Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1919

สรุปบท ตอนที่ 1919 บังเอิญเสียจริง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1919 บังเอิญเสียจริง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1919 บังเอิญเสียจริง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1919 บังเอิญเสียจริง
ปีนั้นตอนอยู่แหล่งสถานคุนหลุน หลินสวินเคยเห็นระฆังมหามรรคไร้กฎ

และได้เข้าใจความเร้นลับมากมายผ่านพลังเจตจำนงเสี้ยวหนึ่งที่สมบัติชิ้นนี้เหลือทิ้งไว้

อย่างเช่น เก้าศาสตราจักรพรรดิที่ถือกำเนิดจากเตามารดาหลอมสมบัติ แบ่งออกเป็นกระบี่เทพหนึ่งเล่ม ทวนศึกหนึ่งเล่ม โคมสำริดหนึ่งอัน ธงศึกหนึ่งด้าม ประทับมรรคหนึ่งชิ้น ขวดหยกหนึ่งใบ เกราะศึกหนึ่งชุด จานหยกหนึ่งใบ ดาบเทพหนึ่งเล่ม!

ระฆังมหามรรคไร้กฎเคยกล่าวว่า ‘เตามารดาหลอมสมบัติหล่อเก้าศาสตราจักรพรรดิเพื่อปกป้องคุนหลุน แต่ก็ด้วยละเมิดข้อห้ามจึงประสบมหาเคราะห์อย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เตามารดาหลอมสมบัติหายไปอย่างสิ้นเชิง’

‘ส่วนศาสตราจักรพรรดิเก้าชิ้นนี้ก็ซ่อนอยู่ในแดนเก้าลับนี่ ในเวลาต่อมาถูกผู้มีวาสนาคนแล้วคนเล่าเก็บเอาไป!’

ภายในนั้น ขวดหยกหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดินามว่าขวดมหามรรคไร้ขอบเขต ก็ถูกหลี่เสวียนเวยผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเก็บไปแต่แรก

ภายหลังบนเขาเทพพยับครามในดินแดนรกร้างโบราณ ก็ถูกหลินสวินได้มาด้วยความบังเอิญ

โคมสำริดดวงนั้นมีชื่อเรียกว่าโคมมหามรรคไร้มลทิน ปีนั้นตอนหลินสวินข้ามแม่น้ำขุมโลหิตในแดนมกุฎ ได้รับมาจากมือของ ‘ฝีพายโครงกระดูก’ ตนหนึ่ง

หรือก็คือ เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน หลินสวินได้รับมาแล้วสองอย่าง

และยามนี้เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงสุดอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นระหว่างประทับสำริด ธงเหลืองอ่อน กับก้อนทองแดงจากเตามารดาหลอมรรค หลินสวินก็นึกถึงเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนขึ้นมาทันที!

และนึกถึงสมบัติสองชิ้นนี้…

ประทับมหามรรคไร้ชีพ!

ธรงมหามรรคไร้ระเบียบ!

จะเป็นศาสตราจักรพรรดิสองชิ้นนี้หรือไม่

ในใจหลินสวินอดตื่นเต้นไม่ได้ เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง พลันพลิกฝ่ามือขึ้น ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตและโคมมหามรรคไร้มลทินก็ปรากฏออกมา

ทันใดนั้นภาพพิสดารหาใดเปรียบก็ปรากฏ

ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตและโคมมหามรรคไร้มลทินต่างเปล่งแสงพร้อมกัน บังเกิดระลอกคลื่นคลุมเครือ ผสานกับกลิ่นอายของก้อนทองแดง ประทับสำริด และธงเหลืองอ่อน ต่างฝ่ายต่างขานรับกัน พลังคลุมเครือดุจดั่งระลอกคลื่น พวยพุ่งคุกรุ่นอยู่ระหว่างสมบัติกลุ่มนี้

เป็นดังคาด!

ลมหายใจหลินสวินยังชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาดำทอประกาย สังเกตเห็นอย่างว่องไวว่าบนประทับสำริดขนาดเท่ากำปั้นอันนั้น ควบรวมอออกมาเป็นแผนภาพอันเลือนราง

ในแผนภาพหมู่ดาวพราวระยับ วัฏจักรไพศาล ภูผาธาราหมื่นลักษณ์ หมื่นชีวิตสถิตอาศัย…

ทว่าเมื่อแสงสำริดเข้มสนิทสายนั้นร่วงจากฟ้า ฟ้าดาราไร้สิ้นสุดนั้นก็แตกระเบิดพังครืนสนั่นหวั่นไหว หมู่ดาวนับไม่ถ้วนกลายเป็นผุยผง ภูผาธาราไม่มีสิ่งใดไม่มอดดับพังทลายทั้งอย่างนี้

และหมื่นชีวิตที่อาศัยอยู่ทั่วหล้าล้วนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปด้วย!

ภาพทำลายล้างที่สะท้านโลกนั้น ทำเอาหัวใจหลินสวินยังสะเทือนไหวไปพักหนึ่ง สูดหายใจสะท้าน

สุดท้ายท่ามกลางการมอดดับไร้สิ้นสุด มีเพียงประทับมรรคสายนั้นลอยผลุบโผล่ แผ่แสงสำริดคลุมเครือลึกลับออกมา…

ตูม!

เมื่อได้เห็นถึงตรงนี้ แผนภาพนี้ก็สลายไป บนพื้นผิวประทับสำริดที่วางอยู่นิ่งๆ ในหีบกลับปรากฏลายมรรคเป็นสายๆ วาดเป็นอักษรมรรคที่เก่าแก่มั่นคง…

ไร้ชีพ!

ใต้มหามรรค มีมรณะไร้ชีพ!

ประทับสำริดที่ดูเหมือนไม่สะดุดตานี้ ความจริงแล้วก็คือประทับมหามรรคไร้ชีพ หนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนอย่างไม่ต้องสงสัย!

สวบ!

ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง แสงเจิดจ้าสว่างไสวสายหนึ่งไหลทะลักออกมาจากธงเหลืองอ่อนผืนนั้นทันที

ผืนธงพลิกสะบัดดังพรึ่บ แสงมรรคพร่างพราวราวกับฝนหมอกโปรยปรายออกมา

ฉับพลันนั้นหลินสวินขนลุกขนพอง

แสงมรรคอันพร่างพราวเหล่านี้ ดูเหมือนภาพฝันมายางดงาม ทว่าความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนกลับเหมือนเทพกระบี่แห่งยุคมาเยือนโลกหล้า

แสงมรรคแต่ละสายดั่งปราณกระบี่สูงสุดที่สามารถเบิกฟ้าแหวกปฐพี!

เสมือนว่าขอเพียงธงเหลืองอ่อนยินยอม แสงมรรคไร้สิ้นสุดนี้ก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็นพลังเข่นฆ่าอันน่าสะพรึง ไม่ว่าจะหลบซ่อนอยู่ที่ใดก็หนีไม่พ้นพลังเข่นฆ่าระดับนี้!

เวลานี้พลังต่อสู้ของหลินสวินน่ากลัวปานใด ทว่ายามเห็นแสงมรรคพร่างพราวเหล่านี้กลับใจเต้นเนื้อกระตุก รู้สึกว่ามหันตภัยมาอยู่ตรงหน้า ร่างกายล้วนเครียดเกร็งขึ้นมา

สุดท้ายแสงมรรคที่พร่างพราวบาดตา โปรยปรายดุจสายฝนเหล่านี้ล้วนสงบนิ่งเก็บงำอย่างไร้สุ้มเสียง อันตรธานหายเข้าไปในธงเหลืองอ่อน

และบนผืนธงก็ปราฏลายมรรคสองสายออกมาเช่นเดียวกัน ล่องลอยดุจกระบี่ เบาหวิวดั่งขนนก…

ไร้ระเบียบ!

