เขามรรคลมเทพ
ตั้งอยู่บนพื้นที่ตะวันออกสุดของแคว้นเมฆา เขาลูกนี้สูงยิ่ง ยอดเขาตั้งเรียงราย ไอเมฆรายล้อมตลอดปี ประกายศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่ง เป็นถ้ำสวรรค์แดนมงคลชั้นยอดแห่งหนึ่ง
ควรรู้ว่าที่นี่เป็นถึงโลกใหญ่หงเหมิง กลิ่นอายแรกกำเนิดกลางฟ้าดินเดิมก็เข้มข้นหาใดเปรียบ และที่ที่สามารถถูกขนานนามว่าเป็นถ้ำสวรรค์แดนมงคล ไม่มีที่ใดที่ไม่ใช่แดนพิสุทธิ์ฝึกปราณที่ผู้ฝึกปราณฝันใฝ่ปรารถนา
สำนักยุทธ์เสวียนจีหนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่แห่งแคว้นเมฆาก็ตั้งอยู่ในเขาลูกนี้
ครึ่งปีให้หลัง
เงาร่างของหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขามรรคลมเทพ
ทอดมองไกลๆ ไปยังทิวเขาที่เรียงรายแผ่ประกายสูงตระหง่านแถบนั้น ในใจหลินสวินก็อดรู้สึกสั่นสะเทือนไม่ได้
แดนมงคลฟ้าดินที่ดียิ่งแห่งหนึ่ง!
กลิ่นอายแรกกำเนิดที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า วิวัฒน์กลายเป็นรูปร่างมังกรมหึมาตัวแล้วตัวเล่า ห้อยแขวนอยู่เหนือเวิ้งฟ้าของยอดเขานั่น แสงมงคลประกายศักดิ์สิทธิ์คละคลุ้งดุจดั่งทะเลเมฆ
ทอดสายตาออกไป ทำให้ผู้คนอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่าที่นั่นคือแดนพิสุทธิ์ซึ่งเป็นที่พำนักของเทพเซียน หาใช่สถานที่ที่บนโลกจะสามารถมีได้
“ไป พวกเราไปขอเยี่ยมเยียนกัน”
หลินสวินเดินตรงดิ่งไป
ห่างจากประตูเขาสูงตระหง่านเก่าแก่นั่นราวๆ สองสามพันจั้ง ก็เห็นผู้ฝึกปราณที่สวมชุดคลุมขนนกกลุ่มหนึ่งกรูออกมาจากประตูเขา
“ผู้มาเป็นใคร”
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่สีหน้าเคร่งขรึมที่เป็นผู้นำเอ่ยถาม
“ผู้น้อยจินตู๋อี มีเรื่องอยากขอพบเจ้าสำนักของท่าน”
หลินสวินกล่าวง่ายๆ
หากเขาพูดตรงๆ ว่าอยากจะพบป๋อหยาจื่อ ต้องถูกอีกฝ่ายมองเป็นคนบ้าเขวี้ยงออกไปเป็นแน่
ถึงอย่างไรป๋อหยาจื่อก็เป็นบรรพจารย์เบิกสำนักของสำนักยุทธ์เสวียนจี และสำนักยุทธ์เสวียนจีดำรงอยู่บนโลกมาไม่รู้กี่กาลเวลา บุคคลในอดีตกาลหาใดเปรียบอย่างป๋อหยาจื่อยังจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ยังพูดยากยิ่ง
“อยากพบเจ้าสำนักของสำนักข้า?”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อึ้งไป “มีเทียบเข้าเยี่ยมหรือไม่”
หลินสวินส่ายหน้า “ข้าคนแซ่จินมาครานี้ เพราะมีเรื่องสำคัญอยากหารือกับเจ้าสำนักของท่าน รบกวนโปรดรายงานให้ด้วย”
กล่าวพลางหลินสวินประสานมือคารวะ
เห็นหลินสวินท่าทีเกรงใจ สีหน้าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็อ่อนลงไม่น้อย กล่าวว่า “สหายยุทธ์ หากเป็นช่วงปกติข้าก็ไม่เกี่ยงที่จะช่วยเจ้ารายงายเลย แต่วันนี้กลับไม่ได้”
“นี่เพราะเหตุใดหรือ”
หลินสวินเลิกคิ้ว
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่สีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง กล่าวว่า “สาเหตุภายในนั้นไม่สะดวกบอกกล่าว หวังว่าสหายยุทธ์จะเข้าใจ หรือไม่ก็ผ่านไปสักระยะสหายยุทธ์ค่อยมาใหม่ก็ได้”
กล่าวพลางผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีเหล่านี้ก็เตรียมกลับเข้าประตูภูเขา
“ช้าก่อน”
จู่ๆ จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็เอ่ยปาก กล่าวว่า “คุณชายของข้าเดินทางข้ามเจ็ดแคว้น ลุยน้ำข้ามเขามาเยือน กลับถูกพวกเจ้าปฏิเสธอยู่นอกประตูเช่นนี้ ออกจะแล้งน้ำใจไปหน่อยกระมัง”
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ขมวดคิ้ว สีหน้ามืดทะมึน “ไม่มีเทียบเข้าเยี่ยม ซ้ำยังไม่มีของรับรอง เจ้าสำนักของข้ามีหรือจะให้ใครที่ไหนเข้าพบตามใจชอบก็ได้ เชิญกลับไปเถิด!”
