Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2167

โอวหยางชิงสั่นไปทั้งตัว

เขาสูดหายใจลึก ขมวดคิ้วจ้องมองอวิ๋นฉางคง “เจ้า… เป็นใครกันแน่”

อวิ๋นฉางคงเอ่ยราบเรียบ “ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเจ้ากับคนที่ชื่อว่าหลันอิงเสวี่ยนั่น ล้วนต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เรื่องนี้”

ชิ้ง!

โอวหยางชิงชักกระบี่ยาวที่เอวออกมา ธารดาราที่บาดตาสายหนึ่งพุ่งขึ้นไป สาดส่องป่าลึกผืนนี้

“จ่ายค่าตอบแทน? อย่างเจ้าก็คู่ควรด้วยหรือ” เขาฟันกระบี่หนึ่งออกมาโดยไม่ลังเล เจตกระบี่ราวกระแสน้ำ ผสานด้วยนัยเร้นลับของมหามรรค พร่างพรายละลานตา

แต่กระบี่นี้กลับถูกอวิ๋นฉางคงแย่งไปอย่างสบายๆ เหมือนหัตถ์สวรรค์จับไส้เดือนตัวหนึ่ง ดูผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

“มีความสามารถแค่นี้ก็กล้ามองสรรพชีวิตราวมดปลวกรึ” อวิ๋นฉางคงเหลือบมองเขาเล็กน้อยแล้วออกแรงที่มือ

เปรี๊ยะ!

กระบี่วิญญาณที่เลื่องชื่อหาใดเปรียบเล่มนี้ปริแตกทุกกระเบียด

โอวหยางชิงใจหล่นวูบราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง เขาตระหนักได้อย่างสมบูรณ์ว่าครั้งนี้น่าจะเตะใส่แผ่นเหล็กแล้ว!

“ไปเดินเล่นกับข้าหน่อย”

อวิ๋นฉางคงพูดพลางยื่นมือไปกดบ่าของโอวหยางชิง ฝ่ายหลังไม่ทันได้หลีกหลบ เพียงรู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้าน พลังรอบตัวถูกพันธนาการอย่างสมบูรณ์

จากนั้นเขาก็ถูกหิ้วปีก เดินไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่ได้

โอวหยางชิงทั้งตกใจทั้งโกรธแค้น กล่าวว่า “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นนายน้อยตระกูลโอวหยาง บิดาของข้าก็คือโอวหยางเจิ้นหย่วน มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติที่จัดอยู่ในอันดับเก้าของแคว้นสันติ…”

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการข่มขู่อย่างหนึ่ง

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่อวิ๋นฉางคงแล้ว

คนที่ตื่นรู้ขึ้นมาในร่างของอวิ๋นฉางคง แน่นอนว่าเป็นหลินสวิน

“ต่อให้พ่อของเจ้าเป็นราชันสวรรค์ ตอนนี้ก็ช่วยเจ้าไม่ได้” หลินสวินเอ่ยราบเรียบ ชีวิตนี้เขาก้าวเดินมาทั่วฟ้าดารา เจอภัยคุกคามมาไม่รู้เท่าไหร่

การข่มขู่เช่นนี้ของโอวหยางชิง ไม่อาจใช้คำว่าข่มขวัญมาบรรยายได้แม้แต่น้อย

“เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่” โอวหยางชิงหน้าคล้ำเขียว ตื่นตระหนกกระสับกระส่าย

“วางใจเถอะ ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก”

หลินสวินกล่าวง่ายๆ “เจ้าดูถูกปุถุชนคนธรรมดาไม่ใช่หรือ ข้าก็อยากลองดูว่าเจ้าที่ถูกทำลายพลังปราณทั้งตัวจะได้รับการปฏิบัติอย่างไร”

โอวหยางชิงเพียงรู้สึกว่าในสมองมีเสียงดังตูมราวกับถูกฟ้าผ่า หวาดกลัวอย่างสมบูรณ์แล้ว

ถูกทำลายพลังปราณหรือ

เขาไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่า ถึงตอนนั้นจวนกระบี่หมอกตะวันรอนต้องทอดทิ้งตนอย่างไร้เยื่อใยแน่ ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่เคยมีปมกับตนพวกนั้น เป็นไปได้สูงว่าจะฉวยโอกาสโจมตีและหยามหน้าตน

ต่อให้เอาตัวรอดได้ เมื่อกลับไปที่ตระกูลก็จะถูกตระกูลทอดทิ้ง

อย่าว่าแต่ตำแหน่งนายน้อยเลย แค่คิดจะรักษาศักดิ์ศรีไว้ล้วนยากนัก!

ด้วยเติบโตในตระกูลใหญ่ เขารู้ดีว่าการต่อสู้ภายในตระกูลเหี้ยมโหดเพียงใด ขอแค่ฉวยโอกาสได้ คนในตระกูลที่เคยเคารพนับถือตนในอดีตพวกนั้นจะเปลี่ยนเป็นเทพดุอสูรร้ายที่อำมหิตที่สุด หมายจะเหยียบตนให้จมดิน!

