ตอนที่ 2122 วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิ
ครืนๆ!
ไอสังหารราวกระแสน้ำ ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ห้วงอากาศพลันปั่นป่วน บรรยากาศที่เดิมทีก็พาให้คนเกือบหายใจไม่ออก เวลานี้เคร่งครัดถึงขีดสุด
หลินสวินขมวดคิ้ว ผิวของเขารู้สึกปวดแสบอยู่รางๆ การต่อสู้ที่เคี่ยวกรำมาหลายปี ทำให้เขารับรู้ได้ในพริบตาว่าเคราะห์สังหารใกล้มาเยือนแล้ว
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จิตต่อสู้ที่เงียบสงบในใจเขามานานในที่สุดก็มีสัญญาณว่าจะถูกจุดชนวน พลังขับเคลื่อนพลังและโลหิตที่ไหลเวียนรอบกายล้วนเริ่มพลุ่งพล่านอยู่รางๆ
ตั้งแต่เข้ามาในนรกอำพราง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน สัมผัสได้ถึงความมุ่งหวังที่อยากต่อสู้ซึ่งไม่ได้สัมผัสมานาน
เมื่อฝึกปราณถึงขั้นเดียวกับเขา ไม่อาจพูดได้ว่าเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย แต่พวกธรรมดาทั่วไปล้วนไม่อาจทำให้เขาสนใจได้จริงๆ
อย่างเมิ่งซิงจื่อ ชายชุดเขียว จระเข้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ก่อนหน้านี้… ก็ใช่ว่าไม่แข็งแกร่ง แต่สำหรับเขาหลินสวิน สามารถใช้คำว่าเล็กน้อยไร้กังวลมาบรรยายได้จริงๆ
แต่ตอนนี้ในที่สุดก็ต่างออกไปแล้ว!
เขามานรกอำพราง เดิมทีก็เพื่อเคี่ยวกรำตนเอง หาโอกาสแจ้งมรรคในขอบเขตมกุฎ ก้าวสู่มรรคาแห่งจักรพรรดิ!
หากไม่มีแรงกดดันและภัยคุกคาม กลับจะพาให้คนเบื่อหน่ายเกินไป
เส้นทางด้านหลังหลินสวิน มุกโลหิตแดงก่ำหยดหนึ่งรวมตัวกลางอากาศอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง มุกโลหิตไหวกระเพื่อม ลืมตาสีเขียวข้างหนึ่งมองไปยังเงาหลังของหลินสวิน
ฟุ่บ!
แสงสีเทาถูกยิงออกมาจากนัยน์ตา ทุกจุดที่เคลื่อนผ่าน ห้วงอากาศถูกกัดกร่อนเป็นรอยดำตรงดิ่งโดยไร้สุ้มเสียง
ราวกับถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
ความเร็วไวเกินไปแล้ว เพียงพริบตาก็จู่โจมเข้ามา
ฟุ่บ!
เสียงทึบหนักคราหนึ่ง ร่างของหลินสวินถูกโจมตี
นัยน์ตาสีเขียวที่ลืมขึ้นในมุกโลหิตนั้นเผยความยินดีเสี้ยวหนึ่ง แสงเทานี้มีนามว่า ‘แสงเหินกลืนกิน’ สามารถกัดกร่อนสรรพสิ่ง แปดเปื้อนพลังชีวิต พวกต่ำกว่าระดับจักรพรรดิล้วนไม่อาจต้านทาน!
ด้วยแสงเหินกลืนกินนี้ เดิมทีก็เป็นพลังชั่วร้ายซึ่งมีแค่พลังระดับจักรพรรดิที่ควบคุมได้
แต่ครู่ต่อมาความยินดีในดวงตาสีเขียวเสี้ยวนั้นพลันชะงักค้าง
เห็นเพียงเงาร่างนั้นของหลินสวินหายไปดั่งฟองสบู่
แย่แล้ว!
มุกโลหิตหยดนี้ตระหนักว่าท่าไม่ดี หมายจะหลบหลีก ประทับที่แผ่แสงสำริดหนึ่งก็กระแทกมาอย่างหนักหน่วงแล้ว
ประทับมหามรรคไร้ชีพ!
ปึง!
