และได้เข้าใจความเร้นลับมากมายผ่านพลังเจตจำนงเสี้ยวหนึ่งที่สมบัติชิ้นนี้เหลือทิ้งไว้
อย่างเช่น เก้าศาสตราจักรพรรดิที่ถือกำเนิดจากเตามารดาหลอมสมบัติ แบ่งออกเป็นกระบี่เทพหนึ่งเล่ม ทวนศึกหนึ่งเล่ม โคมสำริดหนึ่งอัน ธงศึกหนึ่งด้าม ประทับมรรคหนึ่งชิ้น ขวดหยกหนึ่งใบ เกราะศึกหนึ่งชุด จานหยกหนึ่งใบ ดาบเทพหนึ่งเล่ม!
ระฆังมหามรรคไร้กฎเคยกล่าวว่า ‘เตามารดาหลอมสมบัติหล่อเก้าศาสตราจักรพรรดิเพื่อปกป้องคุนหลุน แต่ก็ด้วยละเมิดข้อห้ามจึงประสบมหาเคราะห์อย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เตามารดาหลอมสมบัติหายไปอย่างสิ้นเชิง’
‘ส่วนศาสตราจักรพรรดิเก้าชิ้นนี้ก็ซ่อนอยู่ในแดนเก้าลับนี่ ในเวลาต่อมาถูกผู้มีวาสนาคนแล้วคนเล่าเก็บเอาไป!’
ภายในนั้น ขวดหยกหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดินามว่าขวดมหามรรคไร้ขอบเขต ก็ถูกหลี่เสวียนเวยผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเก็บไปแต่แรก
ภายหลังบนเขาเทพพยับครามในดินแดนรกร้างโบราณ ก็ถูกหลินสวินได้มาด้วยความบังเอิญ
โคมสำริดดวงนั้นมีชื่อเรียกว่าโคมมหามรรคไร้มลทิน ปีนั้นตอนหลินสวินข้ามแม่น้ำขุมโลหิตในแดนมกุฎ ได้รับมาจากมือของ ‘ฝีพายโครงกระดูก’ ตนหนึ่ง
หรือก็คือ เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน หลินสวินได้รับมาแล้วสองอย่าง
และยามนี้เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงสุดอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นระหว่างประทับสำริด ธงเหลืองอ่อน กับก้อนทองแดงจากเตามารดาหลอมรรค หลินสวินก็นึกถึงเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนขึ้นมาทันที!
และนึกถึงสมบัติสองชิ้นนี้…
ประทับมหามรรคไร้ชีพ!
ธรงมหามรรคไร้ระเบียบ!
จะเป็นศาสตราจักรพรรดิสองชิ้นนี้หรือไม่
ในใจหลินสวินอดตื่นเต้นไม่ได้ เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง พลันพลิกฝ่ามือขึ้น ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตและโคมมหามรรคไร้มลทินก็ปรากฏออกมา
ทันใดนั้นภาพพิสดารหาใดเปรียบก็ปรากฏ
ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตและโคมมหามรรคไร้มลทินต่างเปล่งแสงพร้อมกัน บังเกิดระลอกคลื่นคลุมเครือ ผสานกับกลิ่นอายของก้อนทองแดง ประทับสำริด และธงเหลืองอ่อน ต่างฝ่ายต่างขานรับกัน พลังคลุมเครือดุจดั่งระลอกคลื่น พวยพุ่งคุกรุ่นอยู่ระหว่างสมบัติกลุ่มนี้
เป็นดังคาด!
ลมหายใจหลินสวินยังชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาดำทอประกาย สังเกตเห็นอย่างว่องไวว่าบนประทับสำริดขนาดเท่ากำปั้นอันนั้น ควบรวมอออกมาเป็นแผนภาพอันเลือนราง
ในแผนภาพหมู่ดาวพราวระยับ วัฏจักรไพศาล ภูผาธาราหมื่นลักษณ์ หมื่นชีวิตสถิตอาศัย…
ทว่าเมื่อแสงสำริดเข้มสนิทสายนั้นร่วงจากฟ้า ฟ้าดาราไร้สิ้นสุดนั้นก็แตกระเบิดพังครืนสนั่นหวั่นไหว หมู่ดาวนับไม่ถ้วนกลายเป็นผุยผง ภูผาธาราไม่มีสิ่งใดไม่มอดดับพังทลายทั้งอย่างนี้
และหมื่นชีวิตที่อาศัยอยู่ทั่วหล้าล้วนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปด้วย!
ภาพทำลายล้างที่สะท้านโลกนั้น ทำเอาหัวใจหลินสวินยังสะเทือนไหวไปพักหนึ่ง สูดหายใจสะท้าน
สุดท้ายท่ามกลางการมอดดับไร้สิ้นสุด มีเพียงประทับมรรคสายนั้นลอยผลุบโผล่ แผ่แสงสำริดคลุมเครือลึกลับออกมา…
ตูม!
