Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2208

สรุปบท ตอนที่ 2208 หน้าเขาประกายฟ้า นองเลือดดุจภาพวาด: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2208 หน้าเขาประกายฟ้า นองเลือดดุจภาพวาด จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2208 หน้าเขาประกายฟ้า นองเลือดดุจภาพวาด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2208 หน้าเขาประกายฟ้า นองเลือดดุจภาพวาด

ตูม!

ซย่าจื้อบุกโจมตีก่อน เรียบง่ายตรงไปตรงมา ราวกับแสงเงามืดแห่งราตรีนิรันดร์ ทวนขาวกระจ่างดุจหิมะโจมตีทั่วลาน

อานุภาพของนางไม่ถึงขั้นชวนตะลึง แต่กลับมีพลังทำลายล้าง เคลื่อนไหวว่องไวดุดัน เพียงพริบตาก็เข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิหลายคนอย่างดุเดือด

ขณะเดียวกันหลินสวินก็เปิดฉากจู่โจม

ฟุ่บ!

ดาบหักพุ่งออกไป ก่อให้เกิดแสงศักดิ์สิทธิ์ไร้ใดเปรียบดั่งธารดารา เมื่อโจมตีก็ซัดจนสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่งซวนเซถอยร่น

“เร็วเข้า ลงมือกำราบเจ้าหมอนี่พร้อมกัน!” สัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้แผดเสียงคำราม

ทันใดนั้นก็มีระดับจักรพรรดิเจ็ดแปดคนพุ่งเข้ามา แต่ละคนไอสังหารล้นฟ้า กลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั้งร่างหมายบดทลายท้องฟ้าแถบนี้

เงาร่างหลินสวินพริบไหว กายมรรคทั้งห้าทะยานออกมา ต่างคนต่างครอบครองประทับไร้ชีพ ดาบไร้วิชา ธงไร้ระเบียบ น้ำเต้าต้นกำเนิด ภาพหมื่นลักษณ์ฟ้าดารา

ภายในนั้นน้ำเต้าต้นกำเนิดและภาพหมื่นลักษณ์ฟ้าดาราเป็นสิ่งที่ชิงมาจากมือบุตรนรก เรียกได้ว่าเป็นสมบัติเก่าแก่อัศจรรย์ในหมู่ศาสตราจักรพรรดิ อานุภาพยิ่งใหญ่ถึงที่สุด

ยามร่างต้นของหลินสวินควบคุมดาบหัก ก็ใช้เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเคลื่อนกวาดทั่วทิศด้วย

หากไม่ใช่คนที่สู้กับหลินสวิน ต้องไม่กล้าจินตนาการแน่ว่าเหตุการณ์นี้น่ากลัวระดับใด!

มกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง ร่วมด้วยกายมรรคทั้งห้า ทั้งยังครอบครองศาสตราจักรพรรดิน่าพรั่นพรึงที่คาดไม่ถึงนานัปการ เคลื่อนกวาดทั่วทิศ เพียงชั่วขณะก็เห็นแสงสมบัติดุจกระแสน้ำ เสียงมรรคราวอสนีบาต เข้าปกคลุมพื้นที่แถบนั้นจนสิ้น

ตึง!

ระฆังสำริดสีเขียวที่ตัดสลับด้วยกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิใบหนึ่งถูกประทับไร้ชีพซัดกระเด็น สั่นสะเทือนปั่นป่วน พื้นผิวของระฆังสำริดล้วนแตกระแหงเป็นลายเส้นมากมาย

คนที่ควบคุมระฆังสำริดสีเขียวนั้นคือสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาเหมือนชายหนุ่ม แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เมื่อถูกโจมตีก็คิดถอยหลบโดยไม่ลังเล

แต่จังหวะนั้นเอง กายมรรคเพลิงแดงใช้ดาบไร้วิชาพุ่งสังหารเข้ามา ทำให้เขาไม่อาจหนีพ้น ได้แต่ฝืนเข้าปะทะ เบื้องหน้าปรากฏวงแสงที่เหมือนตะวันสีเขียวดวงหนึ่ง

ฉัวะ!

กลับเห็นแสงดาบพุ่งวาบ วงแสงสีเขียวนั้นเหมือนอากาศว่างเปล่า ถูกดาบไร้วิชามองข้ามอย่างสิ้นเชิง ส่วนสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนนี้ก็ถูกปราณดาบตัดหัวในพริบตา!

