Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1939

ตอนที่ 1939 รากฐานโลกาสวรรค์
ภายในประตูภูเขา น้ำพุใสสะอาดรินไหล หินผากองถม

ชายสะพายกระบี่ยาวนั่งยองๆ บนโขดหินอย่างสบายๆ สาบเสื้ออ้ากว้าง ร่ำสุราเพลิดเพลิน มีมาดดิบเถื่อนหยาบกระด้างอย่างหนึ่ง

จู่เฟยอวี่!

ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคเหล่ามาร อันดับแปดกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์!

“ต่อให้เป็นการสอดมือปุบปับ โจมตีตอนข่งเจาไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้ จินตู๋อีนี่ช่างควรค่าให้สนใจอยู่หน่อยจริงๆ”

ริมลำธารแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งถอดรองเท้าออก สองเท้าจุ่มแช่ในลำธาร ในมือก็พลิกอ่านตำราเล่มหนึ่ง

ชายหนุ่มสวมชุดเรียบง่าย ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วตาละมุนละไม มีผมยาวสีเงิน สีหน้าสงบอ่อนโยน

ถูเชียนเจวี๋ย!

ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคจักรวาล อันดับเก้ากระดานราชันอริยะปวงสวรรค์!

“นอกจากจินตู๋อีคนนี้ ในหมู่อันดับหนึ่งของแต่ละแคว้นยังมีบพวกพิเศษอยู่สองสามคน อย่างเสวียนจิ่วอิ้นอันดับหนึ่งแคว้นทองแดงนั่น หากข้าเดาไม่ผิด จะต้องเป็นลูกหลานจากตระกูลเสวียนนั่นอย่างแน่นอน”

บนต้นไม้เก่าแก่ เงาร่างอรชรอ้อนแอ้นสายหนึ่งยืนบนปลายกิ่งไม้เขียวมรกต ร่างสูงระหง ผมเงางามม้วนเป็นมวย ผิวพรรณผุดผ่องเกลี้ยงเกลา บริเวณหัวคิ้วประทับลายมรรคสีทองแปลกประหลาด

ประกายแสงละอองควันเลือนรางสายแล้วสายเล่าดั่งฝันดุจมายา รายล้อมรอบเรือนร่างสูงเพรียวของนาง ให้ความรู้สึกเร้นลับละเมียดละไมแก่ผู้คน

เยียนอวี่โหรว!

ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคโลกาสวรรค์ อันดับเจ็ดกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์!

“ตระกูลเสวียนไหน”

จู่เฟยอวี่เก็บน้ำเต้าสุราไว้ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“ทั่วหล้านี้ยังมีตระกูลเสวียนไหนที่ควรค่าให้พวกเราสนใจอีกหรือ”

น้ำเสียงของเยียนอวี่โหรวประหนึ่งหยกประดับดังกระทบกัน เสนาะหูดุจเสียงสวรรค์

“คิดไม่ถึง เผ่าจักรพรรดิเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เก็บตัวเร้นลับปานนั้น จะถึงกับมีลูกหลานมาเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ด้วย…”

ถูเชียนเจวี๋ยเอ่ยกล่าวคล้ายทอดถอนใจ

“ใช่แค่เสวียนจิ่วอิ้นนี่ที่ไหน พวกปีศาจบางส่วนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจจะเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรค ก็ยังอดไม่ไหวปรากฏตัวออกมาเช่นกัน อย่างเช่น…เยวี่ยหรูหั่ว จือไป๋”

ตอนที่เยียนอวี่โหรวพูดสองชื่อนี้ออกมา ไม่ว่าจู่เฟยอวี่หรือถูเชียนเจวี๋ยต่างก็อึ้งไป นัยน์ตาล้วนหดรัดลง

“ไปเถิด ในงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้จะต้องมีพวกร้ายกาจที่คาดไม่ถึงมากมายปรากฏตัวขึ้นเป็นแน่…”

เงาร่างเยียนอวี่โหรวคลุมเครือ ลอยโฉบลงมาจากยอดไม้ มุ่งหน้าไปส่วนลึกของประตูภูเขา

“เช่นนี้ไม่ใช่ว่ายิ่งดีหรอกหรือ หากไม่มีเรื่องเหนือคาดหมาย จะเอาอะไรมาตื่นเต้น”

จู่เฟยอวี่ตบกระบี่ยาวบนหลังเบาๆ หัวเราะคราหนึ่ง แล้วสาวเท้าก้าวออกไปด้วยเช่นกัน

“ตื่นเต้น? อาจเป็นไปได้ว่าจะแตกตื่นด้วย…”

