นอกจากนี้ยังมีมรดกอย่าง ‘ไปไร้หวน’ ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ ‘วิชาอริยะยุทธ์’ ‘ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว’ เป็นต้น
การฝึกคัมภีร์มรรคและมรดกมากเช่นนี้พร้อมกันด้วยตัวคนเดียว แม้จะเป็นเรื่องที่สามารถทำให้คนทั่วไปอิจฉาตาลุก
แต่ยามฝึกเข้าจริงๆ กลับต้องใช้ประสบการณ์และเวลาอย่างมาก
สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าฝืนทำเกินกำลัง!
ต้องรู้ว่าในคัมภีร์มรรคมากมายนั้น แค่นัยเร้นลับที่บรรจุไว้ก็เรียกได้ว่าไพศาลราวทะเลควันแล้ว ครอบคลุมทุกระดับใหญ่ของการฝึกปราณ ภายในยังรวบรวมวิชามรรคนานัปการรวมถึงการหยั่งรู้และใจความของการฝึกปราณด้วย
หากผู้ฝึกปราณทั่วไปได้คัมภีร์มรรคเล่มหนึ่งในจำนวนนี้ ต้องทุ่มเททั้งชีวิตไปหยั่งรู้และบำเพ็ญเพียรแน่
ต่อให้เป็นอัจฉริยะที่ฝีมือล้ำเลิศ ยามหยั่งรู้คัมภีร์มรรคมากมายพร้อมกันก็ต้องรู้สึกว่าเกินกำลังหาใดเปรียบ
หลินสวินในตอนนี้ก็รู้เรื่องนี้ดี
เขามีมรดกนานัปการและไม่ขาดวิชาต่อสู้เช่นกัน สิ่งที่ขาดเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเวลาและกำลังที่ต้องใช้ในการหยั่งรู้
ถ้าทำให้ร่างแยกมหามรรคทั้งห้าเคี่ยวกรำจิตรับรู้และมรรควิถีออกมาได้ นั่นก็เท่ากับว่ามีตัวเขาอีกห้าคนมาหยั่งรู้คัมภีร์มรรคพร้อมกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนี้อีกแล้ว
ตามการสันนิษฐานของหลินสวิน เมื่อก้าวสู่ระดับกึ่งจักรพรรดิ บางทีอาจทำให้ร่างแยกมหามรรคทั้งห้าเคี่ยวกรำการรับรู้และมรรควิถีออกมาได้จริงๆ
และตอนนี้หลินสวินก็อยู่ห่างจากระดับกึ่งจักรพรรดิแค่ก้าวเดียวแล้ว!
…
หลินสวินหยั่งรู้คัมภีร์มหาอสนีดับสูญพลางมุ่งหน้าไปด้วย ตลอดทางหลบหลีกพื้นที่อันตรายเกินคาดเดามากมายได้อย่างไร้อันตราย
ระหว่างทางหลินสวินยังรวบรวมเจตวัตถุและวัตถุดิบวิญญาณที่ไม่มีในโลกภายนอกได้มากมายเช่นกัน ล้วนมีความอัศจรรย์เฉพาะตัว มูลค่าไม่ธรรมดา
วันนี้หลังจากหลินสวินเดินผ่านทะเลทรายรกร้างผืนหนึ่ง กลิ่นอายทำลายล้างที่ปกคลุมฟ้าดินสายหนึ่งก็ถาโถมเข้าใส่
พลันเห็นว่ามีภูเขาทอดตัวยาวอยู่ไกลๆ พาดอยู่กลางฟ้าดินประหนึ่งไร้ขอบเขต ทรงพลังกว้างใหญ่ไพศาล เก่าแก่ดึกดำบรรพ์
มองจากไกลๆ ยังพาให้คนรู้สึกว่าตัวเล็กจ้อย
ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว ใหญ่จนไม่อาจประเมิน!
ในหัวหลินสวินปรากฏภาพประทับของภูเขาลูกหนึ่งขึ้นมา เหมือนกับภูเขาลูกนั้นที่อยู่ห่างออกไปไม่มีผิด
เขาปู้โจว!
ในที่สุดหลินสวินก็กล้าแน่ใจว่าภูเขาทรงพลังที่พาดอยู่ใต้เวิ้งฟ้าไกลๆ และยิ่งใหญ่ไม่รู้กี่หมื่นลี้นั้น ก็คือเขาปู้โจวที่ให้กำเนิดมหาสมบัติแรกกำเนิดในตำนาน!