ไร้รูปแบบแน่ชัด ไร้วิธีตายตัว แปรผันหมื่นลักษณ์ แทรกซึมทุกแห่งหน!

เห็นชัดว่าเป็นอย่างที่หลินสวินคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ธงเหลืองอ่อนผืนนี้ก็เป็นหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนด้วยเช่นกัน มีนามว่าธงมหามรรคไร้ระเบียบ!

เวลานี้หลินสวินยินดีล้นใจ คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแค่เดินเข้าไปในตลาดมืดใต้ดินหนเดียวเท่านั้น ถึงกับทำให้ตนเก็บวาสนาชิ้นโตเช่นนี้มาได้อย่างน่าคาดไม่ถึง

เขาเก็บก้อนทองแดง ขวดไร้ขอบเขต โคมไร้มลทิน จากนั้นก็ชูมือขึ้นโบก และหยิบประทับไร้ชีพและธงไร้ระเบียบที่รูปร่างลักษณะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงออกมา

มองสำรวจอย่างถี่ถ้วน สมบัติสองชิ้นที่ก่อนหน้านี้ไร้ซึ่งพลังวิเศษ ปราศจากระลอกคลื่นกลิ่นอายใดๆ ซ้ำยังไม่สะดุดตาสักนิด

แต่ยามนี้ประทับไร้ชีพเผยกลิ่นอายชวนสยองอันหนักอึ้ง เย็นยะเยือกออกมา ถือไว้ในมือราวกับประคองภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ลูกหนึ่ง

ส่วนธงไร้ระเบียบกลับเบาดุจไร้วัตถุ สัมผัสไม่ได้ถึงน้ำหนักใดๆ ถือไว้ในมือผืนธงพลิ้วไหว ประกายแสงวาววับ ให้ความรู้สึกเบาหวิวไม่แน่นอนแก่ผู้คน

สุดท้ายหลินสวินก็ยังคงฝืนระงับแรงกระตุ้นภายในใจเอาไว้ ไม่ได้ไปลองอานุภาพของศาสตราจักรพรรดิสองชิ้นนี้ทันที

‘เซิงหย่วนตู้บอกว่า ‘จี้เย่’ บรรพบุรุษของเขาเคยเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุน ตอนออกมาได้นำสมบัติเหล่านี้ออกมาด้วย ในนั้นยังมีศาสตราจักรพรรดิสองชิ้น ดูจากจุดนี้ ‘จี้เย่’ คนนี้จะต้องเป็นพวกน่าสะพรึงที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งแน่ๆ!’

เหิงเซียวกล่าวถึงตรงนี้ สายตาก็เปลี่ยนเป็นพิกลขึ้นมา

หลินสวินชี้ปลายจมูกของตน “หาข้าหรือ”

เหิงเซียวพยักหน้า ยิ้มขื่นกล่าว “จวนอวี๋เหิงนี่เอาฐานะและภูมิหลังมาบีบข้า ซ้ำยังสัญญาว่าขอเพียงสามารถจับเจ้าได้ ต่อไปหากสำนักยุทธ์เสวียนจีมีเรื่องให้ช่วยเหลือ เขาก็จะช่วยเหลือเต็มกำลัง”

“ข้าย่อมไม่เชื่อคำปลิ้นปล้อนพรรค์นี้อยู่แล้ว แต่ตอนรับหน้ากลับไม่อาจไม่ตอบตกลงข้อเรียกร้องของเขา ดังนั้นตอนที่ส่งขบวนของพวกเขากลับไปจึงมุ่งหน้ามาหาสหายน้อยทันที”

หลินสวินเข้าใจกระจ่างแล้ว

ชายหน้ากากสีเงินคนนั้นที่เจอในตลาดมืดใต้ดิน คงไม่ใช่จวนอวี๋เหิง แต่ต้องเกี่ยวข้องกับจวนอวี๋เหิงแน่

สาเหตุที่อยากยืมมือสำนักยุทธ์เสวียนจีมาจับตน ก็ไม่พ้นทำไปเพื่อสมบัติในหีบสำริดใบนั้นอย่างแน่นอน!

