เขาก็รับรู้ได้ว่าคราวนี้ไม่อาจหลบหนีแล้ว จึงจดจ่อโดยสมบูรณ์ กระตุ้นปณิธานต่อสู้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
นี่ก็คือรากฐานพลังของบุคคลแห่งยุค!
“หลินสวิน เจ้าบีบข้าเองนะ ต่อให้ตาย ข้าก็จะลากเจ้าลงหลุมไปด้วยกัน!”
หวงฝู่เซ่าหนงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สำแดงเขตแดนมรรคของตัวเอง
ตูม!
โลกนภาครามแห่งหนึ่งอุบัติขึ้น คลุมเครือขมุกขมัว กว้างใหญ่ไพศาล บรรจุหมื่นลักษณ์ภูผาธารา ทรายหินต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดที่เติบโตในนั้นล้วนเผยกลิ่นอายดุดันดั่งกระบี่ออกมา
เขตแดนกระบี่นภาคราม!
พอหวงฝู่เซ่าหนงลงมือ ปราณกระบี่หนาทึบนับไม่ถ้วนดุจม่านนภาครามก็โรยตัวลงมา
นอกจากนี้ เจ็ดสิบสองกระบี่เตาหลอมสีม่วงนั้นก็ถูกเขาเรียกออกมาถล่มโจมตีหลินสวินไปพร้อมกัน
“ลากข้าลงหลุมหรือ เจ้าจะมองตัวเองสูงเกินไปแล้ว”
หลินสวินหัวเราะเยาะ เขตแดนมรรคแรกกำเนิดดังครั่นครืน แปรสภาพเป็นหุบเหวลึก ราวกับวาฬใหญ่เขมือบน้ำ กลืนกินปราณกระบี่นภาครามนั้นไปจนหมด
เขตแดนมรรคทั้งสองปะทะกันในอากาศ เปรียบดั่งสองโลกกำลังห้ำหั่น โลกหนึ่งปราณกระบี่ไพศาล อีกโลกกลืนฟ้ากินดิน สะท้อนภาพที่สามารถสะท้านหมื่นกาลได้
ส่วนประทับไร้ชีพ ก็ถูกเจ็ดสิบสองกระบี่เตาหลอมสีม่วงนั้นสกัดไว้!
ตูม โครม…
ผ่านไปครู่หนึ่งก็เห็นว่าเขตแดนกระบี่นภาครามอันไพศาลนั้นถูกเขตแดนมรรคแรกกำเนิดกลืนกินจนหมดสิ้น ในที่สุดก็พังทลายลงกลางอากาศ กลายเป็นละอองแสงลอยละล่องเต็มฟ้า
หวงฝู่เซ่าหนงหน้าถอดสี นัยน์ตาขยายกว้าง
เขตแดนมรรคเป็นการสะท้อนมรรควิถีของตัวผู้ฝึกปราณ แต่ตอนนี้ในการประชันซึ่งหน้าหนึ่งต่อหนึ่งแบบนี้ หรือพูดอีกอย่างก็คือ การชิงชัยในมรรควิถีของตน เขาได้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงแล้ว!
“มิน่าผู้อาวุโสไท่ซูหงถึงพูดว่าหลังจากงานชุมนุมถกมรรคคราวนี้จะจัดอันดับกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ใหม่ ดูท่าก็คงสังเกตเห็นว่าคนอย่างเจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งอันดับสองสักนิด”
หลินสวินเอ่ยเรียบๆ
“ต่อให้จัดอันดับใหม่ ก็ย่อมไม่มีที่ให้เจ้าหลินสวิน อย่าลืมสิ เจ้าเป็นเศษเดนของคีรีดวงกมล!”
หวงฝู่เซ่าหนงโต้กลับอย่างเย็นชา
ขณะพูดเขาก็ลงมืออีกครั้ง สำแดงมรรคและวิชาของตน ดั่สัตว์ที่ถูกล้อมดิ้นรนต่อสู้ รู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นศัตรูของหลินสวิน แต่กลับไม่ยอมแพ้ลงเท่านี้
เรื่องนี้ทำให้หลินสวินออกจะเกินคาดจริงๆ
คิดดูก็จริง คนอย่างหวงฝู่เซ่าหนง ต่อให้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน แต่ในรุ่นเดียวกันก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอด ตระการตาถึงที่สุด ย่อมไม่อาจยอมแพ้ได้ง่ายๆ
ตูม!
