และยังมีผู้โดดเด่นที่มีชื่อในสิบยอดบุคคลหลายคนอย่างพวกเฮ่อเหลียนฉี
พอได้เห็นผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ออกจากสนามไปเงียบๆ ทีละคน บนลานประลองก็มีเสียงทอดถอนใจไม่รู้เท่าไรดังขึ้น เสียดายแทนพวกเขาไม่หยุด
ต่อให้เป็นหลินสวิน พอเห็นฉู่ชิวกับเกาหลิงเทียนถูกคัดออก ในใจก็ถอนใจไปครู่หนึ่ง พรสวรรค์และรากฐานพลังของสองคนนี้ล้วนเรียกได้ว่าตระการตาเหนือธรรมดา
แต่น่าเสียดาย คู่ต่อสู้ที่พวกเขาเจอแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
ฉู่ชิวแพ้ให้เซี่ยอวี่ฮวา
เกาหลิงเทียนแพ้ให้หวังถู
หากไม่เป็นเช่นนี้ ด้วยพลังต่อสู้ของทั้งสองจะต้องไม่หยุดลงเพียงเท่านี้แน่!
“ต่อไป จับฉลากต่อ คราวนี้จะมีฉลากโชคดีชิ้นหนึ่งเหมือนเดิม สุดท้ายจะมีสิบสองคนถูกคัดออกจากการแข่งขัน”
ก้วนซวียืนขึ้น ประกาศเสียงเข้ม
จากนั้นพวกหลินสวินก็ออกมาจับฉลากทีละคน
ที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือ ฉลากโชคดีคราวนี้ดันถูกจินเทียนเสวียนเยวี่ยจับได้อีกครั้ง
โชคเย้ยฟ้าปานนี้ก็ดึงดูดสายตาตกตะลึงและอิจฉาไม่รู้เท่าไร
จินเทียนเสวียนเยวี่ยเองก็จนใจกับเรื่องนี้ไปครู่หนึ่ง
นางเตรียมพร้อมสู้มานานแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าในการคัดเลือกรอบที่สามกลับไม่ให้โอกาสนางได้แสดงพลัง
หลินสวินยังออกโรงคนแรกเหมือนเดิม คู่ต่อสู้คือหลันอวิ๋นเคอ หนึ่งในสิบอันดับหนึ่ง ครอบครองเขตแดนมรรคมหัศจรรย์สุดหยั่ง ‘ขวดสมบัติบุณฑริก’
“พี่จิน พลังต่อสู้ของเจ้ายอดเยี่ยม ข้าเองก็ชื่นชมเช่นกัน แต่ในศึกนี้ข้าจะยอมแพ้เพียงเท่านี้ไม่ได้”
บนสนามประลองหลันอวิ๋นเคอเอ่ยเสียงกังวาน
เขาสวมชุดศึกสีเขียวเข้ม เงาร่างสูงตระหง่าน มือถือทวนศึกสีเงินเล่มหนึ่ง กลิ่นอายแกล้วกล้าคุกคาม ประกายเทพเป็นริ้วๆ อบอวลไปทั้งร่าง
“เชิญ”
หลินสวินพยักหน้าเล็กน้อย
หลันอวิ๋นเคอไม่ลังเลสักนิด ทวนศึกสีเงินเล่มหนึ่งแทงออกมาอย่างเรียบง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายเฉียบคมอันแข็งแกร่งเกินต้านทาน
ฮูม!
เมื่อทวนศึกพุ่งออกมาประหนึ่งแปลงเป็นปากขวด ภายในอบอวลด้วยประกายเทพ พลังวิชาอัศจรรย์ทั้งปวงอุบัติขึ้น งดงามตระการตา
ก็เหมือนวังวนเจิดจรัสหลากสีแห่งหนึ่ง คล้ายจะจับคนกลืนกินเข้าไป!
คนใหญ่คนโตบางคนยังเผยสีหน้าตื่นตะลึง ดูออกว่าการโจมตีนี้ของหลันอวิ๋นเคอ รวมนัยเร้นลับของขวดสมบัติบุณฑริกไว้ในทวนศึก มหัศจรรย์หาใดเทียบจริงๆ
ดูเหมือนเป็นการโจมตีที่เรียบง่าย แต่ความจริงแล้วเผยพลังเขตแดนมรรคของตนถึงขีดสุด!
ตูม!
