บริเวณใกล้ๆ พายุอสนีดุจกระแสเชี่ยว โจมตีและฟาดฟันหน่ออ่อนที่แผ่พลังชีวิตออกมานั้น กลิ่นอายทำลายล้างน่าตกตะลึงหาใดเทียบ
เหล่านี้ล้วนเป็นพลังระเบียบมรรคอสนี เต็มไปด้วยอานุภาพทำลายล้างสูงส่ง!
จักรพรรดิอสนีดับสูญเป็นคนเย่อหยิ่งไร้เทียมทานปานไหน แต่ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดกลับถูกกำราบอยู่ที่นี่มาตลอด แม้แต่สติสัมปชัญญะยังสับสน ไร้พลังสลัดพ้น แค่ก็รู้ว่าระเบียบมรรคอสนีนั้นน่ากลัวเพียงใด
ทว่าพลังชีวิตของต้นอ่อนนั้นกลับรับการฟาดฟันและโจมตีทั้งหมดนี้ไว้ได้!
มันเปล่งประกายใสกระจ่าง คลื่นพลังชีวิตสีเขียวที่ไหลหลั่งออกมาก็เหมือนต้นหญ้าน้อยที่ถูกบดขยี้ไม่หยุดกลางพายุฝนลมคลั่ง เผยความหนักแน่นและดื้อดึงหาใดเทียบ
การจู่โจมที่ประหนึ่งทำลายล้างแต่ละครั้ง ทำให้มันต้องรับการทรมานอันน่ากลัว ทว่าทุกครั้งมันก็จะตั้งตรงขึ้นมาดั่งปาฏิหาริย์!
“ทำลายและเกิดใหม่ ก็เหมือนวัฏจักรความเป็นและความตาย หงส์อาบเพลิงจึงเกิดใหม่ได้ พลังชีวิตของสรรพชีวิตทั่วหล้าก็ซ่อนอยู่ในนัยเร้นลับมหามรรคอสนีนี้”
เสียงของเงาร่างนั้นตื่นเต้น เหมือนกับได้เผยแพร่มรรคถ่ายทอดวิชา “แต่ว่า สายฟ้าสังหารเป็นหลัก ทำลายล้างมรรค หมายจะหาพลังชีวิตในสายฟ้าทำลายล้าง… ยากนัก!”
“เปรียบดั่งผู้ฝึกปราณฝ่าด่านเคราะห์ทะลวงระดับ ภายใต้อสนีเคราะห์เต็มฟ้า ทำให้ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรจิตวิญญาณแตกซ่าน ดับสลายโดยสมบูรณ์ท่ามกลางการทำลายล้าง ทว่าขอเพียงฝ่าด่านอสนีเคราะห์ได้ ก็จะทำให้มรรควิถีของตนแปรสภาพโดยสมบูรณ์ราวเกิดใหม่…”
…ในเสียงบรรยายของเงาร่างนั้น หลินสวินมองดูพลังชีวิตของต้นอ่อนที่แปรสภาพและยกระดับภายใต้การทำลายล้างของสายฟ้า ความตระหนักรู้มากมายผุดขึ้นในใจ
เขาเคยฝึกกายมรรคไม้เขียว ครอบครองอภินิหารแห่งความเป็นตายรุ่งโรจน์โรยร่วง ดังนั้นเมื่อเห็นต้นอ่อนที่แปลงมาจากไม้โพธิ์นั้นแปรสภาพ ก็มีการหยั่งรู้ที่แตกต่างออกไป
ส่วนนัยเร้นลับอสนีที่จักรพรรดิอสนีดับสูญกล่าว ก็ทำให้เขาเกิดการรับรู้ต่อการทำลายล้างและเกิดใหม่ในรูปแบบใหม่ทั้งหมด
‘มรรคอสนีแกร่งกล้าอหังการถึงที่สุด ครองพลังสังหาร ดำเนินการทำลายล้าง พลิกเป็นตาย แปรเปลี่ยนนิพพาน… แม้แต่กลิ่นอายด่านเคราะห์ที่ปกคลุมทั่วหล้า ยังใช้พลังอสนีเป็นวิธีลงโทษจากฟ้า…’
เมื่อเสียงนี้ไหวกระเพื่อมในใจหลินสวิน ‘คัมภีร์มหาอสนีดับสูญ’ ที่กลายเป็นรอยประทับนั้นก็ผุดเข้าไปในห้วงนิมิต แปรสภาพเป็นรอยประทับรูปร่างคล้ายสายฟ้า
ตูม!
ชั่วขณะเดียวนัยเร้นลับต่างๆ ที่เกี่ยวกับมรรคอสนีก็ผุดขึ้นในใจหลินสวินราวกับกระแสธาร ทั้งลวดลายมหามรรคที่เกี่ยวข้องกับสายฟ้าต่างๆ ปรากฏการณ์ประหลาดสะท้านโลกที่แปรสภาพมาจากสายฟ้าภาพแล้วภาพเล่า เสียงสายฟ้ากึกก้องกัมปนาทสายแล้วสายเล่า…
ล้วนแปรสภาพเป็นพลังมรดกที่มหัศจรรย์ยากหยั่งถึง ทำให้ทั้งตัวหลินสวินตกอยู่ในสภาวะการหยั่งรู้อันแปลกประหลาด ไม่อาจถอนตัวได้
นี่เป็นยอดคัมภีร์มรรคที่จักรพรรดิอสนีดับสูญสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ในนั้นยิ่งมีการหยั่งรู้และประสบการณ์ของจักรพรรดิอสนีดับสูญจวบจนตอนนี้!
