หลินสวินสังเกตเห็นได้อย่างแม่นยำ สายตาของซย่าสิงเลี่ยมองมาทางตน ในขณะเดียวกัน เสียงของเขาก็ดังขึ้นในโสตประสาทว่า
‘สหายน้อย ทันทีที่ฐานะของเจ้าถูกเปิดเผย พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ที่นี่จะต้องคลั่งแน่!’
‘ถึงอย่างไรที่แหล่งสถานคุนหลุนตอนนั้น ยังไม่ต้องยกเรื่องเจ้าฆ่าผู้สืบทอดหกเรือนมรรคใหญ่กับสิบเผ่านักรบใหญ่เหล่านั้น แค่เจ้าได้ยอดศุภโชคที่มีความลับของการบรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์นั้นไป ก็เพียงพอจะทำให้ระดับจักรพรรดิที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าคนไหนก็ปล่อยเจ้าไปไม่ได้แล้ว’
พูดถึงตรงนี้ซย่าสิงเลี่ยก็เปลี่ยนเรื่อง ‘ทว่าตอนนี้ยังมีโอกาสกู้สถานการณ์ ทว่าเมื่อข้าลงมือ เกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสเข้าไปในเขตต้องห้ามเซียนโบราณอีก ฉวยจังหวะนี้เจ้าเลือกดูเถอะ’
เสียงเคร่งเครียดอย่างหาได้ยาก
ดวงตาดำหลินสวินไหววูบ เอ่ยว่า ‘ผู้อาวุโสวางใจ สมบัติที่ปิดบังกลิ่นอายบนตัวข้าอาจจะถูกหาเจอ แต่ฐานะที่แท้จริงของข้าจะไม่ถูกใครล่วงรู้แน่’
ชุดนักพรตสมประสงค์เป็นสมบัติจักรพรรดิที่มหัศจรรย์หาใดเทียบชิ้นหนึ่ง ได้มาจากรั่วซู่ ศิษย์พี่สามของคีรีดวงกมล ต่อให้ถูกมองออกก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะความวิเศษที่สุดของสมบัตินี้ ก็คือยามต่อสู้สามารถสลายการสอดแนมจากระดับจักรพรรดิได้ ดังนั้นจึงปิดบังมรดกวิชาที่มาที่ไปได้สำเร็จ
และในตอนนี้หลินสวินไม่ได้ต่อสู้อยู่
เช่นเดียวกัน เขาในตอนนี้ปรากฏตัวด้วยกายมรรคทองขาว ไม่ใช่การปลอมตัวอยู่แล้ว ต่อให้คันฉ่องมรรคยอดยุทธ์นั้นมหัศจรรย์แค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้
ซย่าสิงเลี่ยชะงักไป ครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า ‘ได้ แล้วแต่เจ้า’
สายตาหลินสวินมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ
คนผู้นี้มีผิวสีทองอ่อน คิ้วตากร้าวแกร่ง ร่างกายสูงใหญ่ดั่งภูผา มีบุคลิกหนักแน่นดั่งโลหะ
เขามีฉายาธรรมว่าอู้เสวียน
ตอนนี้ก็ปรากฏตัวด้วยนาม ‘อู้เสวียน’ นี้
แต่หลินสวินรู้ดี หมอนี่มาจากแดนกษิติครรภ์ที่เป็นหนึ่งในสามโลกมืด!
ก่อนหน้านี้ในแดนลับโลกาสวรรค์ ก็เพราะอู้เสวียนโจมตีเหลิ่งซิวเจีย จึงเกือบทำให้เหลิ่งซิวเจียถูกคัดออกจากการคัดเลือก
เดิมทีหลินสวินคิดว่าพอได้เผชิญหน้ากับการข่มขู่ของคันฉ่องมรรคยอดยุทธ์ คนผู้นี้จะต้องลนลานแน่ ถึงอย่างไรฐานะของเขาก็ละเอียดอ่อนถึงที่สุดเหมือนกัน
จะคิดได้อย่างไรว่าอู้เสวียนกลับแน่วนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีปฏิกิริยาใดสักนิดเดียว!
หลินสวินอึ้งไป
ทันใดนั้นข้างหูก็ได้ยินเสียงสื่อจิตของซย่าสิงเลี่ย
‘ไม่ต้องสนใจเจ้าคนที่มาจากโลกมืดพวกนี้ การไปเขตต้องห้ามเซียนโบราณคราวนี้ ขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่กับสิบเผ่านักรบใหญ่ ยอมรับผู้สืบทอดจากโลกมืดให้เข้าร่วมได้อย่างลับๆ นานแล้ว’
‘สาเหตุน่ะหรือ ง่ายดายนัก ถ้าไม่ยอมรับ โลกมืดก็จะส่งเฒ่าชราบางคนมาระราน ถ้าเกิดทำลายเส้นทางที่จะไปเขตต้องห้ามเซียนโบราณขึ้นมา เช่นนั้นผลลัพธ์ก็จะร้ายแรงแล้ว’
หลินสวินถึงเข้าใจทั้งหมดในยามนี้
จากจุดนี้เห็นได้ว่า โลกมืดก็ติดตามการเดินทางไปเขตต้องห้ามเซียนโบราณคราวนี้เป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ทั้งยังมาเข้าร่วมด้วย!