เมื่อได้เห็นถึงตรงนี้ แผนภาพนี้ก็สลายไป บนพื้นผิวประทับสำริดที่วางอยู่นิ่งๆ ในหีบกลับปรากฏลายมรรคเป็นสายๆ วาดเป็นอักษรมรรคที่เก่าแก่มั่นคง…
ไร้ชีพ!
ใต้มหามรรค มีมรณะไร้ชีพ!
ประทับสำริดที่ดูเหมือนไม่สะดุดตานี้ ความจริงแล้วก็คือประทับมหามรรคไร้ชีพ หนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนอย่างไม่ต้องสงสัย!
สวบ!
ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง แสงเจิดจ้าสว่างไสวสายหนึ่งไหลทะลักออกมาจากธงเหลืองอ่อนผืนนั้นทันที
ผืนธงพลิกสะบัดดังพรึ่บ แสงมรรคพร่างพราวราวกับฝนหมอกโปรยปรายออกมา
ฉับพลันนั้นหลินสวินขนลุกขนพอง
แสงมรรคอันพร่างพราวเหล่านี้ ดูเหมือนภาพฝันมายางดงาม ทว่าความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนกลับเหมือนเทพกระบี่แห่งยุคมาเยือนโลกหล้า
แสงมรรคแต่ละสายดั่งปราณกระบี่สูงสุดที่สามารถเบิกฟ้าแหวกปฐพี!
เสมือนว่าขอเพียงธงเหลืองอ่อนยินยอม แสงมรรคไร้สิ้นสุดนี้ก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็นพลังเข่นฆ่าอันน่าสะพรึง ไม่ว่าจะหลบซ่อนอยู่ที่ใดก็หนีไม่พ้นพลังเข่นฆ่าระดับนี้!
เวลานี้พลังต่อสู้ของหลินสวินน่ากลัวปานใด ทว่ายามเห็นแสงมรรคพร่างพราวเหล่านี้กลับใจเต้นเนื้อกระตุก รู้สึกว่ามหันตภัยมาอยู่ตรงหน้า ร่างกายล้วนเครียดเกร็งขึ้นมา
สุดท้ายแสงมรรคที่พร่างพราวบาดตา โปรยปรายดุจสายฝนเหล่านี้ล้วนสงบนิ่งเก็บงำอย่างไร้สุ้มเสียง อันตรธานหายเข้าไปในธงเหลืองอ่อน
และบนผืนธงก็ปราฏลายมรรคสองสายออกมาเช่นเดียวกัน ล่องลอยดุจกระบี่ เบาหวิวดั่งขนนก…
ไร้ระเบียบ!
ไร้รูปแบบแน่ชัด ไร้วิธีตายตัว แปรผันหมื่นลักษณ์ แทรกซึมทุกแห่งหน!
เห็นชัดว่าเป็นอย่างที่หลินสวินคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ธงเหลืองอ่อนผืนนี้ก็เป็นหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนด้วยเช่นกัน มีนามว่าธงมหามรรคไร้ระเบียบ!
เวลานี้หลินสวินยินดีล้นใจ คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแค่เดินเข้าไปในตลาดมืดใต้ดินหนเดียวเท่านั้น ถึงกับทำให้ตนเก็บวาสนาชิ้นโตเช่นนี้มาได้อย่างน่าคาดไม่ถึง
เขาเก็บก้อนทองแดง ขวดไร้ขอบเขต โคมไร้มลทิน จากนั้นก็ชูมือขึ้นโบก และหยิบประทับไร้ชีพและธงไร้ระเบียบที่รูปร่างลักษณะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงออกมา
มองสำรวจอย่างถี่ถ้วน สมบัติสองชิ้นที่ก่อนหน้านี้ไร้ซึ่งพลังวิเศษ ปราศจากระลอกคลื่นกลิ่นอายใดๆ ซ้ำยังไม่สะดุดตาสักนิด
แต่ยามนี้ประทับไร้ชีพเผยกลิ่นอายชวนสยองอันหนักอึ้ง เย็นยะเยือกออกมา ถือไว้ในมือราวกับประคองภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ลูกหนึ่ง
ส่วนธงไร้ระเบียบกลับเบาดุจไร้วัตถุ สัมผัสไม่ได้ถึงน้ำหนักใดๆ ถือไว้ในมือผืนธงพลิ้วไหว ประกายแสงวาววับ ให้ความรู้สึกเบาหวิวไม่แน่นอนแก่ผู้คน
สุดท้ายหลินสวินก็ยังคงฝืนระงับแรงกระตุ้นภายในใจเอาไว้ ไม่ได้ไปลองอานุภาพของศาสตราจักรพรรดิสองชิ้นนี้ทันที
‘เซิงหย่วนตู้บอกว่า ‘จี้เย่’ บรรพบุรุษของเขาเคยเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุน ตอนออกมาได้นำสมบัติเหล่านี้ออกมาด้วย ในนั้นยังมีศาสตราจักรพรรดิสองชิ้น ดูจากจุดนี้ ‘จี้เย่’ คนนี้จะต้องเป็นพวกน่าสะพรึงที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งแน่ๆ!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์