“ตอนที่อาจารย์รับปาก ศิษย์พี่ใหญ่ดีใจจะแย่ หลังออกจากสำนักไม่นานก็บุกเบิกเรือนมรรคคืนกำเนิด”
“เพียงแต่เรือนมรรคคืนกำเนิดในตอนนั้นมีแต่เขาคนเดียว หนำซ้ำยังไม่มีแม้แต่เขาวิญญาณแดนมงคลให้ฝึกปราณได้สักแห่ง ย่อมไม่ถึงกับมีชื่อเสียงอะไร”
“ศิษย์พี่ใหญ่หยิ่งทระนงมาก ไม่ต้องการอาศัยความช่วยเหลือของพลังที่เกี่ยวข้องกับคีรีดวงกมล เริ่มกรำศึกในใต้หล้าเพียงลำพัง”
“เขาในตอนนั้นเปลี่ยนตัวตนไปต่างๆ นานา ทั้งผู้ฝึกกระบี่ ผู้ฝึกดาบ ยังมีผู้ฝึกฌาน ผู้ฝึกจิต ผู้ฝึกกาย…”
“ไม่ว่าจะเป็นตัวตนไหน และไม่ว่าจะผ่านการเข่นฆ่าเช่นไร ขอเพียงเขาได้รับชัยชนะ จะต้องบอกว่าตนเป็นผู้สืบทอดเรือนมรรคคืนกำเนิด”
“ระหว่างที่เขาสู้ศึก ชื่อเสียงของเรือนมรรคคืนกำเนิดก็แพร่กระจายตามไปด้วย ดึงดูดสายตาจับจ้องและเสียงวิพากษ์วิจารณ์นับไม่ถ้วน”
“ผู้คนพูดกันว่าเรือนมรรคคืนกำเนิดเป็นมหาจักรพรรดิทั้งสำนัก รากฐานพลังลึกล้ำไม่อาจหยั่งถึง หนำซ้ำยังน่าพิศวงหาใดเทียบ ไม่มีใครว่าภูเขาของเรือนมรรคคืนกำเนิดอยู่ที่ไหน”
“ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเรือนมรรคคืนกำเนิดโด่งดังขึ้น”
พูดถึงตรงนี้มุมปากของรั่วซู่ก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่า ผู้สืบทอดเรือนมรรคคืนกำเนิดที่เป็นตัวตนต่างๆ นั้น ความจริงแล้วมาจากศิษย์พี่ใหญ่คนเดียว”
“ขนาดเฒ่าชราระดับบรรพจารย์บางคนยังถูกหลอกเสียสนิท คิดไปจริงๆ ว่าบนโลกนี้มีสำนักน่ากลัวที่มีผู้สืบทอดระดับจักรพรรดิมากมายเพิ่มเข้ามาอีกแห่ง ศิษย์น้องเจ้าว่าศิษย์พี่ใหญ่ร้ายกาจไหม”
หลินสวินพยักหน้าซ้ำๆ จิตใจก็สั่นสะท้านไม่หยุด
คนผู้เดียวแปลงร่างนับไม่ถ้วน ค้ำจุนเรือนมรรคแห่งหนึ่งจนสะเทือนฟ้าดารา!
ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือยังไม่มีใครมองทะลุได้ จากจุดนี้ก็เห็นได้ว่ามรรควิถีกับฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่แข็งแกร่งปานไหน!
รั่วซู่พูดต่อว่า “สมัยดึกดำบรรพ์ก็เคยจัด ‘งานชุมนุมวิชาบรรพจารย์’ ที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์แห่งนี้ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นห้าเรือนมรรคใหญ่อย่างดึกดำบรรพ์ จักรวาล เหล่ามาร โลกาสวรรค์และยุทธจักรต่างส่งบุคคล ‘ระดับบรรพจารย์’ ออกมาถกมรรคแลกเปลี่ยนวิชากับศิษย์พี่ใหญ่สำนักละคน”
“ขอเพียงแพ้ครั้งหนึ่ง เรือนมรรคคืนกำเนิดก็จะไม่สามารถเป็น ‘เรือนมรรค’ ได้”
“ผลลัพธ์เจ้าต้องรู้อยู่แล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ออกโรง สู้ทุกครั้งชนะทุกครั้ง คนผู้เดียวก็สยบพลานุภาพของห้าเรือนมรรคใหญ่ได้!”
