Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1896

เวลาไม่ถึงสองเค่อ ทะยานขึ้นสู่ชั้นที่หก!

สำหรับตอนนี้ ลู่ตู๋ปู้นำโดด ห้อทะยานไม่เห็นฝุ่นจริงๆ

ยามที่เขามาถึงชั้นหกของเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่า

บุคคลแห่งยุคสิบกว่าคนอย่างพวกอู่หวง เซี่ยอวี่ฮวา หวังถู หยวนเหอ ซูมู่หาน… ยังคงโรมรันต่อสู้อยู่ที่ชั้นห้าของเจดีย์

ชั้นที่สี่มีประมาณอีกสี่สิบกว่าคน พวกร้ายกาจอย่างเฮ่อเหลียนฉี หลันอวิ๋นเคอ โหยวเทียนซิง ฉู่ชิว กู่เจี้ยนสิงล้วนอยู่ในนั้น

ชั้นที่สาม มีราวๆ สี่ร้อยกว่าคน

ชั้นหนึ่งกับชั้นสอง แต่ละชั้นมีกันอยู่สองร้อยกว่าคน

สถานการณ์มองแวบเดียวก็เข้าใจ คนใหญ่คนโตในที่นี้ล้วนมองออกอย่างชัดเจน เวลาสองเค่อผ่านไป ผู้แข็งแกร่งที่ตอนนี้ยังคงติดอยู่ที่ชั้นหนึ่งและชั้นสอง ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านการคัดเลือกครั้งนี้

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความสนใจหลักของพวกคนใหญ่คนโตล้วนตกไปอยู่ที่ผู้แข็งแกร่งซึ่งอยู่บนชั้นสามขึ้นไป

“หากจัดแบ่งเหล่าคนที่เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ ลู่ตู๋ปู้ย่อมเป็นคนที่อยู่เหนือสุด”

นักพรตหลันจากเกาะเทพเวหาทมิฬเอ่ยปากเนิบๆ “อีกสิบกว่าคนอย่างพวกอู่หวง เซี่ยอวี่ฮวา หวังถู สามารถจัดอยู่ในระดับหนึ่ง”

“พวกเฮ่อเหลียนฉี หลันอวิ๋นเคอสามารถจัดอยู่ในระดับสอง”

เขาพูดคล่องปาก และได้รับการคล้อยตามจากคนใหญ่คนโตไม่น้อย

แต่ไม่นานนักพรตหลันก็เปลี่ยนประเด็น “อิงตามการแบ่งเช่นนี้ จินตู๋อีนั่น… เฮอะๆ ก็คงเป็นได้แค่พวกระดับสอง ดูท่าจะไม่ธรรมดายิ่งจริงๆ ถึงได้กลายเป็นหนึ่งในอันดับหนึ่งของเขตเข้าร่วมต่อสู้”

สีหน้าของคนใหญ่คนโตบางส่วนเปลี่ยนเป็นแปลกพิกลขึ้นมาทันที คนโง่ยังฟังออก ดูคล้ายเป็นการยอมรับความแข็งแกร่งของจินตู๋อี แต่ความเป็นจริง เห็นได้ชัดว่าเจือความเหยียดหยัน

ในความเป็นจริง หลินสวินในตอนนี้ก็อยู่ชั้นที่สี่จริงๆ กำลังสังหารคู่ต่อสู้ตนสุดท้ายอยู่

แต่เหิงเซียวจากสำนักยุทธ์เสวียนจีกลับสีหน้าขรึมเคร่ง ในใจไม่เบิกบานยิ่ง จินตู๋อีคนนี้เป็นถึงอาจารย์อาเล็กของบรรพจารย์ป๋อหยาจื่อ ไหนเลยจะปล่อยให้ผู้อื่นเหยียบย่ำดูหมิ่นเช่นนี้ได้

เหิงเซียวย่อมรู้ดี นักพรตหลันทำเช่นนี้เป็นเพราะเรื่องที่จินตู๋อีกำราบเสอหลิง เสอจื่อก่อนหน้านี้เป็นแน่!

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ระงับความเกลียดชังภายในใจเอาไว้แล้วกล่าวว่า “นักพรตหลัน จากฐานะของท่าน จงใจเล่นงานคนรุ่นเยาว์คนหนึ่งเช่นนี้ออกจะเสียศักดิ์ศรีไปหน่อยหรือไม่”

นักพรตหลันคลี่ยิ้มบางๆ “ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง”

เหิงเซียวกล่าวเสียงเย็น “เช่นนั้นข้าก็จะบอกท่าน ไม่ว่าจะเป็นจินตู๋อีหรือคนอื่น ตอนนี้อาจจะจัดอยู่ในระดับสอง ถ้ายังไม่ถึงตอนที่การคัดเลือกสิ้นสุดก็ยังเป็นเช่นนี้”

“เช่นนั้นก็ตั้งตารอชมเถิด”

นักพรตหลันหัวเราะร่วน ทำท่าคร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าแล้ว

“ทุกท่านดูเร็ว หลังจากลู่ตู๋ปู้ไปถึงชั้นหก ความเร็วในการรุดหน้าก็ชะลอลงไม่น้อย”

