก็อยู่ในนั้นด้วย

ใช้เวลาเพียงชั่วดีดนิ้วก็ออกจากเมืองพันกระแสแห่งแคว้นหิมะ มาโผล่อยู่หน้าเมืองเนินอุดรแคว้นเมฆาแล้ว ทำเอาหลินสวินยังอดอึ้งค้างน้อยๆ ไม่ได้

นี่ก็คือความอัศจรรย์ของค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณ

ทว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณระดับนี้ การโดยสารหนึ่งครั้งก็ต้องจ่ายหนึ่งแสนผลึกมรรค ใช่ว่าใครๆ จะมีปัญญาใช้ได้

“คุณชาย ที่นี่น่าจะเป็นเมืองเนินอุดร จากจุดนี้มุ่งหน้าไปสำนักยุทธ์เสวียนจี ด้วยความเร็วของพวกเราอย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือน”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว ในการเดินทางก่อนหน้านี้นางได้ศึกษาเส้นทางมาก่อนแล้ว เข้าใจในเรื่องนี้ดี

“ไปที่เมืองนี้ก่อน รวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับแคว้นเมฆาบางส่วนค่อยออกเดินทางก็ยังไม่สาย”

หลินสวินกล่าวพลางมุ่งหน้าไปยังเมืองที่อยู่ไกลๆ

เขายังคงใคร่ครวญว่าหนึ่งแก่หนึ่งเด็กที่พบก่อนหน้าคู่นั้นเกรงว่าที่มาคงไม่ธรรมดา โดยเฉพาะชายชราคนนั้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง!

‘ในโลกใหญ่หงเหมิงแห่งนี้ ทำตัวเงียบๆ สักหน่อยดีกว่าจริงๆ เพราะไม่แน่ว่าระหว่างทางอาจพบเจอสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิเอาได้…’

หลินสวินรู้สึกทอดถอนใจในใจ

“ข่าวใหญ่ ข่าวใหญ่! เจ็ดสำนักใหญ่ตัดสินใจแล้ว หนึ่งเดือนให้หลังจะเปิดม่านศึก ‘ถกมรรค’ ภายในอาณาเขตแคว้นเมฆา!”

“ถึงตอนนั้นจะใช้การคัดเลือกบุคคลชั้นยอดสิบคนในสามระดับปราณ คืออริยะแท้ มหาอริยะ ราชันอริยะ โดยผู้ถูกคัดเลือกจะไปแคว้นกลางมรรค เข้าร่วม ‘งานชุมนุมถกมรรค’ ที่จัดขึ้นโดยหกเรือนมรรคใหญ่!”

“แล้วราชันระดับอมตะเคราะห์เล่า”

“ล้อเล่นอะไรกัน ราชันระดับอมตะเคราะห์ไหนเลยจะมีคุณสมบัติเข้าร่วม”

หลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยเพิ่งเดินเข้าเมืองเนินอุดร ก็ได้ยินเสียงฮือฮาระลอกใหญ่นี้ดังขึ้นบนท้องถนน ก่อให้เกิดความตกตะลึง

“ศึกแห่งการถกมรรคแคว้นเมฆา?”

หลินสวินอึ้งไป

แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่

สามปีก่อน หกเรือนมรรคใหญ่ประกาศร่วมกันว่าอีกห้าปีให้หลังจะจัด ‘งานชุมนุมถกมรรค’ ครั้งหนึ่ง เชิญชวนสหายยุทธ์ทั่วหล้ามาเข้าร่วม

แต่ว่าการเข้าร่วมก็มีเงื่อนไขที่หฤโหดถึงขีดสุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์