Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2189

ตอนที่ 2189 เหนือยอดมกุฎข้าคือจักรพรรดิ

สายน้ำแห่งกาลเวลาซัดสาด เจ้าแห่งคีรีดวงกมลยืนตระหง่านอยู่เหนือห้วงอากาศนั้น เกลียวคลื่นโหมซัดไม่สามารถสั่นคลอนเงาร่างกำยำของเขาได้สักเสี้ยว

เจดีย์ไร้สิ้นสุดเวลานี้แผ่กลิ่นอายที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ตัวเจดีย์เก้าชั้นดุจดั่งสร้างจากทองเทพกระจกแก้ว เจือกลิ่นอายที่ประหนึ่งจักรวาลแรกเริ่ม!

สามพันเคลื่อนคล้อยที่เสียหายร้ายแรงเจือละอองแสงขาวหิมะดั่งภาพฝันมายา พาดอยู่บนแขนซ้ายของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลอย่างสงบนิ่ง

ใต้เท้า ภาพเสี้ยวจันทร์สามดาราดุจดั่งเบาะรองนั่งเมฆมงคล ละอองแสงดั่งลอยกระเซ็น

มองจากไกลๆ เจ้าแห่งคีรีดวงกมลก็เหมือนอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า สูงเกินเอื้อมและรางเลือนปานนั้น ทำให้ผู้คนได้แต่แหงนมอง

‘ตอนนั้นทำให้พวกเจ้าต้องมารับเคราะห์ไปกับข้าด้วย แต่ยังดี ขอแค่เรื่องในวันนี้สำเร็จ สิ่งที่จ่ายไปทั้งหมดล้วนคุ้มค่าแล้ว…’

นิ้วมือของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลลูบสามพันเคลื่อนคล้อย สายตาเจือแววทอดถอนใจเสี้ยวหนึ่ง

ยุคแรกเริ่มดึกดำบรรพ์ เพื่อจะอนุมานแดนปรินิพพาน โลกที่วิวัฒน์ขึ้นจากพลังต้นกำเนิดฟ้าดารานี้ เขาเคยจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล

ไม่มีใครรู้ และในตอนนั้นก็ทำให้เจดีย์ไร้สิ้นสุด สามพันเคลื่อนคล้อยต่างได้รับความเสียหายไปด้วย

‘ฮ่า เจ้าหนูนี่หลายปีมานี้รวบรวมสมบัติชั้นดีได้ไม่น้อยทีเดียว’

ไม่นานเจ้าแห่งคีรีดวงกมลก็สังเกตเห็นว่าภายในเจดีย์ไร้สิ้นสุดมีกองเจตวัตถุ สมบัติ ของล้ำค่า โอสถสมบัติมากมาย

ขนาดศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนยังสะสมได้ไม่น้อย

‘ธนูวิญญาณไร้แก่นสาร… ถึงกับเกี่ยวโยงกับเคราะห์กรรมครั้งนี้ เอาเถอะ ให้เขาไปจัดการเอง’

นัยน์ตาของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลลุ่มลึกดุจฟ้าดารา ในนั้นมีภาพทิวทัศน์ทั่วหล้าแปรเปลี่ยน และมีความเรืองรองแห่งการหมุนเวียนสับเปลี่ยนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

‘ดาบหักเล่มนี้น่าสนใจ คล้ายไม่ใช่ของโลกนี้ เพียงแต่พลังเสียหายสาหัสเกินไป คิดอยากซ่อมแซมก็พอๆ กับการปะซ่อมฟ้า’

‘ชิ้นส่วนเศษเสี้ยวของเตามารดาหลอมสมบัติ มิน่าถึงสามารถรวบรวมศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนได้มากมายขนาดนี้ หากสันนิษฐานเช่นนี้ เป็นไปได้มากว่าภายหน้าเจ้าหนุ่มนี่อาจจะเข้าสู่คุนหลุนอีกครั้ง…’

‘ก้อนทองแดงนี้ประทับ ‘ภาพนักพรตขี่วัว’ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่นักพรตเฒ่าคนนั้นที่เคยมุ่งหน้าไปเสาะหา ‘แหล่งสถานอัศจรรย์’ เหลือทิ้งไว้’

พร้อมๆ กับความคิดของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลที่สอดส่องทีละส่วน อู้เชวียที่จำศีลอยู่ในธนูวิญญาณไร้แก่นสาร วิญญาณอาวุธที่จำศีลอยู่ในดาบหักล้วนจิตใจสั่นสะเทือน พวกเขาที่หลับใหลภายในนั้นรู้สึกถึงกลิ่นอายน่าสะพรึงที่ไม่อาจต้านทานได้วูบหนึ่ง

เคราะห์ดีที่กลิ่นอายสายนี้ไม่มีไอสังหาร หาไม่ จากพลังของพวกเขาในตอนนี้ก็ไม่สามารถต้านทานได้สักนิด!

‘มาแล้ว’

นัยน์ตาของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลวาบประกายเร้นลับวับเสี้ยวหนึ่ง

ตูม!

