Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1968

ตอนที่ 1968 หมื่นยุคคืนกำเนิด
ต่อหน้าบรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่ ไท่ซูหงซึ่งเป็นถึงเจ้าสำนักเรือนมรรคโลกาสวรรค์ยังต้องก้มหัวคารวะ เหล่าจักรพรรดิในที่นั้นทำได้เพียงยืนนิ่งอย่างสงบเสงี่ยม

แต่รั่วซู่กลับคล้ายไม่มีปฏิกิริยาอะไร วาจาของนางยิ่งเจือน้ำเสียงกังขา

เหนือความคาดหมาย บรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่กลับยิ้มขื่น อธิบายว่า “ถ้าข้าไม่ออกมา เกรงว่าเจ้าคงทำฟ้าดินแห่งนี้จมยุบหมด”

รั่วซู่คิดแล้วพยักหน้า “นี่ก็จริง”

ทุกคนต่างอึ้งไป

การสนทนาของบรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่กับรั่วซู่ทำให้พวกเขาต่างไม่อาจสงบใจได้ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงซึ่งมีที่มาลึกลับคนนี้ มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับบรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่!

“อาจารย์ลุง ขอเรียนถามว่าผู้อาวุโสท่านนี้คือใคร”

ไท่ซูหงถามอย่างอดไม่ได้

บรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่หุบยิ้ม ชำเลืองมองไท่ซูหงครั้งหนึ่ง แล้วมองระดับจักรพรรดิที่อยู่ในที่นั้น เอ่ยถอนใจเบาๆ อย่างอดไม่ได้ว่า

“ก็ไม่แปลกที่พวกเจ้าจะสงสัย ถึงอย่างไรผู้สืบทอดของเรือนมรรคคืนกำเนิดก็ไม่ได้ท่องในโลกหล้ามานานมากแล้ว…”

ประโยคเดียวราวกับฟ้าถล่มดินทลาย

ระดับจักรพรรดิอย่างไท่ซูหง ซย่าสิงเลี่ย จักรพรรดิมารผลาญนภาต่างอึ้งไป คลื่นความตกตะลึงซัดขึ้นในใจ

เรือนมรรคคืนกำเนิด!

เรือนมรรคที่เก็บตัวและลึกลับที่สุดในหกเรือนมรรคใหญ่ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดนี้ ผู้สืบทอดของสำนักนี้แทบจะเก็บตัวเงียบไม่ออกมา ไม่สนใจเรื่องราวในโลก

แต่ใครก็ไม่อาจเพิกเฉยคนของเรือนมรรคคืนกำเนิดได้ ทั้งยังไม่กล้าลบชื่อออกจากหกเรือนมรรคใหญ่!

เหตุผลนั้น สามารถใช้ประโยคเดียวบรรยายได้โดยสมบูรณ์…

ทั้งสำนักคือมหาจักรพรรดิ หมื่นยุคคืนกำเนิด!

ขอเพียงเป็นระดับจักรพรรดิก็จะรู้ถึงพลังที่มีอยู่ในประโยคนี้อย่างแจ่มชัดหาใดเทียบ น่ากลัวปานไหน ก็น่ากลัวจนทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน!

ชั่วขณะเดียวทั้งที่นั้นก็เงียบสงัด

ผู้สืบทอดเรือนมรรคคืนกำเนิดถึงกับปรากฏตัวบนโลกในงานชุมนุมถกมรรคคราวนี้ เรื่องนี้หากกระจายออกไป ทั่วหล้าต้องสะเทือนเลื่อนลั่น คลื่นใหญ่ทรงพลังซัดโหม!

หลินสวินก็อึ้งไปเช่นกัน

เรือนมรรคคืนกำเนิดหรือ

เหตุใดศิษย์พี่สามรั่วซู่ถึงเปลี่ยนฐานะไปในพริบตา

ในใจหลินสวินมีความเป็นไปได้ต่างๆ อุบัติขึ้น และมีความสงสัยหลายหลากผุดออกมา ถ้าไม่ใช่ว่าสถานการณ์ไม่เหมาะ เขาจะต้องถามศิษย์พี่สามรั่วซู่อย่างอดไม่ได้ทันทีว่าตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ควรรู้ว่าเมื่อนานมาแล้วหลินสวินก็เคยได้ยินเรื่องเรือนมรรคคืนกำเนิด และเคยทึ่งกับรากฐานพลังอันน่ากลัวที่เรือนมรรคนี้มี

แต่กลับไม่เคยคิดว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับสำนักที่ลึกลับหาใดเทียบเช่นนี้!

เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ นางจะเป็นผู้สืบทอดเรือนมรรคคืนกำเนิดได้อย่างไร”

จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงร้องเสียงหลง

ไม่ใช่ว่าสภาวะจิตของนางไม่หนักแน่นพอ แต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ถูกกระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป เสียหน้าไปสิ้น ศักดิ์ศรีหดหาย ในใจแค้นรั่วซู่ถึงกระดูกไปนานแล้ว คิดอย่างบ้าคลั่งว่าภายหน้าจะแก้แค้นอย่างไรดี

แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้สืบทอดเรือนมรรคคืนกำเนิด…

นางจะยังแก้แค้นอย่างไรได้

ถึงตอนนั้นแม้ว่านางจะมีเรือนมรรคจักรวาลอยู่เบื้องหลัง ยังเกรงว่าจะช่วยอะไรไม่ได้!

