แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ หากมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งเรียกสมบัติจักรพรรดิออกมา อานุภาพที่ปลดปล่อยทั้งหมดก็น่าสะพรึงเหนือจินตนาการเช่นกัน
นี่ดีกว่าศาสตราวุธธรรมดาสามัญ ได้ครองศาสตราเทพเล่มหนึ่งย่อมสามารถผงาดผยองในการต่อสู้ได้
และด้วยความแข็งแกร่งและระดับพลังในปัจจุบันของข่งเจา กระบี่จักรพรรดิที่เรียกออกมา ถึงจะไม่อาจปลดปล่อยอานุภาพทั้งหมดออกมาได้ แต่ก็สามารถสังหารระดับกึ่งจักรพรรดิได้ง่ายๆ
แต่เวลานี้…
หลินสวินกลับใช้เขตแดนมรรคของตน ขวางกระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสไว้ได้ในพริบตา!
นี่จึงจะเป็นจุดที่ทำให้ข่งเจารู้สึกหวาดผวา
และในเวลานี้ หลินสวินใช้ประทับมหามรรคไร้ชีพสกัดต้าน เสียงเคร้งก้องกระหึ่ม กระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสที่ยาวเพียงสามชุ่นเล่มนั้นลอยกระเด็นออกไปตรงๆ
เสียงครวญสะเทือนฟ้า!
“สยบ!”
ข่งเจาสีหน้าเขียวคล้ำ คล้ายไม่เชื่อยิ่งยวด ใช้กระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสฟันสังหารอีกครั้ง
ความวิเศษอัศจรรย์ของกระบี่นี้ ก็อยู่ที่มองข้ามห้วงอากาศที่ขวางกั้น มาเร็วไปเร็ว แปลกพิลึกสุดหยั่ง ไม่อาจตรวจจับร่องรอย ทำให้คนไม่สามารถสัมผัสได้
เพียงแต่หลินสวินไม่สนใจสักนิด กระตุ้นเขตแดนมรรคแรกกำเนิด เรียกประทับมหามรรคไร้ชีพออกมา ใช้พลังซัดพลัง โจมตีอย่างกร้าวแกร่ง
ชั่วขณะเดียวกระบี่จักรพรรดิและประทับมรรคปะทะกัน ระเบิดคลื่นพลังน่าสะพรึงออกมา ทำให้ฟ้าดินมืดมน ห้วงอากาศครวญคร่ำ
ไม่นานกระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสก็ต้านไม่ไหว ถูกประทับมหามรรคไร้ชีพกระแทกจนส่งเสียงดังกึกๆ ร้องโหยหวนไม่หยุด ถอยหนีเรื่อยๆ
ส่วนข่งเจาที่ควบคุมกระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสก็ลำบากจนเกือบกระอักเลือด สีหน้าคลุ้มคลั่ง ไม่เชื่อสายตาตัวเองแม้แต่น้อย
นี่คือสมบัติจักรพรรดิอะไร ถึงกับกร้าวแกร่งและน่าสะพรึงเช่นนี้
ควรรู้ว่าในกระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใสบรรจุกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิ ประทับเจตจำนงและเจตกระบี่ของจักรพรรดิกระบี่ผู้หนึ่งในเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ไม่ใช่สิ่งที่ของทั่วไปจะเทียบชั้นได้
นี่ยังถูกข่งเจามองเป็นไพ่ตายของตนอีกด้วย
แต่ตอนนี้กระบี่นี้ถูกกดข่มโจมตีอย่างสิ้นเชิง นี่หากถูกจักรพรรดิกระบี่ในเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ผู้นั้นเห็นเข้า ต้องโกรธจนกระอักเลือดเป็นแน่
“ไปตายซะ!”
ทันใดนั้นเหลยเฟิงเชวียบุกมา สำแดงไพ่ตายเช่นกัน เรียกกระบองทองแดงสีดำด้ามหนึ่งออกมา หวดฟาดไปทางหลินสวินทันที
ตูม!
ยามกระบองทองแดงนี้ฟาดลงมา ประดุจภูเขาใหญ่สิบทิศกดทับลง ห่อหุ้มด้วยพลังเกรียงไกรมรรคจักรพรรดิไร้สิ้นสุด แสงสีดำไหลเวียน อานุภาพน่าตกใจหาใดเปรียบ
กระบองไล่วิญญาณ!
สมบัติจักรพรรดิเก่าแก่ที่ชำรุดชิ้นหนึ่ง ถึงจะเสียหายแต่อานุภาพยังคงน่าสะพรึงยิ่งยวด
เพียงชั่วพริบตา ถึงกับซัดเขตแดนแรกกำเนิดรอบตัวหลินสวินจนถล่มครืน แตกเป็นรอยแยกมหึมา
กระบองทองแดงสีดำพุ่งไปตามรอยแยกกระแทกเข้าใส่หลินสวินอย่างแรง!