ถึงตอนนั้นความหยิ่งทะนง ความสำเร็จ เกียรติยศ ชื่อเสียง สถานะอะไร… ต้องถูกซัดไปตามลมฝนจนหมดแน่!

สำหรับคนไร้ประโยชน์ที่ตกสู่เหวลึกจากที่สูงอย่างเขา สิ่งที่รอเขาอยู่แน่นอนว่าเป็นการหยามหน้า ลบหลู่ เยาะหยัน และการโจมตีไร้สิ้นสุด

สภาพเช่นนั้นเกรงว่าคงสู้ไม่ได้แม้แต่ปุถุชนคนธรรมดา!

“ไม่ เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้…” โอวหยางชิงตะโกนลั่น หวาดกลัวถึงที่สุด ราวกับคนใกล้จมน้ำตาย

ก่อนหน้านี้เขาเย่อหยิ่งอวดดี มองอวิ๋นฉางคงเป็นมดปลวก สามารถเข่นฆ่าได้ตามใจ คำพูดและการกระทำเต็มไปด้วยความอำมหิตและเย็นชาราวสูงส่งเหนือผู้อื่น

แต่ตอนนี้กลับลุกลี้ลุกลนเหมือนหมาจรจัด!

หลินสวินไม่สนใจ ออกแรงที่ฝ่ามือ ครู่ต่อมาปากของโอวหยางชิงก็ถูกผนึก ไม่อาจส่งเสียงได้อีก มีเพียงดวงตาเบิกโพลงเต็มไปด้วยความหมดหนทาง ตื่นตระหนกและวิงวอน

แต่หลินสวินกลับทำเหมือนมองไม่เห็น

จวนกระบี่หมอกตะวันรอน

รัตติกาลใกล้มาเยือน แสงอัสดงดุจอัคคีแผ่สีเทาหม่นชั้นหนึ่ง อาบไล้สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่แน่นขนัดของจวนกระบี่หมอกตะวันรอนไว้ภายใน

หน้าบานประตูสูงตระหง่านของจวนกระบี่หมอกตะวันรอนนั้น หลันอิงเสวี่ยที่สวมชุดคลุมน้ำเงิน ร่างทรงสง่าขมวดคิ้ว บนหน้าขาวกระจ่างที่ประณีตโดดเด่นเจือความหงุดหงิดเสี้ยวหนึ่ง

ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมศิษย์พี่โอวหยางยังไม่กลับมาอีก

“ศิษย์พี่หลัน”

“ศิษย์พี่หลันกำลังรอใครอยู่หรือ”

“ศิษย์พี่หลัน ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่”

ศิษย์บางคนของจวนกระบี่หมอกตะวันรอนเดินผ่านมา เมื่อเห็นหลันอิงเสวี่ยในดวงตาต่างเจือแววตกตะลึง เลื่อมใส และเร่าร้อนอย่างอดไม่ได้

ศิษย์หญิงบางคนกลับลอบปวดใจ รู้สึกสับสนขึ้นมา หลันอิงเสวี่ยคือความภาคภูมิใจของจวนกระบี่หมอกตะวันรอน เป็นศิษย์เบื้องท้ายคนเดียวของเจ้าจวน พรสวรรค์โดดเด่น ต่อให้พวกนางคิดอิจฉาก็อิจฉาไม่ลง

ดวงหน้างามของหลันอิงเสวี่ยนิ่งสงบ ผงกศีรษะอย่างสงวนท่าที

ความจริงแล้วในใจนางเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกจับจ้อง ได้รับความเลื่อมใสและถูกอิจฉาเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง นี่คือรสชาติที่นางไม่เคยสัมผัสเมื่อสามปีก่อน

เพื่อรักษาประกายที่หมื่นสายตาจับจ้องนี้ไว้ สามปีนี้นางทำทุกทางเพื่อฝึกปราณ ทุ่มเทเต็มกำลังอย่างสุดความสามารถ

ไม่มีใครรู้ว่าฐานะที่นางชิงมาได้ทุกวันนี้ เบื้องหลังต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปเท่าไหร่

ยิ่งเป็นเช่นนี้ นางก็ยิ่งไม่อาจทนเห็นตนกลับไปใช้ชีวิตเหมือนสามปีก่อนได้อีก ชีวิตที่ยากจน ธรรมดา และสามัญเช่นนั้น…

เปรียบเทียบกับชีวิตที่นางได้ครอบครองตอนนี้แล้ว นั่นก็เหมือนปลักตมเหม็นเน่า!

ส่วนอวิ๋นฉางคง…

ก็เป็นคางคกเรื้อนในโคลนเหม็นเน่านั้น ยังคิดจะดึงตนกลับไปแต่งเป็นภรรยาอีก… ไม่อ่อนต่อโลกเกินไปหน่อยหรือ!

‘อย่าหาว่าข้าไร้น้ำใจเลย แต่คนธรรมดาอย่างเจ้า เดิมทีก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ข้าต้องการคืออะไร…’

หลันอิงเสวี่ยพึมพำในใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์