ส่วนลึกของฟ้าดาราเหมือนซัดจม พังครืนออกเป็นหุบเหวห้วงอากาศลึก พลังกฎเกณฑ์ดุเดือดปะทุดังสนั่น แผ่อานุภาพไร้เทียมทานออกมา

จากนั้นเงาร่างสายหนึ่งเดินออกมาจากหุบเหวห้วงอากาศนั้น ตัวตรงแน่วซูบผอม…

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

พร้อมๆ กับที่เงาร่างสายนี้ปรากฏ ฟ้าดาราแถบนี้พลันปั่นป่วน เหมือนจวนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พลังมหามรรคพังทลาย จมสู่ความโกลาหลอลหม่าน

เวลานี้เหมือนมีเทพจากต่างมิติมาเยือนที่แห่งนี้ ลำพังแค่กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาก็ทำให้ฟ้าดาราแถบนี้ประหนึ่งไม่อาจแบกรับไหว!

กำแพงเมืองหมื่นมรรคที่ทอดยาวประหนึ่งไร้สิ้นสุดนั้น เวลานี้ยังเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง ผนังกำแพงที่เก่าแก่เป็นรอยด่างพร้อยนั่นปรากฏรอยแตกราวใยแมงมุม ป้อมปราการแต่ละแห่งสั่นโคลง คล้ายจวนจะถล่มครืน

ระดับจักรพรรดิที่ซ่อนตัวอยู่ในนั้นตกใจจนวิญญาณแทบกระเด็นออกมา รีบเผ่นหนีไปไกลกว่าเดิมทันที

นั่นคือทิศทางของแดนปรินิพพาน ตอนแรกพวกเขาก็ถูกเคลื่อนย้ายจากบนแผ่นดินกว้างรกร้างแถบนั้น มายังบนกำแพงเมืองหมื่นมรรคของฟ้าดาราที่พาดขวางนี้

หลังจากกำแพงเมืองหมื่นมรรคสูญเสียพลังระเบียบ ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสกลับออกไปแล้ว!

ไม่มีใครกล้ารั้งอยู่อีก ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้น่ากลัวเกินไป โจมตีการรับรู้เสี้ยวสุดท้ายในใจพวกเขา ขืนยังกล้าอยู่ต่อจะต้องประสบหายนะเป็นแน่

ตึง!

ส่วนลึกของฟ้าดารา เงาร่างสายนั้นเดินออกมา ทุกๆ ย่างก้าวห้วงอากาศใกล้เคียงพังถล่มเป็นแถบ กฎเกณฑ์มหามรรคก็แตกสลาย

เขาเงาร่างซูบผอม ตัวตรงแน่ว ปกคลุมด้วยแสงอมตะเจิดจ้าพร่างพราว กลายเป็นวงแสงดวงแล้ววงเล่าส่องสว่างทิวทัศน์ทั่วหล้า

แต่เมื่อมองอย่างถี่ถ้วน เขากลับมีหน้าตาคล้ายเด็กหนุ่ม คิ้วตาเกลี้ยงเกลา สวมอาภรณ์สีเข้ม ผมยาวปล่ยสยายลวกๆ น้ำเต้าสุราใบหนึ่งถูกเชือกแดงผูกห้อยไว้ตรงเอว

มีเพียงยามที่นัยน์ตาไหวเคลื่อนถึงแผ่กลิ่นอายแห่งกาลเวลาเนิ่นนานออกมา

“เฮ้อ ระเบียบโลกนี้เปราะบางเกินไป เหมือนแผ่นกระเบื้องที่แตกหักง่ายไม่มีผิด หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้จำเป็นต้องมา ข้าคงไม่ยอมมาตลอดชีวิต”

เงาร่างที่มีลักษณะเป็นเด็กหนุ่มส่ายหน้าถอนหายใจยาว เขาเดินอย่างระมัดระวังดุจเหยียบย่างบนน้ำแข็งเปราะบาง คล้ายกลัวเหลือเกินว่าหากไม่ระวังจะเหยียบฟ้าดาราไพศาลผืนนี้แตกกระจาย

“เจ้ามาช้าไปแล้ว”

เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเอ่ยปากเนิบนาบ นัยน์ตามีแสงเร้นลับไหลเวียน

เด็กหนุ่มอึ้งไป เงยหน้าขึ้นมองใต้เมฆาเคราะห์นั้น

และตอนที่สายตาของเด็กหนุ่มมองเข้าไป เจ้าแห่งคีรีดวงกมลโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

ครืน!

กลางห้วงอากาศบังเกิดแรงกระแทกน่าสะพรึง แสงศักดิ์สิทธิ์ระเบิดประกาย

เด็กหนุ่มหยุดฝีเท้า ยิ้มขื่นกล่าวว่า “มองแค่แวบเดียวก็ไม่ได้หรือ”

เจ้าแห่งคีรีดวงกมลกล่าว “มองดูแบบทั่วไปย่อมไม่มีอะไรไม่ได้ แต่แววตาของเจ้า… ฆ่าคนตายได้เลย”

เด็กหนุ่มหน้าขรึมลง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะหลับตาดู”

ดังคาด เขาหลับตาลงจริงๆ

ตูม!

เจ้าแห่งคีรีดวงกมลไม่ได้ขยับ สามพันเคลื่อนคล้อยกลับพุ่งโฉบออกไป ตวัดแสงไหลเวียนสีขาวหิมะเวิ้งว้างขึ้นแถบหนึ่ง กลายเป็นภาพมรรคที่กว้างขวางหาใดเปรียบสายหนึ่งโคจรอยู่กลางห้วงอากาศ ฟ้าดาราแถบนี้เสมือนถูกชักนำ บังเกิดการบิดเบี้ยวและสั่นสะท้าน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์