ตอนหลินสวินได้พบอริยสงฆ์ตู้จี้กับนางพญาหงส์ทมิฬ เคยเห็นต้นโพธิ์ที่แท้จริงต้นหนึ่งในภาพที่ประหนึ่งย้อนกลับไปหมื่นกาล
ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ดุจมังกรขด กิ่งก้านเทียมฟ้า กลิ่นอายโบราณหนาแน่น ใบราวกับสลักขึ้นจากหยกสีเขียวมรกต ประกายเขียวมากมายแผ่ฟุ้งออกมา ย้อมฟ้าดินด้วยบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์
ตอนนั้นอริยสงฆ์ตู้จี้นั่งศึกษามหามรรค อนุมานวิชาลับอยู่ใต้ต้นโพธิ์ด้วยกันกับนางพญาหงส์ทมิฬ
ภายใต้การแปรเปลี่ยนของกาลเวลาอันไร้สิ้นสุด ในที่สุดทั้งสองก็สร้างยอดคัมภีร์อย่างคัมภีร์มหาครรภ์จุติออกมาได้
หลินสวินจำได้ชัดว่าใบหน้าอริยสงฆ์ตู้จี้เคยเจือยิ้มน้อยๆ กล่าวสาบานอย่างน่าเกรงขามว่า
‘หากข้าเป็นมาร ก็จะเป็นมารที่เหนือกว่าพระทั้งปวงในใต้หล้า!’
‘หากข้าเป็นพระ ใต้หล้าต้องไร้มาร!’
วาจาเช่นนี้ช่างอหังการเป็นที่สุด มีความกล้ายิ่งใหญ่ไม่สนขื่อแป มรรคข้าเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว
แต่ก็เพราะคัมภีร์มหาครรภ์จุติที่สร้างขึ้นเย้ยฟ้าเกินไป ทำให้ทั้งสองถูกพลังต้องห้ามสังหาร ไม่รู้เป็นตาย เหลือไว้เพียงไม้โพธิ์ที่ผนึกกลิ่นอายด่านเคราะห์ต้องห้ามเอาไว้ท่อนหนึ่ง และถูกหลินสวินได้ไปในที่สุด
ตอนนี้เมื่อได้ยินวาจาของจักรพรรดิอสนีดับสูญ จู่ๆ หลินสวินก็รับรู้ได้ถึงปัญหาข้อหนึ่ง
แล้วต้นโพธิ์ที่ตนได้เห็นในตอนนั้นถูกใครทำลายไป จนสุดท้ายเหลือเพียงท่อนไม้แห้งไหม้ดำท่อนหนึ่ง
พลังต้องห้ามหรือ
แต่ตามคำพูดของศิษย์พี่รั่วซู่ ไม้โพธิ์นี้ถือกำเนิดในแดนปริศนา สามารถต้านทานและผนึกพลังต้องห้ามได้!
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในสมองหลินสวินอย่างไม่มีสาเหตุ ‘หรือจะเป็นจอมจักรพรรดิไร้นามคนนั้น’
แววตาหลินสวินปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ
เขาคิดไม่ออก
แต่กลับแน่ใจได้ว่า แม้ต้นโพธิ์ที่เขียวชอุ่มเทียมฟ้า มีประกายสีเขียวมากมายแผ่ฟุ้งนั้นถูกทำลายไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็เกิดใหม่อีกครั้งภายใต้การถล่มโจมตีของระเบียบอสนีตรงหน้านี้!
แม้มันจะยังเล็กนัก แต่ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งมันจะต้องเติบใหญ่ขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่เทียมฟ้า พรมประกายสีเขียวมากมายได้อีกครั้งหนึ่งแน่!
จักรพรรดิอสนีดับสูญจี้เสวียนเอ่ย “แน่นอนว่าที่ข้าได้ยินเป็นแค่ข่าวลือหนึ่ง ต้นโพธิ์ซ่อนความเร้นลับพิศวงเท่าไรกันแน่ อาจทำได้เพียงให้เจ้าไปสัมผัสด้วยตัวเองในภายหน้า”
หลินสวินพยักหน้า ก็ในตอนนี้เอง…
เปลวเพลิงสีเทาพิสดารดวงหนึ่งปรากฏขึ้นกะทันหันท่ามกลางระเบียบอสนีเต็มฟ้า เข้าปกคลุมต้นโพธิ์
“เพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรม!”
จี้เสวียนหน้าเปลี่ยนสีกะทันหัน ยื่นมือผ่านซี่กรงขังออกไปทันที
ตูม!
ประทับอสนีเรียบๆ สายหนึ่งอุบัติขึ้น บนนั้นสลักด้วยลายมรรคอสนีมหัศจรรย์ เข้าขวางหน้าเปลวเพลิงสีเทาแปลกประหลาดนั้น
“รีบไปเก็บต้นโพธิ์!”
จี้เสวียนตะคอก
หลินสวินขับเคลื่อนความคิด สะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่งเก็บต้นอ่อนโพธิ์นั้นกลับเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด
แทบจะในขณะเดียวกัน เสียงครั่นครืนดังขึ้น เปลวเพลิงสีเทาอหังการหาใดเทียบ ชั่วพริบตาก็เผาประทับอสนีนั้น
หลินสวินตกตะลึงจนเหงื่อกาฬชุ่มไปทั้งตัว นั่นเป็นถึงการโจมตีของจักรพรรดิอสนีดับสูญ แต่กลับเหมือนกระดาษเปื่อยเช่นนี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรมสักนิด!