มุกโลหิตรวมถึงดวงตาสีเขียวในตัวมันถูกซัดเป็นฝุ่นผงสีเลือดในพริบตา
ในความมืดที่ห่างออกไปมีเสียงร้องแหลมสูงที่ตัดทำลายท้องนภาดังขึ้น ไม่ทันไรก็หยุดชะงักลง
เงาร่างหลินสวินปรากฏขึ้นกลางอากาศ เก็บประทับไร้ชีพลงไป
ด้วยพลังต่อสู้ยกระดับ หลายปีนี้เขาจึงสำแดงอานุภาพแท้จริงของศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนพวกนั้นออกมาได้แล้ว ยามเรียกใช้จึงแคล่วคล่องดังใจนึก ควบคุมได้ตามประสงค์
นี่ทำให้หลินสวินตระหนักถึงความแข็งแกร่งของศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมเช่นกัน สมบัติแต่ละชนิดล้วนมีความอัศจรรย์ต่างกันออกไป อานุภาพมหัศจรรย์โดดเด่น เหนือกว่าสมบัติจักรพรรดิทั่วไปมาก
อย่างประทับไร้ชีพ หากใช้กฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิแท้มาควบคุม อานุภาพของมันจะถึงขั้นซัดธารดารากระจาย บดทลายท้องนภาได้ มีอานุภาพทำลายล้างกำราบสังหารที่ไร้ขอบเขต
หรืออย่างดาบไร้วิชาที่มองข้ามทุกวิชาทั่วหล้า ต่อให้ปะทะกับวิชามรรคระดับจักรพรรดิก็เป็นแบบเดียวกัน
การมองข้ามเช่นนี้ไม่ใช่การต้านทานและไม่ใช่การสลาย หากแต่มองหมื่นวิชาราวสิ่งไร้ค่า ไม่อาจแปดเปื้อน!
ด้วยพลังของหลินสวินในตอนนี้ สามารถใช้ศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนได้อย่างง่ายดายแล้ว แต่ถ้าอยากปลดปล่อยอานุภาพสุดขีดของศาสตราจักรพรรดิพวกนี้ออกมา กลับไม่อาจทำได้
นอกเสียจากว่าเขาจะแจ้งมรรคเป็นระดับจักรพรรดิที่แท้จริง!
หลินสวินไม่ได้คิดมากความ มุ่งหน้าต่อไป
ฟ้าดินมืดมนเงียบเหงา คลื่นใต้น้ำพลุ่งพล่าน กลิ่นคาวเลือดไร้ขอบเขตเหมือนพายุที่ม้วนพัด โหมกระหน่ำอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงอึงอลราวกับเสียงร่ำไห้ของผีสาง
เสียงกระซิบกระซาบที่ปรากฏเป็นระยะนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าหมอนี่ยากจัดการ…”
“ในความทรงจำแรกเริ่มของข้าคล้ายจะรู้จักสมบัติในมือเขาเป็นอย่างดี แค่มองจากไกลๆ ก็ทำให้ในใจข้าตื่นตระหนกสั่นสะท้านขึ้นมา”
“เจ้าหมอนี่ไม่พอให้เป็นกังวล มีเพียงสมบัติในมือเขาที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม!”
“หึๆ ภัยคุกคามรึ ข้าว่าเป็นวาสนาอย่างหนึ่งถึงจะถูก ใครชิงสมบัติในมือเจ้าหมอนี่มาได้ บางที… ก็อาจได้เป็นใหญ่ในโลกนี้”
…บทสนทนาพวกนี้ไม่มีอำพราง ถูกหลินสวินได้ยินทั้งหมด ในใจเขาตัดสินได้ในพริบตา
ในนรกอำพรางชั้นที่หกนี้ มีวิญญาณร้ายที่มีสติปัญญากระจายอยู่มากมาย ทั้งน่าจะมีพลังในระดับจักรพรรดิทั้งหมดแล้ว
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่กล้าดูหมิ่นดูแคลนมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้าอย่างตนเช่นนี้แน่!
อีกทั้งวิญญาณร้ายที่มีสติปัญญา รู้จักวิเคราะห์ผลได้ผลเสีย วางแผนตัดสินใจได้เช่นนี้ ยิ่งน่ากลัวและยากจัดการที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
หากเปลี่ยนเป็นวิญญาณร้ายที่ไม่มีปัญญาพวกนั้น เมื่อเห็นตนปรากฏตัว เกรงว่าคงพุ่งสังหารเข้ามายกฝูงนานแล้ว
วู้ม!
ทันใดนั้นห้วงอากาศที่ห่างออกไปพลันม้วนซัด เงาร่างหนึ่งควบรวมออกมา กลายเป็นชายชราถือไม้เท้าไผ่ม่วง ดูแก่ชราไม่กระฉับกระเฉง หลังค่อมสันหลังโก่งคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์