Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2203

สรุปบท ตอนที่ 2203 สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทาน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2203 สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทาน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2203 สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทาน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2203 สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทาน

ความคิดแรกของหลินสวินก็คือ ครั้งนี้เหยี่ยนซิงนี่มุ่งหน้าไปแดนเจินหลง ต้องซ่อนแผนชั่วร้ายไว้แน่!

ต่างจากจักรพรรดิสวรรค์ดำรง เหยี่ยนซิงนี่มาถึงทางเดินโบราณฟ้าดารานานแล้ว ทั้งหมดเพื่อตามล่าลั่วชิงสวินมารดาของเขาและลู่ป๋อหยา

การตามล่านี้ยืดเยื้อมาหลายปี

เปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงยอมแพ้ไปแล้ว แต่เหยี่ยนซิงนี่กลับยึดติดจนน่ากลัว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยเลิกรา

เมื่อรู้ว่าตนเป็นทายาทของลั่วชิงสวิน เหยี่ยนซิงก็เลือกลงมือกับตนโดยไม่ลังเล หากไม่ได้ซีขวางนางไว้ ผลลัพธ์ต้องไม่อาจคาดเดาได้แน่

“ศิษย์พี่ ข้อมูลนี้เป็นความจริงหรือ”

หลินสวินขมวดคิ้วถาม

“เป็นข่าวที่บรรพจารย์จักรพรรดิฉานถูส่งมา เจ้าเฒ่านี่แม้จะบ่นจุกจิกไปบ้าง แต่คงไม่กล้านำเรื่องนี้มาล้อเล่น”

จ้งชิวกล่าว “ศิษย์น้อง ข้าสงสัยว่าเหยี่ยนซิงนี่จะมุ่งหน้าไปแดนเจินหลงเพื่อ ‘โลหิตสมบัติบรรพชนมังกร’ เลือดนี้เป็นสมบัติชั้นสูงของเผ่าเจินหลง หากให้เหยี่ยนซิงได้ไป ย่อมสามารถทำให้เสี้ยววิญญาณของจอมจักรพรรดิไร้นามคนนั้นฟื้นคืนกลับมาในเวลาอันสั้น”

โลหิตสมบัติบรรพชนมังกร!

นัยน์ตาดำของหลินสวินไหววูบ “ศิษย์พี่ ข้ายังสงสัยอีกเรื่อง จุดประสงค์ที่ผู้หญิงคนนี้มุ่งหน้าไปแดนเจินหลง เกรงว่าคงไม่ง่ายดายเช่นนั้น”

เขาพูดถึงตรงนี้แล้วตัดสินใจ “ดังนั้นข้าจึงอยากไปดูด้วยตัวเอง”

“เป็นเรื่องที่ข้าอยากคุยกับเจ้าพอดี”

จ้งชิวกล่าว “จักรพรรดิสวรรค์ดำรงยกให้ข้าจัดการ ส่วนภารกิจของเจ้าก็คือฆ่าเหยี่ยนซิงคนนี้ ต่อให้ไม่อาจฆ่านางให้ตายได้ ก็ต้องกำจัดเสี้ยววิญญาณนั้นของจอมจักรพรรดิไร้นามให้สิ้นซากเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม”

หลินสวินรับคำอย่างยินดี

เขาอยากไปเยือนแดนเจินหลงอยู่ก่อนแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เจอจ้าวจิ่งเซวียนมาหลายปีแล้ว…

“เจินหลงเหมือนหงส์เซียน เต่าดำและเสือขาว เป็นสี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทานที่เกิดจากไอแรกกำเนิดในช่วงต้นดึกดำบรรพ์ ถูกมองเป็นยอดสรรพวิญญาณ”

จ้งชิวกล่าวเสียงขรึม “แต่ช่วงต้นดึกดำบรรพ์ สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทานนี้ต่างย้ายไปจากทางเดินโบราณฟ้าดารา”

“หลายปีมานี้คนทั่วไปรู้เพียงว่ามีแดนเจินหลง มีรังหงส์เซียน มีทวีปเต่าดำ มีภูเขาเทพเสือขาว แต่กลับมีน้อยคนนักที่รู้ตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขาอย่างเป็นรูปธรรม”

“หากเจ้าจะไปแดนเจินหลง สามารถไปสืบข่าวที่ตระกูลเสวียนได้ ตระกูลเสวียนเป็นเผ่าจักรพรรดิเก่าแก่ ในช่วงต้นดึกดำบรรพ์ก็ถือครองมหาสมบัติแรกกำเนิด ‘คันฉ่องสมบัติเร้นเทพ’ ซ้ำบรรพบุรุษยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับแดนเจินหลงด้วย”

“หากมีตระกูลเสวียนช่วยเหลือ ย่อมทำให้เจ้าหาทางเข้าแดนเจินหลงได้แน่”

จ้งชิวพูดพลางหยิบจดหมายปิดผนึกฉบับหนึ่งออกมา “ศิษย์น้องเจ้านำจดหมายนี้ไปหาเสวียนซั่งเฉินผู้นำตระกูลเสวียน เจ้าเฒ่านี่เป็นหนี้บุญคุณข้าครั้งหนึ่ง ถึงเวลาทวงคืนแล้ว”

ตระกูลเสวียน!

