ตอนที่ 2117 ชายชุดเขียว
นรกอำพรางชั้นสาม
กลางฟ้าดินสีเลือดอันมืดครึ้มขมุกขมัว หลินสวินเหินร่างเคลื่อนย้าย ไม่อำพรางกลิ่นอายรอบตัวสักนิด ทั่วร่างดุจรุ้งเทพที่พร่างพราวสายหนึ่ง
เมื่อเทียบกับชั้นสองแล้ว แรงกดดันที่ปกคลุมกลางฟ้าดินของชั้นสามนี้ยิ่งเผด็จการขึ้นไปอีกช่วงหนึ่ง กลิ่นอายเหี้ยมเกรียมและคาวเลือดประหนึ่งพายุกรรโชก
ลำพังแค่สภาพแวดล้อมเลวร้ายอันตรายเช่นนี้ ก็สามารถทำให้มกุฎกึ่งจักรพรรดิสองชั้นฟ้ายากจะก้าวเดินแม่แต่ชุ่นเดียวแล้ว!
ตูม!
ไม่นานนักวิญญาณร้ายกลุ่มหนึ่งก็พุ่งออกมา เลือดลมปานของกระแสธาร ปั่นป่วนไปทั่วฟ้าดิน พุ่งสังหารเข้าใส่หลินสวิน
วิญญาณร้ายแต่ละตัวต่างก็มีพลังระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสองชั้นฟ้าขึ้นไป อานุภาพโหดเหี้ยมดุดัน หากเปลี่ยนเป็นคนอย่างป๋อชวนมาที่นี่แทน ย่อมเป็นอันตรายมากกว่าโชคดี
ทว่าสำหรับหลินสวินแล้วก็ยังไม่คณามือ
เงาร่างของเขาไม่เคยหยุดชะงัก ทะยานไปเบื้องหน้า ทุกที่ที่เคลื่อนผ่าน วิญญาณร้ายทุกตัวที่กีดกวางอยู่ล้วนแตกระเบิด ร่างแหลกกระจุย
ภาพเช่นนั้นทำเอาเมิ่งซิงจื่อที่ถูกหลินสวินหิ้วไว้ในมือราวกับลูกไก่ปากอ้าตาข้างไประลอกหนึ่ง
แม้ตอนนี้เขาจะมีพลังต่อสู้ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้า ทว่าในชั้นที่สามนี้ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามพุ่งเข้าไปตรงๆ หากถึงขั้นถูกวิญญาณร้ายพวกนั้นพัวพัน ยังต้องเปลืองแรงพอควรกว่าจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายได้
แต่เมื่อเทียบกับหลินสวินแล้วก็ต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างสิ้นเชิง!
เพียงแค่หนึ่งเค่อ หลินสวินก็มาถึงเบื้องหน้าวังน้ำวนที่เชื่อมสู่ชั้นที่สี่แล้ว
“พี่หลิน หลังจากเข้าไปชั้นที่สี่นั่น ยันต์หยกคงชีพที่พกติดตัวมาจะเสื่อมฤทธิ์ ทันทีที่ประสบเรื่องไม่คาดคิดก็ออกมาไม่ได้อีกแล้วนะ” เมิ่งซิงจื่ออดเอ่ยปากพูดออกมาไม่ได้
หลินสวินกล่าว “เจ้าดูเหมือนจะไม่อยากให้ข้าไปช่วยเท่าไหร่”
เมิ่งซิงจือรีบส่ายหัวเป็นพัลวัน “ข้าเพียงแค่กังวลใจ พี่หลินเพิ่งมาใหม่ ไม่รู้สถานการณ์อย่างชัดเจน ถ้าเกิดอันตรายอะไรขึ้นมาจะกลายเป็นผลเสียต่อตัวพี่หลินเอง”
หลินสวินเหลือบมองปราดหนึ่งแล้วไม่ได้แยแสอีก พุ่งตรงเข้าไปในวังน้ำวนนั่น
ฟ้าดินมืดมัว ท้องฟ้าที่ปิดครอบผืนดินของชั้นสี่นี้ต่างกับสามชั้นก่อนหน้า ปกคลุมด้วยสายฟ้าสีโลหิตน่าสะพรึง หมุนคว้างประหนึ่งเมฆพายุ สายฟ้าที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้าฉายแสงจ้าบาดตาเป็นระยะ แผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงประหนึ่งทำลายโลก
ทันทีที่มาถึงหลินสวินก็สังเกตเห็นว่า สายฟ้าแปลบปลาบบนท้องฟ้านั่น ถึงกับวิวัฒน์มาจากไอชั่วร้ายที่โหดเหี้ยมอำมหิตหาใดเปรียบ!
นี่ก็น่าตกตะลึงเกินไปแล้ว!