ซ่า… เลือดสีสดสาดพรม ร่างกายและศีรษะของเขาล้วนกลายเป็นจุณทันที ฝังกลบอยู่ในปราณดาบที่โหมกระหน่ำราวกระแสน้ำหลาก

สังหารระดับจักรพรรดิขั้นห้าในชั่วดีดนิ้ว!

ภาพนี้ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งพวกนั้นตาแทบถลน ทั้งเดือดดาลและโกรธจัด แต่ละคนเหมือนคลุ้มคลั่งไปแล้วจริงๆ

แต่นี่ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด เวลานั้นในการต่อสู้อีกฝั่ง ทวนของซย่าจื้อรุกเข้าไปเหมือนผ่าลำไผ่ บดขยี้เกราะป้องกันทั้งตัวของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่ง ทะลวงร่างของคนผู้นี้อย่างแข็งกร้าว ระเบิดกระจุยกระจายกลางอากาศ!

ห่างออกไป เมื่อเห็นภาพนองเลือดต่างๆ เห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลข่งระดับจักรพรรดิขั้นสี่และขั้นห้าถูกหลินสวินและซย่าจื้อสังหาร ทุกคนล้วนตกใจจนหนาวสั่นไปทั้งตัว สะท้านไปทั้งร่าง

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

คำพูดใดล้วนไม่อาจบรรยายการเข่นฆ่าที่เรียกว่าไร้เทียมทานนั้นได้ ระดับจักรพรรดิสูงส่งและโดดเด่นเพียงใด เหยียดหยันทั่วหล้า เด่นผงาดเกินใคร

แต่เวลานี้กลับร่วงหล่นดุจสายฝน

เริ่มจากพวกจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ย จักรพรรดิสงครามเซวี่ยสิงถูกสังหารไปก่อน และตอนนี้ระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่งกับระดับจักรพรรดิขั้นห้าอีกคนก็ถูกฆ่า

นี่น่าหวาดกลัวเกินไปโดยไม่ต้องสงสัย!

ถึงอย่างไรในยามปกติ ใครเคยเห็นภาพจักรพรรดิสิ้นชีพบ้าง

ในรอบพันหมื่นปีเกรงว่าคงไม่ได้เห็นสักครั้ง แต่หน้าเขาประกายฟ้าของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งนี้ กลับเปิดฉากนองเลือดที่จักรพรรดิร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง!

ฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน คลื่นผนึกของเขาประกายฟ้าที่อยู่ห่างไปม้วนซัด ส่งผลให้คลื่นพลังที่หลงเหลือจากการต่อสู้น่าหวาดกลัวนั้นสลายไป

แต่ในสถานที่อื่น ทุกหนแห่งล้วนเป็นภาพทำลายล้างที่ฟ้าถล่มดินทลาย สรรพสิ่งกลายเป็นจุณ ห้วงอากาศปั่นป่วน

ผู้ฝึกปราณที่อยู่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิบางคนมองไม่เห็นสถานการณ์ชัดเจนนานแล้ว หรือกล่าวได้ว่าถูกทำให้หวั่นหวาด ตกใจจนตัวสั่นงันงกและเข่าอ่อนไปแล้ว

หากไม่ได้หลบลี้ไปไกลห่าง ผลที่ตามมานั้นต้องร้ายแรงจนไม่อาจจินตนาการแน่

“โฮก…”

บนเวิ้งฟ้ามีเสียงคำรามดั่งพายุอัสนีระลอกหนึ่งดังขึ้น ประหนึ่งพยัคฆ์คำรนมังกรคำราม สะท้อนก้องเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน สะเทือนจนหัวแทบแตก ใกล้จะระเบิดออกมา

พลันเห็นต้าหวงพุ่งขึ้นไปบนเวิ้งฟ้า ขนผิวทั้งตัวแผ่แสงมรรคนับหมื่นแสนออกมา ราวกับราชันในหมู่สัตว์ เท้าทั้งสี่เหยียบย่ำห้วงอากาศจนปริแตก ดุดันหาใดเปรียบ

เมื่อมันพุ่งเข้าไป บนเวิ้งฟ้าปรากฏภาพน่าหวาดกลัวอย่างตะวันเคลื่อนจันทราคล้อย ทั่วหล้าแหวกแยก แสงมรรคไร้ใดเปรียบเข้าปกคลุมพื้นที่นั้นอย่างสมบูรณ์

ผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดสองคนกับผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิขั้นแปดหนึ่งคนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง มีอานุภาพน่าหวาดกลัวระดับใด เพียงโจมตีง่ายๆ ก็ปั่นป่วนจักรวาล แบ่งแยกหยินหยางได้แล้ว

แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกต้าหวงกำราบอยู่หมัด!