เสวียนซั่งเฉิน!

นัยน์ตาหลินสวินพลันเจือแววประหลาด เขาไม่เคยลืมว่าวันแรกที่เข้าไปในแดนปรินิพพาน เสวียนจิ่วอิ้นก็เคยกล่าวเชิญ บอกว่าบิดาของเขาเชิญตนไปเป็นแขกที่ตระกูลเสวียน

หลินสวินเก็บจดหมายลงไป ยามนี้เพิ่งนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เอ่ยว่า “ศิษย์พี่ ท่านจะไปจัดการจักรพรรดิสวรรค์ดำรงหรือ”

จ้งชิวกล่าว “แดนปรินิพพานปิดฉากแล้ว ข้าควบคุมดูแลอยู่ที่นี่มาหลายปี นับว่าได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ แน่นอนว่าไม่มีทางรั้งอยู่ที่นี่อีก แต่หากจะไปฟากฝั่งฟ้าดาราก็ต้องฆ่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงนั่นก่อน”

น้ำเสียงดูสบายและราบเรียบ

“ศิษย์พี่ ท่านมั่นใจหรือ” หลินสวินออกจะกังวลอย่างอดไม่ได้ จักรพรรดิสวรรค์ดำรงเป็นถึงตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าจอมจักรพรรดิไร้นาม

จ้งชิวขยิบตาพลางกล่าว “ศิษย์น้อง ศิษย์พี่ใหญ่ยังให้เจ้าช่วย เจ้าก็ช่วยข้าสักครั้งจะเป็นไร”

หลินสวินยิ้มขื่นกล่าว “ศิษย์พี่ เขาปู้โจวถูกพวกศิษย์พี่รั่วซู่นำไปแล้ว ท่านคิดว่าข้ายังช่วยอะไรได้อีกหรือ”

จ้งชิวยิ้มกล่าว “ศิษย์น้องอย่าดูถูกตัวเองเกินไป ข้ารอมานานเพียงนี้ นอกจากเป็นพยานยามเจ้ากลายเป็นหนึ่งบัวเบ่งบานนั่นแล้ว ยังรอจุดเปลี่ยนหนึ่งด้วย และปัจจุบันจุดเปลี่ยนนี้ก็อยู่ในมือเจ้า”

นัยน์ตาหลินสวินไหววูบ “พลังระเบียบของแดนปรินิพพาน?”

จ้งชิวพยักหน้า “พลังระเบียบของแดนปรินิพพานก็คือระเบียบต้นกำเนิดของทางเดินโบราณฟ้าดารา สามารถต้านและต่อกรกับพลังระเบียบต้องห้ามที่มาจากอีกฟากฝั่งนั้นได้”

“ขอแค่ทำได้ถึงขั้นนี้ อาศัยเพียงพลังต่อสู้ เจ้าเฒ่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงนี่จะเอาอะไรมาสู้ข้าได้”

พูดถึงตอนท้าย น้ำเสียงเจือความหยามเหยียด

กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว สิ่งที่คุกคามเขาอย่างแท้จริงก็คือพลังระเบียบต้องห้าม ส่วนมรรควิถีของจักรพรรดิสวรรค์ดำรงจะแข็งแกร่งเท่าไรนั้น จ้งชิวไม่เห็นอยู่ในสายตาจริงๆ

วู้ม…

หลินสวินพลิกฝ่ามือ ลวดลาย ‘ดอกบัวนิพพาน’ ปรากฏออกมา คลื่นกฎระเบียบลึกลับเวียนวน

นัยน์ตาจ้งชิววาบประกาย จ้องมองลวดลายนี้พลางกล่าวทอดถอนใจ “พลังระเบียบต้นกำเนิดที่เฝ้ารอมานานกว่าจะปรากฏ ช่างเหนือธรรมดา”

“ศิษย์พี่โปรดรับไว้”

หลินสวินส่งมอบลายดอกบัวนิพพานให้โดยไม่ลังเล

จ้งชิวสีหน้าจริงจัง เรียกกระถางสมบัติหนึ่งออกมาเก็บลายดอกบัวนิพพานนี้ลงไป จากนั้นสองมือก็ทำมุทรา ผนึกกระถางสมบัตินับร้อยพันครั้ง ถึงค่อยผ่อนลมหายใจราวยกภูเขาออกจากอก

