พริบตาที่ข่าวแพร่ออกไป ทั้งจวนกระบี่หมอกตะวันรอนต่างสะท้านสะเทือน
หน้าประตูบ้านตน ผู้สืบทอดสองคนที่เจิดจรัสที่สุดในจวนถูกกำราบให้คุกเข่าลงกับพื้น นี่ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าถึงที่ชัดๆ
เพียงชั่วขณะแสงรุ้งดุจสายฝน บุคคลรุ่นอาวุโสมากมายต่างพุ่งออกมา แต่ละคนล้วนมีพลังปราณระดับกระบวนแปรจุติที่เรียกได้ว่าเป็นมหายุทธ์
ในโลกกระบวนแปรจุติ บุคคลเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่เหมือนมกุฎ
เมื่อเห็นโอวหยางชิงที่พลังปราณถูกกำจัด เห็นหลันอิงเสวี่ยที่คุกเข่ากับพื้นด้วยใบหน้าหม่นแสง คนใหญ่คนโตของจวนกระบี่หมอกตะวันรอนพวกนี้แต่ละคนบันดาลโทสะ สีหน้าอึมครึม
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ร่างคนผู้หนึ่งตามๆ กัน
“ผู้อาวุโส ช่วยข้าด้วย!”
หลันอิงเสวี่ยเหมือนคนใกล้จมน้ำตายคว้าฟางยื้อชีวิตไว้ได้ ส่งเสียงขอความช่วยเหลืออย่างโหยหวน
ภาพนี้ทำให้คนใหญ่คนโตพวกนั้นปวดใจไม่หยุด โมโหยิ่งกว่าเดิมทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
“พวกเขาก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
กลับเห็นหลินสวินกล่าวเรียบๆ “หรือพูดได้ว่าในโลกนี้ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
น้ำเสียงเผยความมั่นใจอย่างที่สุด
“โอหัง!”
ชายชราอารมณ์ฉุนเฉียวคนหนึ่งทนไม่ไหว พุ่งทะยานออกไป กลิ่นอายบ้าระห่ำ ระหว่างสะบัดแขนเสื้อปราณกระบี่มหึมาสายหนึ่งปรากฏ แหวกผ่านอากาศเข้ามา
นี่คือผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง หนึ่งกระบี่ฟันออกมา ลักษณ์ประหลาดสะท้านโลก
หลินสวินไม่หลบไม่หนี ยื่นมือทำท่าชักกระบี่กลางอากาศ
มรรคชักกระบี่
สามชุ่นสงัดนิรันดร์!
แต่คมกระบี่สามชุ่นกลับสาดปราณกระบี่พันฉื่อออกไป ห้วงอากาศพลันขาดสะบั้นราวกับผืนผ้า ปราณกระบี่โหญ่โตที่พุ่งเข้ามานั้นถูกบดขยี้อย่างง่ายดาย
ฉัวะ!
ชายชราถูกหนึ่งกระบี่ฟันลอยไป เสื้อผ้าตรงหน้าอกฉีกขาด เกราะสมบัติแตกออก ปราณกระบี่กัดกร่อนเข้าไปในร่าง โจมตีอวัยวะตันห้ากลวงหกของเขาอย่างหนัก
ยามร่วงตกลงบนพื้น ชายชราเลือดกบปากจมูก สีหน้าซีดเผือด เต็มไปด้วยความหวาดผวา
ณ ที่นั้นเงียบสนิท
กระบี่เดียวโจมตีผู้ฝึกกระบี่ใหญ่ระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส!
พวกเบื้องบนของจวนกระบี่หมอกตะวันรอนถูกทำให้ตกใจ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสี เวลานี้ในที่สุดพวกเขาก็แยกแยะได้ บนตัวเด็กหนุ่มที่แต่งกายเรียบง่ายนั้น อบอวลไปด้วยพลังปราณของระดับหยั่งสัจจะขั้นสมบูรณ์
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ใจของพวกเขาต่างกระตุกขึ้นมา ตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม ด้วยระดับหยั่งสัจจะและระดับกระบวนแปรจุติห่างกันหนึ่งระดับใหญ่เต็มๆ!