พอทวนศึกพุ่งออกมา ห้วงอากาศตามทางก็ถูกบดขยี้ราวกับเศษกระดาษ ระเบิดออกสะเทือนเลื่อนลั่น แปรสภาพเป็นกระแสยุ่งเหยิงหาใดเทียบกระจายออกไป
หลินสวินยังคงใช้หมัดเปล่าเหมือนเดิม แสงมรรคสีดินเหลืออันมหาศาลหนักแน่นแผ่กระจายไปทั้งตัว สะบัดหมัดออกไปอย่างดิบเถื่อนเป็นธรรมชาติ ทื่อๆ เรียบง่าย
พลังหมัดกับทวนศึกปะทะกัน ก่อให้เกิดแรงสะเทือนดั่งอสนีบาต แสงเทพสาดกระจายรอบทิศ
หลันอวิ๋นเคอสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วโบกทวนศึก ปราดเปรียวคล่องแคล่ว ประกายคมดั่งสายฟ้า
ประกายคมเป็นชั้นๆ นั้นเหมือนจำแลงเป็นวังวนพร่างพราวตระการตานับหมื่นพันในชั่วพริบตา ฉีกทึ้งห้วงอากาศที่อยู่ใกล้เคียงโดยสมบูรณ์ สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ในความคลุมเครือยังมีเงามายาของมุนินทร์องค์แล้วองค์เล่าควบคุมอยู่ในวังวน เปล่งเสียงพุทธ ท่องสวดเสียงธรรม แผ่พลานุภาพใหญ่โตเหลือคณาออกมา
นี่ก็คือนัยเร้นลับของพลังเขตแดนขวดสมบัติบุณฑริก เต็มไปด้วยพลังสักการะมรรคธรรม มีมหาปรีชา เปล่งประกายสว่างไสว มากด้วยความน่าเกรงขาม
หลินสวินไม่ทุกข์กลับสุข ดวงตาเปล่งประกาย เข้าประจันหน้าทันที
และตอนนี้แม้เขาหยั่งรู้เขตแดนมรรคถึงขั้นสำเร็จส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังไม่เคยทะลวงถึงขั้นสมบูรณ์อย่างแท้จริง
ถ้าศึกษาและสัมผัสพลังของเขตแดนมรรคที่มีคุณลักษณะล้ำเลิศมากกกว่านี้ เช่นนั้นจะมีประโยชน์ใหญ่หลวงต่อการหลอมเขตแดนมรรคเข้าไปอีก
อย่างขวดสมบัติบุณฑริกของหลันอวิ๋นเคอ ก็เป็นเขตแดนมรรคที่มีคุณลักษณะล้ำเลิศอย่างไม่ต้องสงสัย
ตูม!
บนสนามประลอง เงาร่างทั้งสองฉายวาบเข้าปะทะ ชั่วพริบตาก็ประมือกันหลายร้อยครั้ง สู้กันจนฟ้าดินหม่นหมอง สุริยันจันทราอับแสง
ก็เห็นว่าห้วงอากาศยุ่งเหยิง เสียงมรรคสะเทือนลั่น ปรากฏการณ์ประหลาดมหัศจรรย์นานาชนิดอุบัติขึ้น เหล่าคนใหญ่คนโตมองดูจนละลานตา ชื่นชมไม่ขาดปาก
ด้านผู้แข็งแกร่งอย่างลู่ตู๋ปู้ เซี่ยอวี่ฮวาก็ต่างสีหน้าจดจ่อ ตั้งใจดูการต่อสู้ วิเคราะห์พลังต่อสู้ของหลินสวินกับหลันอวิ๋นเคอ ใช่สิ่งนี้มาเทียบกับตนเอง
“ยิ้มเด็ดบุปผา!”
หลันอวิ๋นเคอโจมตีมานานยังล้มไม่ได้ สีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด ท่วงท่าน่าเกรงขาม หน้าผากส่องประกาย มีรอยยิ้มมุมปากน้อยๆ
ส่วนในฝ่ามือเขา ทวนศึกสีเงินส่งเสียงวิ้งคราหนึ่ง แปลงเป็นโลกอันงดงาม พร่างพราว และไพศาลคล้ายภาพฝัน
ในโลกนี้บุปผาสวรรค์โปรยปราย เจินหลงขดตัว มีเสียงธรรมก้องกังวาน เสียงท่องคำภีร์ดังอวล สะท้อนบรรยากาศมหัศจรรย์อันสว่างไสวน่ายินดี
นี่จึงจะเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของขวดสมบัติบุณฑริก
ทั้งยังเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของหลันอวิ๋นเคอด้วย!
ในขณะเดียวกันฝ่ามือหลินสวินคว้าออกไป ประทับสรรพชีวิตควบรวมออกมา สีเหลืองซีด ลักษณะดุจเขาเทพ มีพลังแห่งสรรพชีวิต อานุภาพบีบอัดโลกา
ชั่วพริบตานี้บนสนามประลองพลันเกิดแรงสะเทือนสะท้านฟ้าดิน การปะทะอันน่าหวาดผวาไร้สิ้นสุดแผ่ซ่าน กลิ่นอายทำลายล้างก็โถมซัดปั่นป่วนตามไปด้วย
ผู้แข็งแกร่งมากมายอกสั่นขวัญหายไปครู่หนึ่ง แม้แต่คนใหญ่คนโตเหล่านั้นก็ยังตาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้ เผยแววตกตะลึง
พอฝุ่นควันกระจายหายไป บนสนามประลอง เงาร่างของหลินสวินกับหลันอวิ๋นเคอก็ยืนเผชิญหน้ากันไกลๆ ต่างไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด
“ข้าทุ่มพลังทั้งหมดแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าพี่จินยังออมมือ ไม่จำเป็นต้องสู้ต่ออีกแล้ว ข้าแพ้แล้ว…”
หลันอวิ๋นเคอเผยยิ้มขมขื่น ถอนหายใจยอมแพ้
ประโยคเดียวทำให้ทั้งที่นั้นสะท้านสะเทือน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์