“พลังระเบียบฟ้าดารานี้แข็งแกร่งหาใดเปรียบ ด้วยพลังของข้า คงต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งจึงจะควบคุมได้”

จ้งชิวกล่าวอย่างใคร่ครวญ “ตั้งแต่วันนี้ไปข้าจะปิดด่านเก็บตัวช่วงหนึ่ง อย่างน้อยสามถึงห้าปี อย่างมากสิบปีขึ้นไป ในช่วงเวลานี้ศิษย์น้องต้องรักษาตัวด้วย”

แต่จ้งชิวกลับรู้ดีว่ารากฐานและพรสวรรค์ของชิงอิงนั้นชวนตะลึง เรียกว่าพบเห็นได้ยากในหมื่นกาล ไม่ด้อยไปกว่าศิษย์น้องเล็กที่อยู่ข้างกายแน่นอน

น่าเสียดาย นางไม่มีใจอยากฝึกปราณ นั่งบัญชาที่แดนอำพรางมาตลอด ใจคิดแค่อยากดูแลเรือนเร้นหมอกให้ดี จะได้ไม่ทรยศบุญคุณของจักรพรรดิกระบวนลู่

ไม่อย่างนั้นด้วยพรสวรรค์ของนาง คงบรรลุจักรพรรดิไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว!

ใช่ บรรลุจักรพรรดิ!

นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้จ้งชิวตกตะลึง ไม่รู้ว่าจักรพรรดิกระบวนลู่ไปหาทารกหญิงที่เหมือนปีศาจคนนี้มาจากไหนจริงๆ

เดิมชิงอิงคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นหลินสวิน สุดท้ายก็พยักหน้า

หลินสวินเป็นคนที่จักรพรรดิกระบวนลู่เลี้ยงมาจนโตกับมือ ในใจนางก็เหมือนน้องชายของตน หากไม่มีพลังที่เพียงพอ ภายหน้า… คงยากจะช่วยเขาได้จริงๆ…

หลินสวินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน ยามชิงอิงปฏิบัติกับตน จะมีความสนิทชิดเชื้อและความปรารถนาดีที่ไม่ธรรมดา เหมือนลมวสันต์ผันแปรเป็นหยาดฝน แต่กลับหยุดลงกะทันหัน

“แม่นางชิงอิง รักษาตัวด้วย” เขายิ้มพลางประสานมือ

ชิงอิงขานรับว่าอืมพลางกล่าว “คุณชาย หากมีโอกาสได้เจอจักรพรรดิกระบวนลู่ โปรดทักทายเขาแทนข้าด้วย”

หลินสวินพยักหน้ารับปาก

วันนี้จ้งชิวเปิดค่ายกลเคลื่อนผ่านฟ้าดารา ส่งพวกหลินสวิน ซย่าจื้อ ต้าหวงจากไป

วันนี้เป็นวันที่สิบสองหลังจากแดนปรินิพพานปิดฉาก ข่าวที่หลินสวินบรรลุมกุฎจักรพรรดิ สังหารระดับจักรพรรดิมากมาย ยังอื้อฉาวและแพร่กระจายอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา

ตูม!

ดาวเคลื่อนดาราคล้อย ในอุโมงค์อากาศเส้นหนึ่ง ละอองแสงแห่งกาลเวลาชวนประหวั่นม้วนซัด ส่งเสียงกัมปนาทราวกับฟ้าคำราม

หลินสวินและซย่าจื้อเดินเคียงกันในนั้น ต้าหวงอยู่ข้างๆ มุ่งหน้าไปตามทางอุโมงค์ข้างหน้าพร้อมกัน ภาพที่เห็นเบื้องหน้าเต็มไปด้วยแสงบิดเบี้ยวและพร่างพราย งามตระการหาใดเปรียบ

นี่คืออุโมงค์ที่มุ่งหน้าจากโลกมืดไปทางเดินโบราณฟ้าดารา สถานที่ซึ่งเชื่อมต่อคือโลกใหญ่แดนธรรมในเขตแดนดาราราชันแสง

จากคำพูดของจ้งชิว หลังจากเข้าไปในโลกใหญ่แดนธรรมแล้ว สามารถก้าวผ่านฟ้าดาราไปถึง ‘ยอดเขาเร้นเทพ’ ที่ตระกูลเสวียนตั้งอยู่ได้ในเวลาอันสั้น!

ยอดเขาเร้นเทพ โลกลึกลับที่แทบไม่มีคนรู้จัก เทียบได้กับโลกใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นถิ่นกำเนิดของเผ่าจักรพรรดิเก่าแก่อย่างตระกูลเสวียน ถูกยึดครองโดยตระกูลเสวียนมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

หากไม่มีคำชี้แนะ คงไม่มีใครหาทางเข้าไปในนั้นเจอ เท่านี้ก็เห็นถึงความลึกลับของตระกูลเสวียนแล้ว

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์