เมื่อทอดสายตามองไปรอบๆ ผืนดินเวิ้งว้าง ห้วงอากาศขมุกขมัว กลิ่นอายดุร้ายป่าเถื่อนบีบคั้นจิตใจ เพียงแค่ยืนอยู่ในนั้น ก็เสมือนอยู่ในนรกที่คาวโลหิตและโหดร้ายทารุณ
ไกลออกไปธารโลหิตแดงฉานสายหนึ่งไหลริน ส่งเสียงครืนครัน น้ำในแม่น้ำสีแดงขุ่น ในเกลียวคลื่นที่โหมซัดสะท้อนภาพความตายอันแปลกประหลาดที่พิสดารมากมาย
กลางฟ้าดินยังมีเสียงผีครวญเทพสะอื้นดังมาแว่วๆ ทำเอาคนกลัวจนตัวสั่น
ฮูม…
หลังจากมาถึงที่แห่งนี้ หลินสวินก็ไม่อาจไม่โคจรปราณ ถึงสลายไอชั่วร้ายที่บีบอัดมาจากสี่ทิศแปดทางลงไปได้
เขาถามขึ้น “เจ้าแห่งวิญญาณร้ายที่เจ้าว่าอยู่ที่ไหน”
“พี่หลิน ที่นี่อันตรายเกินไปจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าช่วงหมื่นปีที่ผ่านมานี้ ผู้แข็งแกร่งที่มุ่งหน้ามาที่นี่มีมากกว่าครึ่งที่ประสบเคราะห์!”
สีหน้าเมิ่งซิงจื่อเต็มไปด้วยความตึงเครียด “แค่วิญญาณร้ายธรรมดาทั่วไปก็อันตรายจนสามารถทำให้ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้าสิ้นชีพได้แล้ว ส่วนเจ้าแห่งวิญญาณร้ายนั่น… แทบจะเกือบเทียบได้กับระดับจักรพรรดิแท้แล้ว!”
ขณะพูดเขาก็ส่งเสียงขอร้องออกมา “พี่หลิน พวกเรารีบออกห่างจากที่นี่กันเถอะ หาไม่หากถูกเจ้าแห่งวิญญาณร้ายพบเข้าย่อมไม่มีโอกาสรอดชีวิตเด็ดขาด”
หลินสวินกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เจ้าไม่ได้พูดว่าจะช่วยพวกพ้องของเจ้าเหล่านั้นรึ เหตุใดตอนนี้จู่ๆ มากลับคำ หรือจะบอกว่าเจ้ายังมีเรื่องอะไรปิดบังข้าอีก”
สีหน้าเมิ่งซิงจื่อเปลี่ยนไปมา ส่ายหัวเป็นพัลวัน “ข้ามีหรือจะกล้า… ข้าเพียงแค่…”
ปัง!
ทันใดนั้นเวิ้งฟ้าไกลออกไปมีอสนีบาตสีเลือดฟาดลงมาสายหนึ่ง จากนั้นก็แปลงเป็นเงาร่างที่อาบไล้ด้วยประกายสายฟ้าสีโลหิตที่เจิดจ้าบาดตา
นั่นเป็นวิญญาณร้ายตัวหนึ่ง กลิ่นอายเหี้ยมเกรียมไร้ที่สิ้นสุด!
“ตาย…!” วิญญาณร้ายแผดเสียงแหลมสูงออกมา ร่างของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นกระแสน้ำเชี่ยวสีเลือดสายหนึ่ง โฉบทะลวงห้วงอากาศทะยานเข้ามา
ตูม!
เขายกมือขึ้นโบกคราหนึ่ง กระแสน้ำสีเลือดไร้สิ้นสุดก็โถมเข้ามา กลิ่นคาวโลหิตเข้มข้นเหนียวหนืด แผ่กลิ่นอายอันชั่วร้ายและเน่าเหม็น ชวนให้คนรู้สึกคลื่นเหียนแทบจะอาเจียน
แค่การโจมตีนี้ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้าแล้ว!
ฮูม…
หลินสวินยืนนิ่งไม่ไหวติง ทว่าทั่วร่างกลับมีปราณกระบี่พร่างพราวแถบหนึ่งพุ่งออกมา แปลงเป็นกระบวนค่ายกลกระบี่แน่นขนัด พุ่งกำราบทันที
เสียงปะทะสะเทือนฟ้าดินดังสนั่น กระบวนค่ายกลกระบี่โคจร ปราณกระบี่ไร้ทัดเทียมพุ่งกระหน่ำ บดขยี้กระแสธารสีเลือดที่โหมซัดนั่นจนเกลี้ยง
ยังไม่ทันที่วิญญาณร้ายตนนั้นจะได้เข้ามาใกล้ ร่างก็ถูกสับเละ ร่วงโปรยปรายเกลื่อนพื้น
แกร๊ง!
ผลึกต้นกำเนิดมหามรรคขนาดเท่าไข่ห่านก้อนหนึ่งร่วงลงมา ส่องประกายกระจ่าง แวววาวไร้มลทิน ถูกหลินสวินคว้าผ่านอากาศมาไว้ในมือ มองสังเกตครู่หนึ่งก็อดเผยสีหน้าประหลาดออกมาไม่ได้
คุณลักษณะของผลึกต้นกำเนิดมหามรรคก้อนนี้ไม่ธรรมดาเป็นที่สุด แก่นมหามรรคที่ซ่อนอยู่ภายในประหนึ่งเมฆหมอกในแสงสายัณห์ หลากสีสันวิจิตรตระการตา ไม่ใช่สิ่งที่ผลึกต้นกำเนิดมหามรรคที่เขารวบรวมมาได้ก่อนหน้านี้จะเทียบชั้นได้!
และยามนี้เมิ่งซิงจื่อก็อึ้งค้างแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยมาเคี่ยวกรำในชั้นสี่ หากคิดอยากจัดการวิญญาณร้ายที่มีอานุภาพอย่างเมื่อครู่นี้ เขาต้องทุ่มสุดกำลังจึงจะสามารถรับมือไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์