Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1953

สรุปบท ตอนที่ 1953 เรื่องราวบนโลกก็เช่นนี้แหละ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1953 เรื่องราวบนโลกก็เช่นนี้แหละ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1953 เรื่องราวบนโลกก็เช่นนี้แหละ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 1953 เรื่องราวบนโลกก็เช่นนี้แหละ
เสวียนคง!

ชื่อนี้ทำให้ในใจระดับจักรพรรดิที่อยู่ที่นี่เกิดคลื่นอารมณ์บางอย่าง

เมื่อครั้งอดีต ในหมู่พวกเขาก็มีหลายคนที่ยังไม่ได้แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิ จะว่าไปก็เป็นคนรุ่นเดียวกับเสวียนคง

แต่ในสมัยนั้น รัศมีของพวกเขาถูกคนผู้หนึ่งบดบังโดยสมบูรณ์ นั่นก็คือผู้สืบทอดอันดับที่สี่สิบเก้าของคีรีดวงกมล…

เสวียนคง!

“เสวียนคง… เฮ้อ!”

จู่ๆ ไท่ซูหงก็ส่งเสียงถอนหายใจยาว ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิในตอนนั้น เรือนมรรคโลกาสวรรค์รักษาจุดยืนเป็นกลาง วางตัวเป็นคนนอก แต่สำหรับการร่วงหล่นของเสวียนคง ในใจไท่ซูหงยังอดเสียดายไม่ได้

ตอนนั้นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่จัดกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์โดยเฉพาะคนหนึ่งเคยประเมินว่า หากเสวียนคงบรรลุจักรพรรดิ จะต้องโดดเด่นที่สุดในระดับจักรพรรดิอย่างแน่นอน!

น่าเสียดาย…

ตำนานที่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง กลับร่วงหล่นในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ…

“มีอะไรน่าเสียดาย พวกคีรีดวงกมลล้วนสมควรตาย!”

หว่างคิ้วของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ

“เรื่องในอดีตพวกนี้อย่าพูดถึงอีกเลย แม้เสวียนคงร่วงหล่นไป แต่ก็เคยเป็นผู้ที่ตอนนั้นคนรุ่นเราทำได้เพียงชื่นชม หมีอู๋หยาคนนี้เองก็ไม่ธรรมดา เทียบกับเสวียนคง สิ่งที่ขาดไปก็แค่โอกาสในการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าตนไร้ศัตรูจริงๆ”

ไท่ซูหงเอ่ยเสียงขรึม “และงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ สำหรับหมีอู๋หยาก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งแล้ว ทุกคนรอดูก็พอแล้ว”

……

เวลาล่วงเลยไป ภายใต้การคัดเลือกถกมรรคที่ดุเดือดและโหดร้าย เวลาในแดนลับโลกาสวรรค์ได้ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว

ครึ่งเดือนนี้มีการเข่นฆ่าและการต่อสู้ดุเดือดเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน ไม่ว่าจะเพื่อช่วงชิงยันต์ชีวิตหรือเพื่อรักษาชีวิต ผู้ฝึกปราณทุกคนล้วนแข่งขันกันอย่างสุดกำลัง

จนถึงตอนนี้ ผู้เข้าร่วมการถกมรรคหนึ่งพันแปดร้อยสี่สิบเก้าคนได้ถูกคัดออกไปเกินครึ่งแล้ว เหลือผู้แข็งแกร่งเพียงหกร้อยกว่าคนที่ต่อสู้อยู่ภายใน

ในนั้นผู้แข็งแกร่งที่มาจากแคว้นต่างๆ เสียหายมากที่สุด เป็นส่วนใหญ่ของผู้แข็งแกร่งที่ถูกคัดออก

พวกปีศาจที่มาจากโลกอื่นๆ ในฟ้าดาราก็เสียหายไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็ปรากฏพวกร้ายกาจสะดุดตาอย่างมากกลุ่มหนึ่ง

อย่างเช่นจิ่งเทียนหนานที่มากจาก ‘เขตแดนดาราลักษณ์แก้ว’ หนึ่งในเขตแดนมหาดาราเก้าบน มรรคกระบี่แข็งแกร่ง โดดเด่นยิ่งยวด

หรืออย่างเวินอวี๋ที่มาจาก ‘เขตแดนดาราไป๋ถู’ ครอบครองเขตแดนมรรค ‘กระแสเหินธารดารา’ เหล่าผู้มีชื่อเสียงที่มีชื่ออยู่ในกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ล้วนถูกเขากำราบ เหิมฮึกกล้าหาญ