แต่ก็ในตอนนี้เอง เพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรมนั้นหายลับไปอย่างเงียบเชียบไร้เสียง
จี้เสวียนเหมือนยกภูเขาออกจากอก เอ่ยว่า “ยังดีที่ไม่โดนไฟนี่เข้า หาไม่แล้วต้นโพธิ์ต้นนี้จะต้องถูกเผาสิ้นแน่”
ต่อมาจี้เสวียนก็อธิบายให้หลินสวินฟังอีก “เพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรมนี้ถือกำเนิดขึ้นในระเบียบชั้นสูงของเขตต้องห้ามเซียนโบราณ น่ากลัวเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกปราณหรือสิ่งมหัศจรรย์อย่างต้นโพธิ์ ทันทีที่แตะไฟนี้เข้า ก็จะถูกเผาผลาญเป็นเถ้าธุลี”
“อย่างก่อนหน้านี้ ย่อมเป็นเพราะการแปรสภาพของต้นโพธิ์น่าตกตะลึงเกินไป ดึงดูดให้เพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรมสนใจ ถึงขนาดเกือบจะก่อเป็นเภทภัยครั้งใหญ่”
หลินสวินได้รับรู้ความน่ากลัวของเพลิงพิสุทธิ์เสื่อมโทรมในยามนี้ หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ เอ่ยว่า “พูดเช่นนี้ คิดจะช่วยผู้อาวุโสให้หลุดรอดจากที่นี่ ต้นโพธิ์ก็ใช้ไม่ได้แล้วหรือ”
แววประหลาดเผยออกมาจากดวงตาจี้เสวียน คล้ายคิดไม่ถึงว่าในเวลาแบบนี้ หลินสวินจะยังคิดถึงการช่วยให้ตนหลุดพ้นอยู่
“เพียงพอแล้ว”
จี้เสวียนสูดหายใจลึกเฮือกนึ่ง “ก่อนหน้านี้ไม้โพธิ์ดูดซับพลังระเบียบอสนีไปประมาณสามส่วน ไม่แข็งแกร่งเท่าก่อนหน้านี้นานแล้ว ตอนนี้ถ้าข้าทุ่มพลังทั้งหมดดิ้นรน ก็อาจจะหลุดพ้นจากที่นี่ได้”
ดวงตาดำหลินสวินเปล่งประกาย “ผู้อาวุโวยังต้องการให้ข้าช่วยไหม”
จี้เสวียนยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้อง”
ขณะที่พูด เขาก็ลุกขึ้นจากกรงขัง ผมยาวสีดอกเลาที่ยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงปลิวไสว เงาร่างสูงมีพลานุภาพอันน่ากลัวแผ่กระจายออกมา
ชั่วพริบตานี้ เขาก็เหมือนนายเหนือหัวแห่งมรรคอสนีที่เดินออกมาจากความพังพินาศผู้หนึ่ง ทำให้ที่นี่สั่นไหวขึ้นมาทันที
วิ้งๆๆ!
คุกที่กำราบเขาไว้เกิดคลื่นอัศจรรย์เป็นระลอก พลังระเบียบมรรคอสนีหลากสีสันกดข่มลงมาราวกับภูเขาถล่มทะเลหวีดร้อง
แต่กลับเห็นจี้เสวียนก้าวย่าง ยื่นมือออกมาคว้ากรงขังไว้แล้วฉีกลงทันที!
กรงขังที่แปลงจากระเบียบมรรคอสนีนั้นดันถูกฉีกออกเป็นรอยแยกยักษ์รอยหนึ่งอย่างจัง สายอสนีคล้ายน้ำตกนับไม่ถ้วนสาดกระเซ็น ฟันลงบนร่างจี้เสวียนอย่างรุนแรง ทำให้ผิวหนังแตกออก ร่างกายยังยับเยินหาใดเทียบ กำลังจะกระจายหายไป
แต่เขากลับเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก้าวออกไปหนึ่งก้าว เหยียบลงบนรอยแยกที่ถูกฉีกออกนั้นทื่อๆ แล้วพุ่งออกมาจากกรงขัง!
ท่วงท่าองอาจเหนือโลก โอหังเอาแต่ใจตนเช่นนั้นก็เหมือนเทพองค์หนึ่งทำลายพันธนาการ พุ่งออกมาเกิดใหม่!
โครม!
ในบริเวณใกล้เคียง ระเบียบมรรคอสนีปะทุโดยสมบูรณ์ กระโจนไปหาจี้เสวียนคล้ายบ้าคลั่ง ความโชติช่วงของอานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาทำให้หลินสวินมือเท้าเย็นเหมือนตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
อย่าว่าแต่ช่วย ขนาดคุณสมบัติที่จะเข้าไปแทรกแซงเขายังมีไม่พอ!
เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น เงาร่างของจี้เสวียนก็ถูกพายุอสนีกลบมิด ร่างกายหายลับไปทุกกระเบียด
ก็ในระหว่างที่หลินสวินตื่นเต้นเป็นที่สุดนี้เอง เสียงหัวเราะร่าเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากกลางพายุอสนีอันเปล่งประกายโชติช่วง…
“หนีล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์