“เจ้ากังขาคำพูดของข้าอยู่หรือ”

บรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่นิ่วหน้า สีหน้าเย็นชา

ระดับจักรพรรดิ ยืนผยองอยู่เหนือหล้า แต่ละคนต่างมีพลังที่สามารถจองหองเหนือสรรพชีวิตได้ทั้งนั้น นี่จึงทำให้ยามพวกเขาทำอะไรก็มักจะเหิมเกริมไม่หวั่นเกรง อาละวาดไร้ความกลัว

เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงคนนี้ก็คือตัวอย่างชัดที่สุด!

นางไม่เพียงมีระดับจักรพรรดิ ทั้งยังมีเรือนมรรคจักรวาลอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นต่อให้อยู่ในเรือนมรรคโลกาสวรรค์ นางก็ยังกล้ากดข่มคนรุ่นหลังอย่างไม่กลัวเกรง

นี่ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องจิตใจคับแคบ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ เป็นการดูถูกเพราะตนสูงส่ง จึงดูหมิ่นได้โดยสมบูรณ์

แต่โชคไม่ดี นางเตะโดนแผ่นเหล็กแล้ว ถึงขั้นทำให้นางเสียหน้าสิ้น เสียอาการครั้งแล้วครั้งเล่า อับอายต่อหน้าทุกคน

ทั้งหมดนี้บรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่ได้เห็นมานานแล้ว จึงดูมีท่าทีเย็นชาและผลักไสจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง

“มิกล้า”

พอถูกบรรพจารย์จักรพรรดิชิงเย่กวาดมอง จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงก็แข็งทื่อไปทั้งตัว ได้สติโดยสมบูรณ์ สีหน้าหมองลงไป

นางรับรู้ได้ว่าหน้าตาและศักดิ์ศรีที่เสียไปในวันนี้ เกรงว่าจะเอาคืนมาไม่ได้แล้วแน่ๆ และใช้เวลาไม่นาน เกรงว่าใต้หล้าแห่งนี้จะมองนางเป็นตัวตลก!

มดตัวหนึ่งจะเสียหน้าก็เสียไป ไม่มีใครสนใจ กระทั่งคร้านจะเยาะเย้ย

แต่ถ้าระดับจักรพรรดิคนหนึ่งเสียหน้า เช่นนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่ที่อึกทึกครึกโครมในใต้หล้า และจะรู้กันหมดในเวลาอันสั้นยิ่ง

จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้นตันใจ สายตาชำเลืองมองที่หนึ่งโดยไม่รู้ตัว

ตรงนั้นมีชายผิวทองคนหนึ่งยืนอยู่ หนักแน่นดั่งโลหะ สูงใหญ่ดังภูเขา เป็นอู้เสวียนที่มาจากแดนกษิติครรภ์

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง ในที่สุดเขาก็หน้าเปลี่ยนสี ต้องกัดฟันแน่นถึงกดข่มความกลัวและหนาวสะท้านในจิตใจเอาไว้ได้

เพียงแต่เขารู้แก่ใจว่าด้วยเรื่องนี้ เกรงว่าจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงจะแค้นแดนกษิติครรภ์ของพวกเขาเข้ากระดูกดำแล้ว!

คิดถึงตรงนี้เขาก็มองดูหลินสวินที่อยู่ไม่ไกลครั้งหนึ่งอย่างอดไม่ได้ ไฟโทสะอัดอั้นไร้สิ้นสุดผุดออกมาจากใจ

เจ้านอกรีตระยำนี่ ดันพ้นเคราะห์ไปได้อีกครั้ง!

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ว่าแท้จริงแล้วเจ้าคนที่ชื่อจินตู๋อีผู้นี้ก็คือผู้สืบทอดคีรีดวงกมล!

ตอนอยู่บนยานลมกรด ภิกษุเฒ่าตู้คง ระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์ถูกชายท่าทางเหมือนชาวนาคนหนึ่งสังหารด้วยสามหมัด

ขนาดอู้หมิงยังร่วงหล่นไปด้วย

เรื่องนี้ก่อให้เกิดคลื่นลมใหญ่ยิ่งในแดนกษิติครรภ์ ถึงกับทำให้บุคคลชั้นสูงที่ปิดด่านไม่รู้กี่ปีคนหนึ่งตกตะลึงเพราะเรื่องนี้ ทำการอนุมานทำนายและลงมือด้วยตัวเอง

ในที่สุดก็มั่นใจว่าชายชาวนาคนนั้นก็คือผู่เจิน ผู้สืบทอดลำดับที่สิบเอ็ดของคีรีดวงกมล!

และหลินสวินที่ถูกผู่เจินเรียกว่าศิษย์น้อง ก็ถูกแดนกษิติครรภ์หมายหัว!

ไม่ว่าฐานะอวี่เสวียนที่หลินสวินใช้ หรือฐานะจินตู๋อีที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ ต่างก็ถูกแดนกษิติครรภ์คาดเดาฐานะได้จากร่องรอยและเบาะแสต่างๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์