Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1941

ตอนที่ 1941 แดนลับโลกาสวรรค์
จือไป๋!

ชื่ออันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แทบไม่เป็นที่รู้จัก บุคคลแห่งยุคที่เก็บตัวเงียบอยู่ในบ่อเลือดสยบมาร

รู้แจ้งกระจ่างชัดแต่เก็บงำ

ร่างเปล่งแสงสว่างไสว แต่กลับย่างเท้าในความมืดมิด!

เมื่อมองเห็นจือไป๋ปรากฏตัว คนมากมายล้วนอึ้งไป มึนงงไม่ชัดแจ้ง

แต่บุคคลอย่างหลิงหงจวง หวงฝู่เซ่าหนง จวนอวี๋เหิง กลับจำฐานะของจือไป๋ได้ตั้งแต่แวบแรก

แววตาของพวกเขาต่างพลันเคร่งครัด

ไม่ว่าจะเป็นจือไป๋หรือเยวี่ยหรูหั่ว ต่างถือเป็นพวกปีศาจที่ไม่สนเรื่องในโลก แต่กลับมีรากฐานพลังน่าสะพรึงหาใดเปรียบ

สำหรับพวกเขา ชื่อเสียงดุจเมฆเลื่อนลอยนานแล้ว หนึ่งเดียวที่ใจจดจ่อก็คือมหามรรค!

‘ไม่มางานชุมนุมถกมรรคนี่ ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าบนโลกใบนี้ถึงกับยังมีพวกเก่งกาจมากมายขนาดนี้…’

เวลานี้หลินสวินอดลอบถอนหายใจกับตัวเองไม่ได้

ในจิตรับรู้ของเขา ในที่นี้นอกจากพวกหลิงหงจวง หวงฝู่เซ่าหนง จือไป๋ เยวี่ยหรูหั่วแล้ว ยังมีกลิ่นอายแข็งแกร่งถึงขีดสุดอื่นอีกจำนวนหนึ่งด้วย

บ้างก็กระจายตัวหมู่ปีศาจจากโลกอื่นๆ ของฟ้าดารา

บ้างก็กระจายตัวในฝั่งของแคว้นกลางมรรคอย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่

นี่ทำให้หลินสวินตระหนักได้ว่า ในบริเวณที่ไร้คนสนใจก็มีพวกร้ายกาจที่ไม่อาจดูเบาอยู่เช่นกัน!

จนกระทั่งรอคอยเนิ่นนาน ทุกคนในที่นี้ก็ไม่เห็นหมีอู๋หยาโผล่มา

แต่ไม่มีใครคิดว่าหมีอู๋หยาจะไม่มา

แกร๊ง…! แกร๊ง…!

เสียงระฆังกังวานระลอกหนึ่งดังขึ้น เสมือนดังมาจากเก้าชั้นฟ้า ทำให้บรรยากาศทั่วลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด

ยอดเขาแห่งนี้มีชื่อว่าโลกาสวรรค์ เป็นยอดเขาหลักของเรือนมรรคโลกาสวรรค์

สถานที่รวมตัวผู้แข็งแกร่งทั้งหมดอย่างพวกหลินสวิน ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบไพศาลบริเวณไหล่เขาของยอดเขาหลัก

และในขณะนี้ พร้อมกับเสียงระฆังที่ดังขึ้น บนยอดเขาหลักโลกาสวรรค์พลันปรากฏเงาร่างเป็นสายๆ ขึ้นมา

เงาร่างทุกสายล้วนดุจดั่งไกลสุดขอบฟ้า ให้ความรู้สึกไม่อาจเอื้อมถึง ทำได้เพียงแหงนมองแก่ผู้คน

แต่กลิ่นอายของพวกเขากลับแทรกซึมทั่วถ้วน เหมือนเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ประทับเหนือเก้าฟ้า ปรายตามองโลกหล้า!

ผู้นำคือเจ้าสำนักเรือนมรรคโลกาสวรรค์ คนใหญ่คนโตเทียมฟ้าที่อำนาจบารมีสะเทือนทั่วหล้าคนหนึ่ง

ด้านข้างเขามีจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ มหาจักรพรรดิเพลิงวิญญาณจากเรือนมรรคจักรวาล จักรพรรดิลมศิลาเมฆจากเรือนมรรคยุทธจักร และจักรพรรดิมารผลาญนภาจากเรือนมรรคเหล่ามาร!

ระดับจักรพรรดิห้าคน เป็นตัวแทนอำนาจบารมีของห้าเรือนมรรคใหญ่ นอกจากเรือนมรรคคืนกำเนิดที่เร้นลับสุดหยั่งแล้ว คนใหญ่คนโตของหกเรือนมรรคใหญ่ล้วนมากันพร้อมหน้า

ด้านหลังระดับจักรพรรดิห้าคน ยังมีบุคคลระดับจักรพรรดิจากขุมอำนาจน่าสะพรึงอย่างสิบเผ่านักรบใหญ่ เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ทั่วหล้าด้วย

เหมือนอย่างจักรพรรดิกระบี่ยอดมารซย่าสิงเลี่ยก็อยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน

กวาดสายตานับดู มีระดับจักรพรรดิยี่สิบกว่าคนเต็มๆ ก็เหมือนเทพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดคนแล้วคนเล่าเสด็จมาเยือนโลก

ภาพตระการตาเช่นนั้น ทำเอาผู้แข็งแกร่งที่มาเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคอย่างพวกหลินสวินไม่มีใครไม่ใจสะท้าน สูดหายใจเย็น

ระดับจักรพรรดิ!