ถ้ามีคนที่รู้จักจักรพรรดิอสนีดับสูญ ต้องตกตะลึงสั่นสะท้านกับสิ่งนี้ รู้สึกทำใจเชื่อได้ยาก
เพราะบนทางเดินโบราณฟ้าดาราอันกว้างใหญ่เมื่อนานมากแล้ว มองดูทั่วหล้า จักรพรรดิอสนีดับสูญก็คือมหาจักรพรรดิที่ทั้งโลกยอมรับให้เป็นอันดับหนึ่งในมรรคอสนี!
เขาจองหองอวดดี ความสามารถไร้เทียมทาน ท่องไปทั่วหล้า ถูกยกให้เป็น ‘ยอดจักรพรรดิมรรคอสนี’ ความกล้าแกร่งของพลานุภาพประหนึ่งสุริยันฉายเด่น สร้างตำนานที่สามารถสะท้านนิรันดร์กาลได้ไม่รู้เท่าไร
บุคคลเทียมฟ้าอย่างเขา มีรากฐานพลังที่สามารถตั้งสำนักได้นานแล้ว!
แต่ใครก็รู้ว่าจักรพรรดิอสนีดับสูญหยิ่งผยองยิ่งนัก หยิ่งผยองจนคิดว่าโลกอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่มีใครสามารถสืบทอดมรดกวิชาของเขาได้ ดังนั้นจวบจนก่อนเข้ามาในเขตต้องห้ามเซียนโบราณก็ยังไม่เคยรับศิษย์!
แต่ตอนนี้ เพียงเพราะหลินสวินเป็นศิษย์น้องของจวินหวน เขาก็หลอมมรดกวิชาทั้งหมดเข้าไปในรอยประทับหนึ่งและถ่ายทอดให้หลินสวิน!
หากเรื่องนี้ถูกใครรู้เข้าจะรู้สึกอย่างไร
รักบ้านก็รักอีกาด้วย ก็เป็นเช่นนี้!
“จวินหวน… จวินหวน… ถ้าข้าหลุดไปได้จะต้องไปหาเจ้าแน่ ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเพราะเจ้าเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมล กลัวจะทำให้ข้าติดร่างแหไปด้วย แต่ข้าจี้เสวียนจะไปสนใจเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร”
ในกรงขังเงาร่างนั้นพึมพำ “ขอเพียงได้พบเจ้าอีกครั้ง… ต่อให้เป็นศัตรูกับทั้งโลกก็ไม่เป็นไร”
ไกลออกไปหลินสวินสีหน้าตกตะลึง เหมือนบ้าเหมือนเมา จมอยู่ในการหยั่งรู้มรรคไม่อาจถอนตัวได้
ท่ามกลางกระแสอสนี พร้อมๆ กับเวลาที่ผันผ่าน พลังชีวิตแวววาวของหน่ออ่อนนั้นก็เหมือนต้นอ่อนต้นหนึ่ง แตกหน่อเจาะเปลือก งอกเงยท่ามกลางการทำลายล้าง อาบชโลมอยู่ภายใต้การโจมตีของระเบียบมรรคอสนี เริ่มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทีละน้อย…
……
ณ จุดที่ห่างจากบึงแห่งนี้ไปไกลลิบ
พวกหวงฝู่เซ่าหนงสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ แต่ละคนต่างรู้สึกเหมือนรอดตายหวุดหวิด
ภาพก่อนหน้านั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ประกาศิตมรรคจักรพรรดิชิ้นหนึ่งกลับถูกมือใหญ่อสนีดั่งบังฟ้าได้ข้างนั้นบีบกระจุยอย่างง่ายดาย ทำเอาพวกหวงฝู่เซ่าหนงไม่กล้าจินตนาการ ว่าถ้าตอนนั้นหนีออกมาช้าไปนิดเดียวผลลัพธ์ที่ตามมาจะน่ากลัวขนาดไหน
“เจ้าหมอนั่นหนีเคราะห์นี้ไม่ได้”
จู่ๆ ก็มีคนยิ้มเอ่ยอย่างยินดีกับความทุกข์ของคนอื่น
ครู่เดียวคนอื่นๆ ก็ได้สติกลับมาด้วย ต่างยิ้มอย่างอดไม่ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้หลินสวินนั่นยังเพ้อพก ว่าจะอาศัยพลังของยอดเขาพิสดารนั่นโยนเภทภัยมาให้พวกเขา
แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับตกลงหลุมไปเสียแล้ว!
นี่ก็เรียกว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว รนหาที่ตายเองจะไปโทษใครได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์