ปีศาจอย่างพวกจิ่งเทียนหนาน เวินอวี๋ ความร้ายกาจในพลังต่อสู้ล้วนเรียกได้ว่าตะลึงโลก ทำให้ระดับจักรพรรดิซึ่งอยู่โลกภายนอกต่างต้องหันมอง

เมื่อเทียบกันแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่มาจากแคว้นกลางมรรคอย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่เสียหายน้อยที่สุด

อีกทั้งส่วนที่เสียหายไป มีครึ่งหนึ่งคือพวกที่ถูกคัดออกเพราะหลินสวิน และเรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อ ‘จินตู๋อี’ ของหลินสวินยิ่งดึงดูดความสนใจ

และเช่นกัน ว่าทำให้พวกจู่เฟยอวี่ ถูเชียนเจวี๋ย ข่งเจายิ่งเจ็บแค้นยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ถูกคัดออกไปภายใต้น้ำมือหลินสวิน ส่วนใหญ่มาจากขุมอำนาจเบื้องหลังพวกเขา

ดังนั้นแม้เวลาจะผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว การค้นหาจับกุมหลินสวินก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น

……

วู้ม…

กระบวนผนึกลายมรรคที่คลุมเครือไหวเคลื่อนระลอกหนึ่ง ทำให้หลินสวินที่ทำสมาธิอยู่ในถ้ำใต้ดินตกใจ

“เสวียนเยวี่ย พวกเราควรเปลี่ยนที่แล้ว”

หลินสวินว่าแล้วลุกขึ้นยืน

ช่วงนี้เขากับจินเทียนเสวียนเยวี่ยจะเปลี่ยนที่ซ่อนทุกวันสองวัน

การหลบซ่อนทุกครั้ง หลินสวินจะวางกระบวนผนึกลายมรรคไว้มากมาย

บ้างวางอยู่หน้าถ้ำเพื่อบดบังกลิ่นอาย บ้างวางอยู่ในทิศทางที่ต่างกันห่างออกไปจากถ้ำหลายพันจั้ง เพื่อเตือนภัยล่วงหน้า

อย่างเช่นตอนนั้น คลื่นคลุมเครือที่ทำให้หลินสวินตกใจ ก็มาจากกระบวนผนึกลายมรรคที่อยู่ห่างออกไปหลายพันจั้ง บ่งบอกว่ามีผู้แข็งแกร่งเข้าใกล้พื้นที่แถบนี้แล้ว

มีกระบวนผนึกที่หนาแน่นและเข้มงวดเช่นนี้ ทำให้หลายวันมานี้หลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่ได้เจออันตรายอะไร

“ได้”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยพยักหน้า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของนางฟื้นฟูอย่างสิ้นเชิงแล้ว ฟื้นคืนชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้านี้ รูปลักษณ์งดงาม ท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ราวกับเซียน

ระหว่างเดินออกจากถ้ำหลินสวินก็เก็บกระบวนผนึกที่วางไว้ไปด้วย ขณะกำลังเตรียมจะจากไปเงียบๆ พร้อมกับจินเทียนเสวียนเยวี่ย กลับหยุดชะงักไปทันที

ครู่ต่อมาเขาพลันยิ้มพูดว่า “บังเอิญจริงๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นคนรู้จัก ไป พวกเราไปเจอพวกเขาสักหน่อย”

“คนรู้จักหรือ”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยคิดพลางเดินตามไป

……

บนทุ่งรกร้างแห่งนี้ ตอนที่สัมผัสได้ถึงพลังกระบวนผนึกลายมรรคที่ถูกกระตุ้น พวกลู่ตู๋ปู้หัวใจบีบรัดวูบหนึ่ง หลบไปไกล

หลังสังเกตอยู่ครู่หนึ่งแล้วเห็นว่าไม่มีอันตราย ลู่ตู๋ปู้จึงพูดว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ นี่เป็นกระบวนค่ายกลป้องกันแห่งหนึ่ง หากถูกสัมผัสก็จะถูกผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่นี้สังเกตเห็น”

“พวกชอบหลบซ่อนมักจะรอบคอบและระมัดระวังที่สุด แต่พวกเราจะบุกเข้าไปโดยพลการไม่ได้”

เซี่ยอวี่ฮวารีบพูดว่า “คราวนี้พวกเราทำได้เพียงเปลี่ยนทิศทางอีกครั้งแล้ว”

“น่าชังนัก!”

ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนเด็กของหวังถูเผยความเหี้ยมโหด “จนถึงตอนนี้ สถานการณ์ในแดนลับโลกาสวรรค์ร้ายแรงและอันตรายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”

“ที่น่ากลัวที่สุดคือ เพราะจินตู๋อีถูกตามจับ ทำให้ในแดนลับโลกาสวรรค์ไม่มีที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยอีก!”

เขายิ่งพูดยิ่งโมโห

หลินสวินกวาดสายตามองทุกคนแล้วยิ้มพูด “จริงสิ เหลิ่งซิวเจียเคลื่อนไหวกับพวกเจ้าไม่ใช่หรือ เขาล่ะ”

“พี่จินไม่เจอเขาหรือ”

เซี่ยอวี่ฮวาอดพูดไม่ได้

หลินสวินชะงัก “หมายความว่าอย่างไร”

เซี่ยอวี่ฮวาก้มหน้าพูด “พวกเรา… ได้ยินว่าสถานการณ์ของเจ้าไม่สู้ดี เหลิ่งซิวเจียจึงจากไปเพียงลำพังตั้งแต่ห้าวันก่อนแล้ว บอกว่าจะไปหาเจ้า”

น้ำเสียงไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง

จินเทียนเสวียนเยวี่ยจับสังเกตได้อย่างฉับไว พลันเอ่ยว่า “แต่เหตุใดเขาจึงจากไปคนเดียว คงไม่ใช่ว่า… ตอนนั้นพวกเจ้าไม่ได้คิดจะช่วยข้ากับพี่จิน เหลิ่งซิวเจียจึงเคลื่อนไหวเพียงลำพังหรอกกระมัง”

ในใจเซี่ยอวี่ฮวาขมขื่น

หวังถูกลับพูดอย่างเย็นเยียบ “แม่นางเสวียนเยวี่ย เรื่องช่วยคนช่วยไปก็กลายเป็นบุญคุณ ไม่ช่วยก็เท่าทุน ตอนนั้นพวกเรายังเอาตัวเองไม่รอด จะช่วยพวกเจ้าได้อย่างไร”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยพูดต่อว่า “อีกอย่าง ภัยนี้จินตู๋อีเป็นคนก่อ แต่ตอนนี้แม้แต่พวกเราก็พลอยลำบากไปกับเขาด้วย!”

ในน้ำเสียงเผยความขุ่นเคืองอย่างชัดเจน

ทันใดนั้นบรรยากาศพลันกดดันและอึดอัดขึ้นมา

หลินสวินมองเห็นทุกอย่างนี้กับตา รับฟังทั้งหมดด้วยใจ ยิ่งเห็นสายตาของพวกลู่ตู๋ปู้ก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว

จินเทียนเสวียนเยวี่ยรู้สึกไม่ชอบใจมาก พูดเสียงเย็นชา “พี่จินเห็นทุกคนเป็นคนกันเอง ตอนที่เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงประสบเคราะห์ก็เข้าช่วยเหลือในทันที หวังถู เจ้ากลัวจะหาเรื่องใส่ตัว ไม่อยากช่วย ก็ไม่จำเป็นต้องพูดแดกดัน”

ความจริงคนรู้จักเจอกันควรจะเป็นเรื่องที่มีความสุข แต่ภาพตรงหน้าทำให้ในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยรู้สึกรังเกียจขึ้นมา

ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ต่างเข้าใจกันอยู่แล้ว แต่การโยนความผิดทั้งหมดให้คุณชาย แบบนี้มันเกินไปแล้ว

“เอาล่ะ ทุกคนเลิกเถียงกันได้แล้ว”

ลู่ตู๋ปู้ยิ้มขื่นห้ามปราม “พี่จิน ก่อนหน้านี้พวกข้าไม่ได้ไปช่วยเจ้า ก็เพราะสถานการณ์ของตนเองร่อแร่ หาใช่ไม่ยินยอม แต่ไม่สามารถ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”

หลินสวินยิ้ม พยักหน้าพูด “เข้าใจ”

ว่ากันถึงแก่นแท้ ระหว่างเขากับพวกลู่ตู๋ปู้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งนัก เพียงแค่มาจากแคว้นเมฆาเหมือนกันเท่านั้น

ช่วยหรือไม่ก็แล้วแต่

“พี่ลู่ พวกเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะถูกเข้าใจผิดจนทำให้พวกเราเดือดร้อนอีก”

หวังถูพูดอย่างเหลืออด

ประโยคเดียวทำให้หลินสวินขมวดคิ้วอย่างยากจะสังเกตเห็น

……………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์