ส่องสะท้อนทั่วหล้า บารมีสะเทือนจักรวาล ดุจดั่งนายเหนือหัวสูงสุด เวลาปกติไม่ได้เห็นร่องรอยของพวกเขาสักนิด

แต่เวลานี้กลับมีระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวพร้อมกันในคราวเดียว!

ลำพังแค่ภาพนี้ ในกาลเวลาที่ผ่านมาของโลกใหญ่หงเหมิงล้วนแทบไม่เคยเกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ก็สามารถมองออกว่า ขุมอำนาจใหญ่น่าสะพรึงทั่วหล้าเหล่านี้ให้ความสำคัญต่องานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ปานใด

บรรยากาศเงียบกริบ เคร่งครัด ฟ้าดินล้วนดุจดั่งหยุดชะงัก

ไท่ซูหงเจ้าสำนักเรือนมรรคโลกาสวรรค์เอ่ยเสียงเรียบ “ความยิ่งใหญ่แห่งนัยของงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องสาธยายอีก ขอเพียงพวกเจ้าจำไว้ว่า งานถกมรรครั้งนี้มีระดับจักรพรรดิอย่างพวกข้าควบคุมดูแลอยู่ ย่อมไม่ยอมให้มีเรื่องแหกกฎใดๆ เกิดขึ้น”

เสียงก้องกระหึ่มดุจเสียงสัทครรลองมหามรรคดังก้องในจิตใจผู้แข็งแกร่งทุกคน

“ผู้แข็งแกร่งที่เข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้มีทั้งหมดหนึ่งพันแปดร้อยสี่สิบเก้าคน ในนี้มีผู้แข็งแกร่งจากแคว้นอื่นสี่ร้อยแปดสิบคน ผู้แข็งแกร่งแคว้นกลางมรรคแปดร้อยสิบหกคน ผู้แข็งแกร่งจากโลกอื่นในฟ้าดาราห้าร้อยห้าสิบสามคน…”

“จากนี้ไปพวกเจ้าจะเข้าสู่แดนลับโลกาสวรรค์ ดำเนินการคัดเลือกพร้อมกัน”

ขณะพูด ไท่ซูหงโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม!

เหนือพื้นที่ราบกว้างที่พวกหลินสวินอยู่ พลันปรากฏประตูน้ำวนใหญ่มหึมาบานหนึ่ง กลิ่นอายรกร้างดั้งเดิมไหลรินออกมา

“ในประตูนี้คือแดนลับโลกาสวรรค์ นั่นคือแดนแห่งปริศนาที่ภูเขาเทพแสงเขียวปกปักรักษาอย่างสมบูรณ์พร้อมที่สุด และดำรงสืบมาถึงปัจจุบัน”

“ก่อนพวกเจ้าจะเข้าสู่แดนลับโลกาสวรรค์ แต่ละคนต้องพก ‘ยันต์ชีวิต’ คนละชิ้น หลังจากเข้าไปแล้ว ระหว่างพวกเจ้าสามารถต่อสู้และเข่นฆ่ากัน ฉกชิงยันต์ชีวิตของผู้อื่นได้”

“จำไว้ ยันต์ชีวิตที่ชิงมายิ่งมาก คะแนนคัดเลือกก็ยิ่งสูง!”

“ผู้ที่ถูกชิงยันต์ชีวิตไม่ต้องกังวลถึงอันตรายว่าจะถูกฆ่าตาย ก่อนพวกเจ้าจะถูกฆ่า จะถูกเคลื่อนย้ายออกจากแดนลับโลกาสวรรค์ทันที”

ฟังถึงตรงนี้คนไม่น้อยต่างลอบถอนหายใจโล่งออก

ขอเพียงไม่ต้องพะวงว่าจะเกิดเรื่องล้มตาย สำหรับพวกเขาแล้ว การคัดเลือกถกมรรคครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรอีก

‘ก็จริง ผู้ที่เข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ล้วนเป็นผู้โดดเด่นระดับแนวหน้าแห่งยุค ย่อมไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องล้มตายขึ้นได้ หาไม่… ระหว่างการคัดเลือกคงเกิดการสูญเสียมากเกินไป’

หลินสวินคล้ายขบคิด

“การคัดเลือดถกมรรคในแดนลับโลกาสวรรค์ครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเวลา จนกระทั่งตอนที่เหลือหนึ่งร้อยแปดคนสุดท้าย การคัดเลือกจึงเป็นอันสิ้นสุด”

เสียงของไท่ซูหงดังก้องต่อเนื่อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์