ในใจกลับมีเสียงศิษย์พี่สามรั่วซู่ดังขึ้น ‘อย่าพูด พวกเขาได้ยินการสื่อจิตของเจ้าได้อย่างชัดเจนทั้งนั้น เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้ข้าจัดการก็พอ”
จากนั้นก็เห็นว่ารั่วซู่ก้าวออกไปเบาๆ หนึ่งก้าว ปรากฏตัวกลางอากาศบนยอดเขา
นางยืนเด่นเพียงลำพัง เผชิญหน้ากับเหล่าจักรพรรดิ แต่ไม่มีใครกล้าดูเบา
หรือควรพูดว่า ขณะนี้ทุกสายตาในที่นั้นต่างถูกดึงดูดไปที่นางคนเดียว กลายเป็นจุดสนใจเพียงจุดเดียวกลางฟ้าดิน
“เจ้าเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกมาที่นี่ มาสอดเรื่องนี้”
เงาร่างจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงพุ่งออกมา ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้างามเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ในใจทั้งโกรธทั้งอายอย่างบอกไม่ถูก
ถูกคนอื่นโจมตีครั้งเดียวจนกลิ้งหล่นลงไปในทะเลเมฆท่ามกลางสายตาผู้คน ทำเอานางเสียหน้ายิ่ง
แต่พอได้เผชิญหน้ากับรั่วซู่ นางก็รู้สึกถึงความกดดันที่ปะทะเข้ามาเช่นกัน ชั่วพริบตาก็รับรู้ว่านี่เป็นคนน่ากลัวถึงที่สุดคนหนึ่ง
รั่วซู่ชำเลืองมองนางครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ายังไม่ได้ยกโทษให้เจ้าานะ กรุณาไสหัวกลับไป”
เสียงยังอ่อนโยนนุ่มนวลดังเก่า
แต่เมื่อพูดคำนี้ออกมาก็เกิดเสียงดังตูม จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง เงาร่างกลิ้งออกไปอย่างรุนแรง พอกลิ้งถึงตำแหน่งเดิมถึงหยุดลงอย่างเหมาะเจาะพอดี
และตั้งแต่เริ่มจนจบ นางที่เป็นถึงระดับจักรพรรดิกลับไร้กำลังต่อต้านหรือดิ้นรน!
ภาพเช่นนั้นทำให้พวกไท่ซูหงหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง จิตใจหวาดผวา แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! หญิงผู้นี้เป็นใครกันแน่
ทั้งยังเกี่ยวข้องอย่างไรกับจินตู๋อีคนนั้น
พวกหมีอู๋หยา หวงฝู่เซ่าหนงต่างสั่นสะท้านอยู่เช่นนั้น สมองว่างเปล่า
เป็นระดับจักรพรรดิเหมือนกัน แต่ในตอนนี้จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงกลับดูอ่อนแอปานนั้น เรื่องนี้แทบจะพลิกการรับรู้ของพวกเขาไป!
หลินสวินมองดูจนแทบหัวเราะออกมา สะใจหาใดเทียบ กรุณาไสหัวกลับไป… ต่อให้ศิษย์พี่สามโกรธก็ยังมีมารยาทเช่นนี้…
“เจ้าเป็นใครกันแน่ คิดจริงๆ หรือว่าพลังแข็งแกร่งแล้วจะเหิมเกริมไม่หวั่นเกรงที่นี่ได้”
เสียงร้องตะโกนโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงดังอยู่ไกลๆ ตั้งแต่บรรลุจักรพรรดิจนวันนี้ นางยังไม่เคยถูกทำให้อับอายปานนี้มาก่อน
ไม่เคย!
รั่วซู่สีหน้าไม่เข้าใจ เอ่ยว่า “มีฐานะเป็นระดับจักรพรรดิ หรือเจ้าไม่รู้ว่าเมื่อพลังแข็งแกร่งก็เหิมเกริมไม่หวั่นเกรงได้”
พอเสียงพูดเงียบลง บนใบหน้าจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงก็มีเสียงตบหน้าดังเผียะกังวาน แก้มฝั่งหนึ่งบวมแดงขึ้นมา
และตั้งแต่เริ่มจนจบ ยังไม่มีใครดูออกว่ารั่วซูลงมือเช่นไร!
“เจ้า… เจ้า…”
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงแทบคลั่งแล้ว ตาถลนแทบหลุดจากเบ้า
“อยู่สูงเหนือผู้อื่นมานานไปจนถึงขนาดลืมว่าตัวเองก็เคยเล็กจ้อยหรือ แน่นอนว่าในสายตาข้า เจ้าในตอนนี้ก็ยังเล็กจ้อยยิ่งเหมือนเดิม”
รั่วซู่เอ่ยเบาๆ
ชุดขาวของนางสะอาดสะอ้าน อ่อนโยนดุจสายธาร แต่พลังที่สำแดงออกมากลับขู่ขวัญทั้งที่นั้น กดข่มคมประกายเหล่าจักรพรรดิ!