หลินสวินเริ่มเคลื่อนไหว พุ่งออกไปไกลโดยไม่ลังเล
ฟ้าดินที่นี่ปกคลุมด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่เสมือนคงอยู่จริง กดอัดใจคนราวกับภัยพิบัติน่ากลัวซึ่งพร้อมมาเยือนตลอดเวลา
ผืนฟ้าล้วนเป็นสีขมุกขมัว ยามเสียงลมพัดผ่านจะหอบม้วนไอชั่วร้ายดั่งควันไฟขึ้นมา คำรามก้องดังกระหึ่มบนพื้นปฐพี ส่งเสียงอึงอล
ยิ่งเข้าไปใกล้เขาปู้โจวนั่น กลิ่นอายที่ราวกับจะทำลายล้างนั้นก็ยิ่งชวนตะลึง บีบกดจนหลินสวินไม่อาจไม่โคจรพลังปราณเพื่อหักล้างสลายได้
นัยน์ตาดำเขาล้ำลึก ในใจระแวดระวังขึ้นมา
เปรี้ยง…
เมื่อเข้าไปใกล้เชิงเขาปู้โจวนั่น กลางอากาศก็ปรากฏอสนีบาตขมุกขมัวหลากรูปแบบ ในความรางเลือนราวกับมีเงาร่างของเทพมารห้ำหั่นกันอยู่ภายใน สู้กันจนฟ้าถล่มดินทลาย เสียงกึกก้องสะเทือนใต้หล้า
แต่เมื่อมองโดยละเอียด ภาพทั้งหมดนั้นก็หายไปราวกับหมอกควันแล้ว
ฟ้าดินเงียบสงัด ภูผาสูงเก่าแก่นั้นตั้งตระหง่านแผ่ไพศาล บนหินภูเขาทุกลูกล้วนมีสัญญาณจะพังทลายเป็นซากปรักหักพังและแตกหัก
ที่นี่ไม่มีต้นหญ้าเจริญเติบโต ไม่มีคลื่นพลังชีวิตแม้เศษเสี้ยว มีเพียงกลิ่นอายของการทำลายล้างหลายสายวนเวียนอยู่ เหมือนมีม่านปริศนาชั้นหนึ่งปกคลุมเขาปู้โจวไว้ภายใน
หลินสวินสูดหายใจลึก โคจรปราณสืบเสาะเข้าไปในเขาปู้โจว
ชิ้ง!
เพียงครู่เดียวในหมอกควันสีเทาด้านหนึ่ง รวงแสงสีเลือดแปลกประหลาดสายหนึ่งพลันพุ่งโจมตีมาทางหลินสวิน
เมื่อดูอย่างละเอียดก็พบว่านั่นเป็นกระบี่สำริดที่แตกหักเล่มหนึ่ง เปื้อนรอยเลือดเกรอะกรัง แผ่กลิ่นอายทำลายล้างที่น่ากลัวถึงขีดสุดออกมา
เคร้ง!
หลินสวินใช้ดาบหักต้านไว้ แต่กลับถูกสะเทือนจนเงาร่างไหวเอน เซถอยหลังไปสองสามก้าว ใจสะท้านอย่างอดไม่อยู่ พลังน่ากลัวยิ่งนัก!
ด้วยพลังปราณของเขาตอนนี้ การฆ่าระดับกึ่งจักรพรรดิล้วนไม่ใช่เรื่องยาก แต่กลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับกระบี่สำริดที่แตกหักเล่มนั้น นี่จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร
แต่เมื่อหลินสวินคิดจะสู้อีกครั้ง กระบี่สำริดที่แตกหักเล่มนั้นก็พลันหายไปแล้ว
‘ที่นี่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งดังคาด…’
นัยน์ตาดำของหลินสวินวูบไหว หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งก็มุ่งหน้าไปอีกครั้ง
เขาปู้โจวยิ่งใหญ่เหลือประมาณ สภาพภูเขาสูงตระหง่านโดดเด่น ทอดยาวติดต่อกัน เมื่อเดินอยู่ภายในนั้นพาให้คนไม่รู้ว่าควรเดินไปทางไหน
ทอดสายตามองไปรอบๆ ล้วนเต็มไปด้วยหน้าผาไร้ขอบเขต หินพิสดารหนาวเยือก!
หืม?
ไม่ทันไรนัยน์ตาหลินสวินพลันหดเกร็ง เห็นว่าบนหินมหึมาก้อนหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกลมีร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ ร่างนั้นสวมชุดคลุมม่วง ใบหน้าสง่างาม เพียงแต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความหวาดผวา ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ตรงหน้าอกเขาปรากฏรูโหว่ชุ่มเลือดขนาดเท่าปากชาม เลือดแดงสดยังคงหลั่งชโลม แต่หัวใจของเขากลับไม่อยู่แล้ว
หลินสวินจำได้ว่านี่คือปีศาจคนหนึ่งที่มาจากฟ้าดาราอื่น พลังต่อสู้แข็งกร้าวดุดันเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะนอนตายอยู่แบบนี้!
‘เป็นเพราะถูกคนอื่นฆ่า หรือถูกของประหลาดในเขาปู้โจวนี้ทำร้ายกันแน่’
ในใจหลินสวินหนาวสั่นเล็กน้อย
ในเขาปู้โจวนี้เงียบสงัด เต็มไปด้วยอันตรายที่ไม่อาจระบุ ต่อให้ใช้จิตรับรู้ตรวจสอบก็ยังถูกกลิ่นอายทำลายล้างที่แปลกประหลาดขัดขวาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์