จู่ๆ ก็มีคนโพล่งขึ้นมา “ตอนนี้อู่หวงก็บุกเข้าสู่ชั้นหกแล้ว หนำซ้ำดูจากความเร็วในการมุ่งหน้าของเขา มีแววสูงว่าจะนำลู่ตู๋ปู้”

ทันทีที่ประโยคนี้เอ่ยออกมา จิตใจของคนใหญ่คนโตทั้งที่นั้นล้วนถูกดึงดูด

ชั้นที่หกเป็นแดนลับหมอกดำ ขอแค่กำราบวิญญาณศึกหลอมมรรคสี่ตนก็สามารถขึ้นไปชั้นเจ็ดได้

ยามนี้ลู่ตู๋ปู้สังหารวิญญาณศึกหลอมมรรคตนที่สองแล้ว กำลังจะสู้กับวิญญาณศึกหลอมมรรคตนที่สาม

และอู่หวงที่เพิ่งเข้าสู้ชั้นหก ก็เห็นได้ชัดว่าน่าทึ่งถึงขีดสุด หลังจากสังหารวิญญาณศึกหลอมมรรคตนแรกได้อย่างง่ายดาย ก็เข้าโรมรันกับวิญญาณศึกหลอมมรรคตนที่สองแล้ว

ดูจากอานุภาพและความเร็วในการบุกโจมตีของเขาแล้ว ก็มีทีท่าว่าแซงหน้าลู่ตู๋ปู้อยู่รำไรจริงๆ!

“อู่หวงนี่ก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว นักพรตหลัน เกาะเทพเวหาทมิฬของพวกท่านมีผู้สืบทอดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดายิ่งจริงๆ บนกายเปี่ยมด้วยความเผด็จการราวกับข้าอยู่เหนือทุกคน รากฐานพลัง พรสวรรค์ ล้วนเรียกได้ว่าหาตัวจับยากอย่างที่สุด”

“คิดไม่ถึงว่าเกาะเทพเวหาทมิฬของท่านจะถึงกับซ่อนคมได้ลึกเช่นนี้ นักพรตหลัน จนป่านนี้แล้วท่านยังไม่พูดถึงอู่หวงคนนี้ให้พวกข้าฟังหน่อยหรือ”

ชั่วขณะนั้นเสียงแปลกใจใคร่รู้มากมายต่างดังขึ้น

ถูกคนใหญ่คนโตให้ความสนใจเช่นนี้ ทำเอานักพรตหลันอดทระนงตนไม่ได้ เขายิ้มสงวนท่าทีกล่าวว่า “เฮ้อ ไม่นับเป็นอะไรหรอก ก็แค่เหนือกว่าจินตู๋อีที่ชนะเก้าสิบเก้าครั้งรวดนั่นอยู่หน่อยเท่านั้นเอง”

เขาไม่กล้าบอกว่าลู่ตู๋ปู้ก็เทียบอู่หวงไม่ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ล่วงเกินก้วนซวีจากสำนักยุทธ์ว่างเปล่า

แต่ยามวิจารณ์โจมตีหลินสวิน กลับไม่สงวนคำพูดเลยสักนิด

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าเหิงเซียวมืดทะมึนลงไปอีก เจ้าเฒ่านี่ จะงัดข้อกับตนจริงๆ!

แต่ฝีมือของหลินสวินในยามนี้ ก็ถูกอู่หวงเหวี่ยงไปอยู่ข้างหลังจริงอย่างว่า สิ่งนี้ทำให้เหิงเซียวคิดอยากโต้เถียงก็ยังไม่อาจทำได้อยู่บ้าง

ภายในใจเขาลอบร้อนรน บรรพจารย์เล็กคนนี้ เหตุใดจึงยังไม่สำแดงบารมีเสียที

เวลาสามเค่อให้หลัง

อู่หวง ลู่ตู๋ปู้เข้าสู่ชั้นเจ็ดเกือบจะในเวลาเดียวกัน

ภาพเหตุการณ์นี้เรียกเสียงอุทานในที่นั้นขึ้นอีกระลอก

ทว่านับจากตอนนี้เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นอู่หวงหรือลู่ตู๋ปู้ ความเร็วในการบุกทะลวงเห็นชัดว่าเริ่มชะลอลง

เพราะพลังของวิญญาณศึกหลอมมรรคที่พวกเขาพบเจอ ล้วนกร้าวแกร่งถึงขั้นทำให้พวกเขายังรู้สึกกดดันอย่างที่สุด!

และในชั้นที่หก เหล่าบุคคลแห่งยุคสิบกว่าคนอย่างพวกเซี่ยอวี่ฮวา หวังถู หยวนเหอต่างกำลังไล่ตีตื้นขึ้นมาสุดแรง

ความเร็วในการต่อสู้ของพวกเขา เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ก็แผ่วลงไปไม่น้อยเช่นกัน

ชั้นที่ห้า ผู้แข็งแกร่งหลายสิบคนอย่างพวกเฮ่อเหลียนฉี หลันอวิ๋นเคอ โหยวเทียนซิงก็เป็นเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน

ส่วนพวกที่อยู่ต่ำกว่าชั้นห้า…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์