“เมื่องานชุมนุมวิชาบรรพจารย์ปิดฉากลง เรือนมรรคคืนกำเนิดก็ก้าวมาอยู่ในหกเรือนมรรคใหญ่ได้สำเร็จ ทำให้ใต้หล้าล้วนตกตะลึง”
“แต่เพื่อรักษาหน้า ห้าเรือนมรรคใหญ่จึงประกาศแก่โลกภายนอกเพียงว่า รากฐานพลังของเรือนมรรคคืนกำเนิดได้รับการยอมรับจากพวกเขาโดยเอกฉันท์ ไม่ได้พูดถึงเรื่องระดับบรรพจารย์ในสำนักของพวกเขาแพ้ด้วยน้ำมือของศิษย์พี่ใหญ่”
“แต่พวกเราผู้สืบทอดคีรีดวงกมลต่างรู้ดี”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของรั่วซู่ก็ปรากฏแววหยิ่งทระนง
ส่วนหลินสวินสะท้านจนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นไปแล้ว
คนผู้เดียวก็สยบระดับบรรพจารย์ห้าคนที่ห้าเรือนมรรคใหญ่ส่งออกมาได้!
นี่ต้องมีพลังปราณแข็งแกร่งปานไหนกันถึงทำได้
แล้วความสง่างามของศิษย์พี่ใหญ่ในตอนนั้น จะไร้เทียมทานเพียงไหนกัน
ทั้งสำนักคือมหาจักรพรรดิ หมื่นยุคคืนกำเนิด
ใครจะรู้ว่ายอดสำนักที่อยู่ในกลุ่มหกเรือนมรรคใหญ่ ถูกมองว่าลึกลับและเก็บตัวที่สุดแห่งหนึ่ง ความจริงแล้วจะมีศิษย์พี่ใหญ่ค้ำจุนอยู่เพียงคนเดียว
นี่ช่างเหมือนตำนานที่สะท้านนิรันดร์กาลได้เรื่องหนึ่ง!
หลินสวินยังไม่กล้าจินตนาการว่าบนโลกนี้จะมีชายผู้อัศจรรย์น่าเหลือเชื่อเช่นนี้ได้ ศิษย์พี่ใหญ่… เป็นเหมือนเทพจริงๆ!
เพียงแต่หลินสวินนึกถึงแต่ละภาพที่ได้เห็น ตอนได้รับวิชาอริยะยุทธ์ที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ…
ป้ายหินถล่ม ภูเขาสำนักที่พังพินาศ เงาร่างสูงใหญ่ดื้อรั้นร่างหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าซากปรักหักพัง ด้านหลังดูโดดเดี่ยว เศร้าสร้อยและอ้างว้าง
เขาเคยดื้อแพ่งโอหัง กรำศึกในเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ทั่วหล้าล้วนสั่นไหวเพราะพลังต่อสู้ของเขา
เมื่อศัตรูเต็มฟ้าบุกมา เขาทำเพียงลุกขึ้นเงียบๆ ยืนอยู่หน้าภูเขาสำนักที่พังทลาย แหงนหน้าขึ้นอย่างไม่หวาดหวั่น
ทะยานขึ้นเก้าชั้นฟ้า!
แต่ละภาพนั้น สิ่งที่แผ่ออกมากลับเป็นกลิ่นอายโศกาอย่างบอกไม่ถูก…
จากนั้นหลินสวินก็นึกถึงแหล่งสถานคุนหลุน นึกถึงแม่นางชุดม่วงที่รออยู่ในแดนลับต้นท้อแบนคนนั้น
กาลเวลายาวนานไร้สิ้นสุดผ่านไปแล้ว
นางยังคงรออย่างตั้งตาคอย
เขาจะกลับมา
นางเชื่อ
ในใจหลินสวินมีแรงกระตุ้นที่ไม่อาจกดข่มผุดออกมา เอ่ยว่า “ต่อมาล่ะ ต่อมาศิษย์พี่ใหญ่ไปที่ไหน”
รั่วซู่อึ้งไป แววซับซ้อนปรากฏขึ้นบนใบหน้างามผ่องแผ้ว เอ่ยว่า “ต่อมา หลังอาจารย์ออกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปยังแดนปริศนา ศิษย์พี่ใหญ่ใช้ฐานะผู้สืบทอดลำดับหนึ่งของคีรีดวงกมล ประกาศศึกกับจอมจักรพรรดิไร้นามที่เจ้าพูดถึงคนนั้นเพียงลำพัง”
หลินสวินใจสะท้าน สังหรณ์ใจไม่สู้ดี
ดังคาด ครู่ต่อมารั่วซู่ก็พูดว่า “ศึกนั้นใครก็ไม่รู้เบื้องลึก แต่หลังจากศึกนั้น คีรีดวงกมลของพวกเราก็ประสบมหาเคราะห์ครั้งหนึ่ง…”
“ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์