“ช่างบังเอิญเสียจริง”

หลินสวินใคร่ครวญเล็กน้อย เงาร่างพริบไหว บัดนั้นกลิ่นอายพลันเปลี่ยนไป ได้โคจรกายมรรคดินเหลืองมาแทนที่ร่างเดิม ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน

เหิงเซียวอึ้งค้าง เบิกตากว้าง มองสำรวจหลินสวินอยู่ครู่หนึ่งถึงค่อยกล่าวว่า “เป็นวิชาปลอมตัวที่วิเศษนัก!”

เขาเป็นถึงกึ่งจักรพรรดิ แต่กลับไม่อาจมองทะลุร่องรอยใดๆ ได้สักเสี้ยว

อีกทั้งเขานึกถึงก่อนหน้านี้ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา หลินสวินก็ใช้ลักษณะเช่นนี้ปรากฏตัวต่อคนทั่วหล้า!

หลินสวินยิ้มกล่าวว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ จวนอวี๋เหิงอยากหาข้าให้เจอ เกรงว่าคงไม่มีหวังแล้ว”

เหิงเซียวก็ยิ้มเช่นกัน “เป็นเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว”

แต่ในยามนี้เอง หลินสวินหน้าเปลี่ยนสี เพราะภายในกายของเขา ศาสตราจักรพรรดิสี่ชิ้นอย่างขวดไร้ขอบเขต โคมไร้มลทินประทับไร้ชีพ ธงไร้ระเบียบถึงกับเกิดระลอกคลื่นแปลกพิสดารขึ้นมา

และพร้อมกันนั้น เศษเสี้ยวของเตามารดาหลอมสมบัติก็เริ่มสั่นระริกดังกระหึ่มขึ้นม

สิ่งนี้ทำให้หลินสวินฉุกคิดขึ้นมาได้ทันควัน ปีนั้นตอนที่อยู่แหล่งสถานคุนหลุน ระฆังมหามรรคไร้กฎเคยกล่าวประโยคหนึ่งเอาไว้

“สหายน้อย ภายหน้าหลังจากเจ้าออกจากแหล่งสถานคุนหลุน หากพบเห็นผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ที่ในมือถือ ‘เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน’ ก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองสุดแสนอัศจรรย์ขึ้น เช่นเดียวกัน เจ้าเองก็จะถูกตอบสนองตั้งแต่จังหวะแรก เป็นพรหรือเป็นภัยก็ยากจะบอกแล้ว”

และยามนี้ การเคลื่อนไหวแปลกประหลาดของศาสตราจักรพรรดิอย่างขวดไร้ขอบเขต เสมือนกำลังพิสูจน์คำพูดของระฆังมหามรรคไร้กฎ!

“ฮ่าๆ น่าสนใจ เจ้าสำนักเหิงเซียว ใครจะไปคาดคิด คนที่ข้าอยากตามหา ถึงกับบังเอิญซ่อนตัวอยู่ในสำนักยุทธ์เสวียนจีของพวกท่าน”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะดังลั่นสายหนึ่งก็ดังก้องมาจากที่ไกลๆ ซัดขยี้ชั้นเมฆสิบฝ่าย

พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะลั่น เงาร่างกำยำสีม่วงสายหนึ่ง ภายใต้วงล้อมของหญิงสาวทรงเสน่ห์ทั้งกลุ่ม เคลื่อนมาเยือนอย่างแผ่วเบา

เหิงเซียวหน้าเปลี่ยนสีทันควัน จวนอวี๋เหิงนี่ถึงกับไม่ยอมจากไป!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์