ถูเชียนเจวี๋ยทอดถอนใจยาว ก่อนจะเดินตามไป

ภายในภูเขาเทพแสงเขียว

บนยอดเขาที่ไอแรกกำเนิดคละคลุ้งแห่งหนึ่ง มีเรือนเก่าแก่ที่สร้างจากเหล็กเทพแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ กลิ่นอายเคร่งขรึมศักดิ์สิทธิ์รินไหลภายใต้แสงนภา

ภายในโถงใหญ่มีคนใหญ่คนโตไม่น้อยรวมตัวกันนานแล้ว ลำพังดูจากลักษณะท่าทาง มีทั้งชายและหญิง มีทั้งแก่และเด็ก แต่ล้วนเป็นระดับจักรพรรดทั้งสิ้น!

บนตัวแต่ละคนล้วนมีเรื่องราวอันเป็นตำนานนับไม่สิ้น

แต่ละคนก้าวย่างออกไป ล้วนสามารถทำให้ทั้งฟ้าดาราสั่นสะเทือนไปด้วย!

“เจ้าเด็กข่งเจานี่บังอาจเกินควร หวังว่าพี่ไท่ซูอย่าได้เห็นขัน”

ชายชราคนหนึ่งจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เอ่ยปากพลางยิ้มขื่น เขาสวมชุดนักพรต ผมบางหร็อมแหร็ม ดุจดั่งเฒ่าบ้านนอกที่เหมือนไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่ง

ทว่าในฟ้าดารา เขากลับมีชื่อที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงต่างใจสั่น…

จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้น (ประทับสิ้น)!

ในที่นั่งตำแหน่งประธาน ไท่ซูหงที่ท่วงท่าภูมิฐาน หน้าตางามสง่าผ่องใสกล่าวยิ้มๆ “เจ้าเด็กข่งเจานี่ทำกร่างอวดศักดา ยโสโอหังจริงอย่างว่า ก่อนหน้านี้ก็ล่วงเกินคนรุ่นเยาว์จากแคว้นอื่นไปหนหนึ่งแล้ว”

แน่นอน นี่เป็นคำพูดสัพยอกหยอกเย้า

ในฐานะเจ้าสำนักเรือนมรรคโลกาสวรรค์ บุคคลเทียมฟ้าที่ชื่อเสียงเกรียงไกรคนหนึ่ง ไท่ซูหงยังไม่ถึงขั้นไปถือสาเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

“ทุกท่านมองออกหรือไม่ว่าจินตู๋อีนั่นมีที่มาที่ไปอย่างไร”

จู่ๆ สตรีกระโปรงแดงคนหนึ่งก็เอ่ยปากขึ้น นางนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ทั่วร่างปรากฏมัจฉาเพลิงตัวแล้วตัวเล่าแหวกว่ายอยู่รอบกาย มีชีวิตชีวาเหมือนจริง

เมื่อมองดูอย่างละเอียด มัจฉาเพลิงแต่ละตัวนั้นล้วนถักทอมาจากกฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิสูงสุด!

นาง… คือมหาจักรพรรดิเพลิงวิญญาณแห่งเรือนมรรคจักรวาล!

จักรพรรดิหญิงคนหนึ่งที่แจ้งมรรคตั้งแต่ยุคบรรพกาล อุปนิสัยเย็นชาดุจน้ำแข็ง เข่นฆ่าเด็ดขาด กรำศึกต่อสู้ทั่วหล้า บารมีจักรพรรดิยิ่งยง!

“วิชายุทธ์และฝีมือที่คนผู้นี้ใช้ เรียกได้ว่าเร้นลับอัศจรรย์ แต่เมื่อตั้งใจแยกแยะกลับไม่สามารถมองเห็นเงื่อนงำอะไรได้ บางทีอาจมาจากโลกอื่นในฟ้าดารา”

มีคนเอ่ยเสียงขรึม

“จินตู๋อี ชื่อนี้ฟังดูแล้วอหังการจริงๆ”

มีคนหัวเราะเยาะหยัน ระดับจักรพรรดิไม่น้อยต่างก็หัวเราะขึ้นมา

ซย่าสิงเลี่ยที่นั่งร่ำสุราอยู่ด้านข้างเรื่อยมา ในใจผ่อนคลายลงไม่น้อย ยังดีๆ เจ้าเฒ่าพวกนี้เหมือนกับตน ถูกเจ้าหนุ่มนั่นหลอกมาเหมือนกัน…

ดังคาด ไม่นานก็ไม่มีใครสนใจหลินสวินอีก

ระดับจักรพรรดิในที่นี้ ไม่มีทางเอาความคิดไปผูกกับคนรุ่นเยาว์อยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์