คิดดูแล้วก็จริง ศิลามรรคโลกาสวรรค์ก้อนหนึ่งทำให้เกิดสำนักเก่าแก่ชื่อสะท้านฟ้าดาราแห่งหนึ่ง ตอนนี้ยังมีชื่ออยู่ในหกเรือนมรรคใหญ่ ทั่วหล้าครั่นคร้าม
และตอนนี้ เป็นไปได้สูงมากที่สมบัติซึ่งถือกำเนิดในเขตต้องห้ามเซียนโบราณชิ้นนั้น จะเป็นมหาสมบัติแรกกำเนิดเหมือนศิลามรรคโลกาสวรรค์ เรื่องนี้จะไม่ทำให้ขุมอำนาจไหนในใต้หล้าตาลุกวาวบ้าง
“ช่างเถิด ในเมื่อสหายมรรคดื้อดึงเช่นนี้ เช่นนั้นก็เริ่มตรวจดูเถิด”
ไท่ซูหงไม่ขวางอีก
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงพยักหน้า
ขวับ!
สายตานางหยุดอยู่ที่หลินสวินแทบจะในทันที “จินตู๋อี เจ้าเป็นอันดับหนึ่งของการถกมรรคแดนลับโลกาสวรรค์ ย่อมต้องเริ่มที่เจ้า เจ้ามีความเห็นไหม”
เสียงเรียบเฉยเจือความเย่อหยิ่งและพินิจพิเคราะห์ ราวกับจับจ้องเหยื่อตัวหนึ่ง
เดิมนางนึกว่าจะได้เห็นความรู้สึกกังวลว้าวุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินสวินบ้าง แต่สุดท้ายนางก็ต้องผิดหวัง
หลินสวินเยือกเย็นมากอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังให้ความร่วมมือยิ่ง เอ่ยว่า “ไม่ปิดบังผู้อาวุโสทุกท่าน ตอนข้าเข้าร่วมการชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ก็ปิดบังกลิ่นอายบนตัวบ้างจริงๆ แต่ถ้าบอกว่าข้ามีเจตนาชั่วร้าย ข้าไม่ยอมรับ”
ขณะที่พูดบนร่างเขาก็มีแสงเทพฉายวาบ เสื้อคลุมตัวหนึ่งปลิวลอยออกจากร่าง กลายเป็นแสงประกายสีเงินวงหนึ่งล้อมรอบนิ้วมือเขาไว้
พอไม่มีชุดนักพรตสมประสงค์ปิดบัง กลิ่นอายและรูปลักษณ์ของหลินสวินไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไร
แต่ในสายตาของคนใหญ่คนโตระดับจักรพรรดิเหล่านั้นกลับมองเบาะแสอะไรบางอย่างออก พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาถูกประกายแสงสีเงินที่นิ้วมือหลินสวินวงนั้นดึงดูดสายตาไป
สมบัติจักรพรรดิ!
พวกเขาระบุคุณลักษณะของชุดนักพรตสมประสงค์ได้ทันที นัยน์ตาต่างหดรัด
ด้วยระดับอย่างพวกเขา ย่อมเคยเห็นสมบัติจักรพรรดิต่างๆ มามาก แต่กลับยังไม่เคยเห็นว่าใครจะหลอมสมบัติจักรพรรดิเป็นเสื้อผ้า เพียงเพื่อปิดบังกลิ่นอายของตนเอง
สิ่งนี้จะหรูหราเกินไปแล้ว ฟู่ฟ่าจนน่าตกตะลึง!
ชั่วขณะเดียวสายตาที่ระดับจักรพรรดิมองหลินสวินก็แปรเปลี่ยนเป็นชอบกล เจ้าหนุ่มนี่… มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่
แต่กลับเห็นจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงสีหน้าขรึมลง “เจ้าหนุ่ม ยังพูดว่าเจ้าไม่มีเจตนาร้าย สวมใส่สมบัติจักรพรรดิเช่นนี้ไม่ได้เพื่อปิดบังตัวตนหรือ บอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”
น้ำเสียงดุดัน อำนาจกดข่ม!
อานุภาพระดับจักรพรรดิทำให้หลินสวินรวมถึงทุกคนที่อยู่ใกล้กันต่างตัวแข็งทื่อ หายใจไม่สะดวก
ซย่าสิงเลี่ยเอ่ยปากเสียงเรียบว่า “ถ้าเจ้ากังขาฐานะของเจ้าหนุ่มนี่ก็เปิดโปงเขาท่ามกลางฝูงชน ถ้าเพียงแค่กังขาแต่ไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นก็เป็นการใช้อำนาจรังแกผู้อื่น ข้าคงต้องสอดมือยุ่งเกี่ยวหน่อยแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์