หลินสวินไม่เกรงใจ ยิ่งลงมืออย่างไร้ปราณี กดข่มหวงฝู่เซ่าหนงอยู่หมัด ซัดจนโงหัวไม่ขึ้นโดยสมบูรณ์ ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เพียงพักเดียวหวงฝู่เซ่าหนงก็กระอักเลือดติดต่อกัน ได้รับบาดเจ็บทั้งภายในภายนอกร่างกาย คราบเลือดแดงสดย้อมเสื้อเขาให้เป็นสีแดง
“ถ้าในมือเจ้ายังมีสมบัติอย่าง ‘ประกาศิตมรรคจักรพรรดิ’ อาจจะยังมีที่ให้ดิ้นรนได้บ้าง”
หลินสวินเอ่ยขึ้นกะทันหัน
ถูกศัตรูเตือนอย่างหวังดีเช่นนี้ ในใจของหวงฝู่เซ่าหนงก็มีความอับอายและขุ่นเคืองอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นในใจ ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า
“หลินสวิน เจ้าจะรังแกกันมากไปแล้ว!”
สภาพเขาเหมือนบ้าคลั่ง พุ่งโถมเข้าสังหาร ทิ้งชีวิตโดยสมบูรณ์แล้ว
ถ้ามีประกาศิตมรรคจักรพรรดิอีกชิ้นหนึ่ง เขาจะถึงกับเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้ได้อย่างไร เกรงว่าคงสำแดงออกมาสังหารคู่ต่อสู้ไปนานแล้ว!
“ข้ารังแกเกินไปแล้วหรือ ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเจ้าไม่ประเมินกำลังตน รนหาที่ตายเอง จะมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร”
หลินสวินยิ้มหยัน
ไม่นานนักเขาก็สำแดงประทับปี้อั้น ทุบหวงฝู่เซ่าหนงให้ร่วงลงจากกลางอากาศ กระแทกลงพื้นอย่างแรง
ปึง!
ฝุ่นควันอบอวล พื้นดินแยกแตกเป็นหลุมใหญ่รูปคนหลุมหนึ่ง หวงฝู่เซ่าหนงนอนอยู่ในนั้น โชกเลือดไปทั้งตัว ร่างกายเกร็งกระตุกรุนแรงเพราะเจ็บปวด
อัจฉริยะชั้นยอดที่ชื่อเสียงโดดเด่นในฟ้าดารา อันดับสองของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ ตอนนี้กลับเหมือนหมาตาย หมอบลงไปกับพื้น น่าสังเวชถึงที่สุด
ถ้าตอนนี้ถูกผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลเห็นเข้า เกรงว่าจะไม่กล้าเชื่อว่านี่คือศิษย์แกนหลักอันดับหนึ่งในเรือนมรรคของพวกเขา
“ข้า… ไม่ยอม… ข้า… ไม่ยอมรับ….”
เสียงคำรามต่ำลึกแหบแห้งเหมือนสัตว์ป่าก่อนตายลอยออกมาจากปากหวงฝู่เซ่าหนง เผยความไม่ยินยอม โกรธเคืองและเคียดแค้น
“ทำไมถึงไม่ยอม”
เงาร่างหลินสวินลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็ว มอไปที่เขา สีหน้าไม่ทุกข์ไม่สุข
ทันใดนั้นหวงฝู่เซ่าหนงก็เค้นแรงทั้งหมดหันตัวมาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำว่า “ถูกเศษเดนจากคีรีดวงกมลอย่างเจ้าเอาชนะ… ข้าถึงตาย… ก็ไม่ยอมรับ!!”
หลินสวินอึ้งไป ไม่ยินยอมขนาดนี้ ไม่ยอมรับขนาดนี้ ก็เพราะว่าตนเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลหรือ
เรื่องนี้ดูไร้เหตุผลนัก
แต่หลินสวินกลับรู้ดีว่านี่ก็คือท่าทีที่เรือนมรรคจักรวาลมองคีรีดวงกมลซึ่งเป็นศัตรู พวกเขา… ชังคีรีดวงกมลเข้ากระดูกดำ!
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “วางใจได้ ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่ง ข้าหลินสวินจะเล่นงานพวกเจ้าเรือนมรรคจักรวาลจนไม่อาจไม่ยอมรับ!”
ฟุ่บ!
ปราณกระบี่ไท่เสวียนสายหนึ่งโฉบออกมา ฟันหัวร่วงเลือดไหลริน
ศิษย์แกนหลักอันดับหนึ่งของเรือนมรรคจักรวาล อันดับสองในกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ อัจฉริยะชั้นยอดที่เคยมีชื่อเสียงไปทั้งใต้หล้า ก็กายสิ้นมรรคสลายลงเช่นนี้
ในห้วงอากาศ เจ็ดสิบสองกระบี่เตาหลอมสีม่วงส่งเสียงครวญ ถูกประทับมหามรรคไร้ชีพสยบลงโดยสมบูรณ์
“ทำบาปเอง ไม่อาจรอดได้ เจ้าหวงฝู่เซ่าหนงชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหนแล้วอย่างไร คนตายแล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความว่างเปล่าอยู่ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์