เขาเอ่ยคำไล่แขกตรงๆ
มือเรียวของจินเทียนเสวียนเยวี่ยพลันเหวี่ยงออกไป ป้ายคำสั่งที่เรื่อแสงสีขาวแสบตาสายหนึ่งพุ่งออกมา กล่าวว่า “นี่คือ ‘ป้ายคำสั่งจักรพรรดิขาว’ ของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน มีคุณสมบัติพบเจ้าสำนักของพวกเจ้าแล้วหรือไม่”
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ใจสะท้าน คว้าป้ายคำสั่งนั่นมาดู ด้านหน้าสลักอักษรมรรคโบราณว่า ‘ตระกูลจินเทียน’ เอาไว้ ด้านหลังก็ประทับแผนภาพของเมืองจักรพรรดิขาว
ถืออยู่ในมือ กลิ่นอายเผด็จการที่กร้าวแกร่งผันผยองสายหนึ่งก็ลอยปะทะหน้า
เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน!
แม้ว่าตระกูลนี้จะไม่ได้อยู่ในโลกใหญ่หงเหมิง แต่ใครจะไม่รู้ว่านี่คือตระกูลใหญ่ที่ชื่อเสียงสะเทือนฟ้าดารา
หากอยู่ในโลกใหญ่หงเหมิง ยังสามารถขับเคี่ยวกับเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์พวกนั้นได้เลย!
“นี่…”
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ลังเล พวกผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีข้างๆ เขาก็ตกใจแกมสงสัยเช่นกัน
จากสถานะของพวกเขา ถึงจะเคยได้ยินชื่อเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน แต่ไหนเลยจะเคยเห็นสมบัติพิเศษที่บ่งบอกตัวตนชัดเจนอย่างป้ายคำสั่งจักรพรรดิขาว
“พวกเจ้าแยกแยะของจริงกับของปลอมไม่ได้ ก็ไปรายงานเจ้าสำนักของพวกเจ้า เจ้าสำนักสำนักยุทธ์เสวียนจีผู้สูงส่ง หากแม้แต่ป้ายคำสั่งจักรพรรดิขาวยังแยกไม่ออก เช่นนั้นพวกเราก็หมดคำพูดแล้ว”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยสีหน้าราบเรียบ
“ได้ ทั้งสองท่านรอสักครู่”
ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่กล่าวพลางจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนี้จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็กล่าวเสียงเบา “คุณชาย ท่านคงไม่หาว่าข้าทึกทักตัดสินใจเองกระมัง”
หลินสวินคลี่ยิ้มส่ายหน้า
และในเวลานี้เอง เด็กสาวที่สวมชุดขนนก นัยน์ตาสุกใสฟันขาวกระจ่างในที่นั้นคนหนึ่งก็อดกล่าวขึ้นมาไม่ได้ “พวกเจ้า… พวกเจ้าคงไม่ได้มาท้าสู้ศิษย์พี่จีเฉียนด้วยหรอกกระมัง”
หลินสวินอึ้งไป เขาย่อมรู้จักจีเฉียน จากที่เจียงเหิงว่ามาในปีนั้น คนผู้นี้ก็คือศิษย์สืบทอดแท้จริงอันดับหนึ่งของสำนักยุทธ์เสวียนจี
เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาหาจีเฉียนแต่อย่างใด
“เปล่า” หลินสวินส่ายหน้า
เด็กสาวชุดขนนกยังคงข้องใจ มุ่นหัวคิ้วกล่าวว่า “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นแล้วกัน”
พอมองดูสีหน้าศิษย์สำนักยุทธ์เสวียนจีคนอื่นๆ หว่างคิ้วล้วนเจือแววหวั่นวิตกที่ขจัดไม่สิ้น มีเรื่องหนักอึ้งในใจ
สิ่งนี้ทำให้ในใจหลินสวินกังขา หรือว่าวันนี้มีคนบุกมาสำนักยุทธ์เสวียนจีและท้าสู้กับจีเฉียน
ไม่ทันไรในประตูเขาก็มีเงาร่างกำยำล่ำสันสายหนึ่งพุ่งออกมา สวมชุดสีม่วง ผมดำคิ้วขาว ยามกะพริบตามีลำแสงเทพไหลพล่าน
ทุกท่วงท่าอิริยาบถแผ่อานุภาพที่เป็นของระดับกึ่งจักรพรรดิออกมา!
“คารวะอาจารย์ลุงหงอวี่!”
ชายหญิงเหล่านั้นต่างโค้งกายคารวะ
ชายชุดม่วงที่ถูกเรียกว่าอาจารย์ลุงหงอวี่โบกมือน้อยๆ ก่อนทอดสายตามองหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์