“พี่ไท่ซู พวกเจ้าจะมองดูนางกำเริบเสิบสานที่นี่หรือ”
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงโกรธจนไม่อาจควบคุมได้
“สหายมรรค โปรดหยุดลงมือด้วย”
ไท่ซูหงถอนใจยาว ขนาดเขายังคิดไม่ถึง ว่าเพราะจินตู๋อีคนเดียวจะชักนำคลื่นลมความวุ่นวายมากมายเช่นนี้มาได้
“หยุดมือหรือ”
ซย่าสิงเลี่ยพลันหัวเราะหยัน “เมื่อกี้ยายแก่หั่วหลิงเหิมเกริมไม่หวั่นกลัวปานไหน ใช้ฐานะระดับจักรพรรดิกัดคนรุ่นหลังอย่างจินตู๋อีไม่ปล่อย ทั้งวิธีการยังต่ำทรามจนน่าโมโห ตอนนั้นพี่ไท่ซูก็ไม่ได้เอ่ยปากยับยั้งนะ”
ไท่ซูหงหน้าเจื่อน ยิ้มขื่นส่ายหัว
เดิมซย่าสิงเลี่ยก็เป็นคนตรงไปตรงมา ตอนนี้เหมือนได้ระบายความไม่พอใจในใจออกมา เอ่ยว่า “จากที่ข้าดู ยายแก่อย่างหั่วหลิงสมควรโดนเล่นงานแล้ว นางรังแกคนอื่นได้ แล้วเหตุใดคนอื่นจะรังแกนางไม่ได้ แค่เพราะนางมาจากเรือนมรรคจักรวาลก็ไม่สนขื่อสนแปได้แล้วหรือ”
“กล่าวอย่างไม่เกรงใจ วันนี้โชคดีที่อยู่ที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์ของพี่ไท่ซู ถ้าอยู่ในโลกภายนอกข้าคงฟันยายแก่นี่ไปนานแล้ว!”
ทั้งล้วนเหลือบมองมา ใครก็คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิกระบี่ยอดมารจะโมโหโทโสไปด้วยในตอนนี้
“ซย่าสิงเลี่ย!”
เสียงร้องแหลมของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงดังขึ้นไกลๆ เสียงเหมือนลอดไรฟันออกมา เผยแววโมโหและชิงชัง
“เรียกข้าทำไม ให้ไปเล่นงานเจ้าหรือ”
ขณะนี้คนใหญ่คนโตระดับจักรพรรดิที่เหิมเกริมเหนือฟ้าดาราอย่างซย่าสิงเลี่ยกลับกลอกตาใส่ทันที
เรื่องนี้ทำให้จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว หน้าคล้ำเขียว
นางชี้รั่วซู่ เอ่ยว่า “พวกเจ้าไม่สงสัยฐานะของผู้หญิงคนนี้เลยหรือ เป็นไปได้สูงมากที่นางจะเป็นเศษเดนจากคีรีดวงกมลเหมือนเจ้าหนุ่มนั่น”
คำพูดเดียวทำให้เหล่าระดับจักรพรรดิหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
ในสายตาของพวกเขา รั่วซู่น่ากลัวเกินคาดจริงๆ แต่พวกเขากลับนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ จะมีมหาจักรพรรดิคนไหนที่มีพลังน่ากลัวปานนี้
พูดอีกอย่าง ด้วยประสบการณ์และสิ่งที่เคยได้พบเห็นของพวกเขา ต่างไม่รู้ที่มาที่ไปของอีกฝ่าย
นี่จะผิดปกติไปแล้ว!
ควรรู้ว่าหากมองไปทั้งฟ้าดารา จำนวนของระดับจักรพรรดิมีน้อยนิดยิ่งนัก พอเพิ่มมาสักคนก็จะสะเทือนใต้หล้า เป็นที่รู้จักโดยทั่วกันทันที
การปรากฏตัวของระดับจักรพรรดิแปลกหน้าคนหนึ่ง จึงมักจะหมายความว่าฐานะของเขาย่อมไม่ธรรมดา!
เผียะ!
ทว่าเสียงพูดของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงเพิ่งเงียบลงก็ถูกตบหน้าอีกครั้งหนึ่ง เสียงดังกังวาน ใบหน้าล้วนบวมแดง
รั่วซู่เอ่ยเสียงนุ่มนวลว่า “เจ้าพูดจาน่าเกลียดเกินไปแล้ว ต่อให้คีรีดวงกมลอ่อนแอแค่ไหน ในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิตอนนั้นก็กดข่มจนเรือนมรรคจักรวาลโงหัวไม่ขึ้น เจ้า… มีคุณสมบัติอะไรมาลบหลู่คนสำนักเขา”
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด ตอนนั้นคีรีดวงกมลกดข่มเรือนมรรคจักรวาลจนโงหัวไม่ขึ้นเลยหรือนี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์