กลับเห็นธงสีเหลืองส้มที่เบาหวิวดุจขนนกผืนหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือหลินสวิน ผืนธงสะบัดพรึ่บพลิกตลบ แสงมรรคเรืองรองที่คลุมเครือดุจหมอกไหลหลั่งออกมา
แสงมรรคเจิดจรัสเหล่านี้ดูเหมือนมายาลอยล่อง แต่ความรู้สึกที่ให้แก่ผู้คนกลับเหมือนเทพกระบี่แห่งยุคมาเยือนโลก
แสงมรรคแต่ละสายเปรียบเสมือนปราณกระบี่สูงสุดที่สามารถเบิกฟ้าแหวกปฐพีได้!
ฟุ่บ!
เมื่อข้อมือหลินสวินบิดขยับ แสงมรรคแถบหนึ่งก็พุ่งพรวดออกจากธงสีเหลืองส้ม พริบตานั้นประหนึ่งเทพกระบี่ดุกร้าวไร้ทัดเทียมออกโจมตี มีอานุภาพบุกทะลวงเวิ้งฟ้า
กระบองทองแดงสีดำที่ฟันสังหารลงมาถูกขวางไว้ในพริบตา จากนั้นก็สั่นรุนแรง เสียงปึงดังคราหนึ่ง ถูกแสงมรรคแถบนั้นโจมตีจนลอยคว่ำออกไป!
“นี่เป็นไปได้อย่างไร”
เหลยเฟิงเชวียผงะ รู้สึกยากจะเชื่อเช่นกัน
“สมบัติจักรพรรดิสองชิ้น!”
ยามข่งเจามองไปยังธงสีเหลืองส้มในมือหลินสวิน หัวใจยังกระตุกแรงๆ คราหนึ่ง จินตู๋อีนี่มีสมบัติจักรพรรดิสองชิ้นได้อย่างไร ซ้ำแต่ละชิ้นยังวิเศษอัศจรรย์และน่าสะพรึงยิ่ง
“ฆ่า รีบฆ่าเขาพร้อมกันเร็วเข้า!”
ข่งเจาตะโกนลั่น เขาตระหนักถึงความไม่เข้าทีบ้างแล้ว
ตูมครืน!
การต่อสู้ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นข่งเจาหรือพวกเหลยเฟิงเชวียล้วนไม่กล้าเก็บงำ เรียกไพ่ตายออกมา บ้างเป็นสมบัติจักรพรรดิ บ้างเป็นวิชาลับพลิกฟ้าที่ประหนึ่งสิ่งต้องห้าม
แต่ไม่ว่าจะเป็นวิชาลับระดับใด ล้วนถูกเขตแดนมรรคแรกกำเนิดของหลินสวินทุบทลายสิ้น กลายเป็นละอองแสงโชติช่วงดับสลายตามๆ กัน
ต่อให้เป็นสมบัติจักรพรรดิเหมือนกระบี่จักรพรรดิน้ำค้างใส กระบองไล่วิญญาณ ก็ถูกหลินสวินใช้ประทับมหามรรคไร้ชีพและธงมหามรรคไร้ระเบียบข่มกำราบ
มองจากไกลๆ แม้เขาที่ตัวคนเดียวจะถูกล้อม แต่กลับเหมือนไม่มีสิ่งใดรุกรานได้!
นี่ทำให้พวกข่งเจาล้วนตกใจระคนเดือดดาล ตระหนักถึงความน่ากลัวและร้ายกาจของคู่ต่อสู้ครั้งนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
“ช่วยข้าด้วย!”
ไม่ทันไรเสียงร้องตกใจหวาดกลัวสายหนึ่งก็ดังขึ้น
ชายชุดดำคนหนึ่งหลบไม่ทัน ถูกหมัดของหลินสวินซัดเข้าใส่ ฝนเลือดแผ่กระจายราวน้ำตก ร่างและจิตล้วนแตกดับ
นี่เป็นคนที่สามแล้วที่ตายในน้ำมือหลินสวินนับตั้งแต่เริ่มการต่อสู้!
หากรวมกับสองคนที่ถูกหลินสวินใช้ธนูวิญญาณไร้แก่นสารและหนามแสงคมสังหารก่อนหน้านี้ ก็มีผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ถูกฆ่าห้าคนแล้ว!
และควรรู้ว่า ผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณครั้งนี้มีเพียงแค่หนึ่งร้อยแปดคนเท่านั้น และผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
ไม่ทันไรก็ถูกสังหารไปห้าคน ความสูญเสียเรียกได้ว่าร้ายแรงแล้ว
ต่อให้เป็นบุคคลยิ่งใหญ่ในเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เหมือนอย่างผู้สืบทอดแกนหลักที่เหยียบย่างระดับมกุฎราชันอริยะ ติดอันดับกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์เหล่านี้ ก็ยังมีจำนวนจำกัด ทุกครั้งที่ตายไปหนึ่งคนล้วนเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่ไม่อาจชดเชยกลับคืนมาได้
“สมควรตาย!”
ข่งเจาไม่อาจเยือกเย็นได้อย่างสิ้นเชิง เดือดจนคลั่ง สายตาลุกโชนด้วยไอสังหารชวนสยอง เขาบุกสังหารเต็มกำลัง ไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด
แต่กลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
เพราะการตายของลู่ตู๋ปู้และซูมู่หาน ทำให้ในใจหลินสวินสั่งสมความโกรธและความแค้นไม่รู้จบ ตั้งแต่เริ่มต่อสู้เขาก็ไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์