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร
เพิ่งอายุสิบกว่าปี ทำไมถึงมีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะขั้นสมบูรณ์ ซ้ำยังข้ามระดับอย่างเย้ยฟ้า ซัดคนที่อยู่ระดับกระบวนแปรจุติให้พ่ายยับเยินได้
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ต้องรู้ว่าคนรุ่นเยาว์อย่างหลันอิงเสวี่ยและโอวหยางชิงเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ชั้นยอดในแคว้นสันติ แต่ยามนี้มีแค่พลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้น
หลันอิงเสวี่ยก็ถูกทำให้ตกใจ ทั้งตัวนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ในสมองว่างเปล่า นี่จะเป็นพลังของเด็กหนุ่มชนบทที่ต้อยต่ำคนนั้นได้อย่างไร
“ข้ามาครานี้แค่เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า แน่นอนว่าหากไม่กลัวตาย พวกเจ้าสามารถลงมือได้เต็มกำลัง”
ในตอนที่หลินสวินเอ่ยปาก สีหน้าไม่สะทกสะท้าน แค่ตัวคนเดียวชัดๆ แต่กลับมีอานุภาพเหมือนหนึ่งคนเฝ้าด่าน หมื่นทหารมิอาจย่างกราย
ยามสิ้นเสียง ณ ที่นั้นเงียบสงัด
คนใหญ่คนโตพวกนั้นสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ส่วนผู้สืบทอดรุ่นเยาว์เหล่านั้นก็ตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนานแล้ว ลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก
“หากให้เจ้ากระทำการชั่วร้ายถึงหน้าประตูจวนกระบี่หมอกตะวันรอนของข้า ถ้าแพร่งพรายออกไปจวนกระบี่หมอกตะวันรอนของข้าจะยืนหยัดในแคว้นสันติได้อย่างไร”
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนน่าเกรงขามคนหนึ่งกล่าวเสียงขรึม
ชิ้ง!
ตรงหว่างคิ้วของเขามีกระบี่บินเขียวเลื่อมพรายสายหนึ่งปรากฏออกมา หมอกเมฆอบอวล แสงวิญญาณส่องประกาย
“ข้าน้อยเยวี่ยเหิงเฟิง เจ้าจวนกระบี่หมอกตะวันรอน หากเจ้าขวางหนึ่งกระบี่ของข้าได้ เรื่องนี้จวนกระบี่หมอกตะวันรอนของข้าจะยอมจำนน สองคนนี้ยกให้เจ้าจัดการ!”
ชายวัยกลางคนน่าเกรงขามเอ่ยปาก
คนอื่นต่างหน้าเปลี่ยนสี เจ้าจวนจะตัดสินแพ้ชนะด้วยกระบี่เดียวรึ!
“ฉลาด”
หลินสวินเหลือบมองเยวี่ยเหิงเฟิงเล็กน้อย รูปร่างหน้าตาเขาเพิ่งจะอายุสิบกว่าปี แต่คำพูดกลับเหมือนกำลังวิจารณ์คนรุ่นหลัง ทำเอาทุกคนพลันเดือดดาล ท่าทางนี้ไม่อวดดีเกินไปหน่อยหรือ!
ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเจ้าจวนกระบี่หมอกตะวันรอนของพวกเขา เป็นผู้ฝึกกระบี่ใหญ่ที่จัดอยู่ในอันดับสี่ของแคว้นสันติ
เยวี่ยเหิงเฟิงกลับเหมือนไม่มีโทสะ เขาสูดหายใจลึก ทั้งตัวพลันพรั่งไปด้วยเจตกระบี่ทรงพลังราวกับพลุ่งพล่าน พุ่งทะลวงท้องนภา
ห้วงอากาศใกล้เคียงส่งเสียงกระหึ่ม ผู้สืบทอดที่พลังค่อนข้างอ่อนแอพวกนั้นยิ่งจิตใจสะท้านไหว ตกใจจนเกือบทรุดยวบลงกับพื้น
เหตุการณ์นี้ทำให้หลันอิงเสวี่ยมีความหวังขึ้นเสี้ยวหนึ่ง เยวี่ยเหิงเฟิงเป็นอาจารย์ของนาง ทั้งเป็นผู้ฝึกกระบี่ระดับกระบวนแปรจุติขั้นสัมบูรณ์คนหนึ่ง!
กระบี่นี้ของเขา ในใต้หล้านี้คนที่สามารถรับมือมีจำนวนแค่นับนิ้วได้!
“ทะยาน!”
กระบี่บินตรงหน้าเยวี่ยเหิงเฟิงพุ่งขึ้นมา ตัวกระบี่มีคลื่นปราณกระบี่ที่น่าหวาดกลัวไหลวน น่าเกรงขามดั่งเทพมังกร สะเทือนลมเมฆทั่วทิศ
กระบี่นี้ทำให้ทุกคนในจวนกระบี่หมอกตะวันรอนต่างรู้สึกสั่นสะท้านและตกตะลึง เพิ่งพบว่าความเชี่ยวชาญในมรรคกระบี่ของเจ้าจวน ลึกล้ำยากหยั่งถึงยิ่งกว่าเดิมแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์