นี่ทำให้พวกเขาตกใจ ล้วนไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้มีหมาขนทองที่เหี้ยมโหดน่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร ช่างเย้ยฟ้าจริงๆ

“หากไม่ใช่ว่าอยากตุ๋นพวกเจ้าในสภาพสมบูรณ์ไม่สึกหรอ ข้าคงฆ่าพวกเจ้าไปนานแล้ว!” เสียงของต้าหวงดังก้องขึ้นมา เจือความเหยียดหยันและดูถูก

มันมีความมาดมั่นเหมือนข้าเป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว เหยียดหยันเหล่าผู้กล้าในใต้หล้า ท่าทางอหังการ จองหอง หลงระเริงนั้นอยู่บนตัวสุนัขตัวหนึ่ง กลับพาให้คนรู้สึกสั่นสะท้านเป็นพิเศษ

ผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งสามคนนั้นอับอายจนกลายเป็นโกรธ ศักดิ์ศรีเหมือนถูกเหยียบย่ำ แต่ละคนไอสังหารพุ่งทะลวงเก้าชั้นฟ้าราวกับคลุ้มคลั่ง

ตูม!

การห้ำหั่นบนเวิ้งฟ้าดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแล้ว ล้วนเป็นภาพโกลาหลเหมือนแดนแรกกำเนิด อย่าว่าแต่คนทั่วไป ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิธรรมดาก็ยากจะล่วงรู้ถึงภาพการต่อสู้ในนั้นได้

ความจริงคือการต่อสู้นั้นสูงส่งและไร้เทียมทานเกินไป!

ขณะเดียวกันซย่าจื้อกำลังห้ำหั่นกับสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าสองคนและระดับจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่ง แม้จะถูกปิดล้อมแต่กลับไม่เคยถูกกำราบ

ทวนของนางหวดโจมตีทั่วลาน รอบกายอบอวลด้วยละอองแสงกฎเกณฑ์ที่มืดมิดเหมือนราตรีนิรันดร์ ทุกการเคลื่อนไหวเรียบง่ายธรรมดา แต่กลับมีอานุภาพสังหารไร้เทียมทาน ทำให้ห้วงอากาศสั่นสะเทือนครวญคร่ำ

อีกด้านหนึ่งหลินสวินก็ถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าถึงแปดคนล้อมโจมตี!

นัยน์ตาดำหลินสวินล้ำลึก เอ่ยปากราบเรียบ จากนั้นก็ก้าวไปกลางอากาศ ร่างต้นและร่างแยกทั้งห้าลงมือพร้อมกัน มีอานุภาพซัดกวาดบดขยี้ ราวกับเหล็กหมาดปลายแหลมที่เฉียบคมหาใดเปรียบ

สัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลข่งอีกเจ็ดคนล้วนหวาดหวั่นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังคงต้านทานอยู่

นี่คืออาณาเขตของพวกเขาเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง เป็นสถานที่ดำรงเผ่าพันธุ์ของพวกเขา พวกเขาไม่อาจไม่สู้สุดชีวิต

“มรรคกระบี่จริงแท้ทั่วทิศ”

“ค้อนวาโยอสนี!”

“ประทับห้วงอากาศสองลักษณ์!”

อภินิหาร วิชามรรค ศาสตราจักรพรรดิมากมายซัดใส่หลินสวินจากทั่วทิศ แต่หลินสวินไม่ได้ใช้แรงกำลังต้านทาน เขาเบี่ยงตัวหลบ ร่างต้นและร่างแยกทั้งห้าบ้างรวมตัวกันสู้ บ้างแยกกันไปเพื่อกระจายกำลังของศัตรู ประเดี๋ยวผลุบประเดี๋ยวโผล่ ปรวนแปรเกินคาดเดา

ในการห้ำหั่นที่ดังกระหึ่มเป็นระลอก ร่างต้นของเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่ง นี่คือหญิงที่งามสง่า หน้าตางดงามและเยียบเย็นคนหนึ่ง

เมื่อสังเกตเห็นการปรากฏตัวของหลินสวิน นางไม่อาจควบคุมศาสตราจักรพรรดิที่เพิ่งถูกเรียกออกไปได้ทัน สองมือทำมุทรา ควบรวมประทับกฎเกณฑ์สีชาดหนึ่งออกมาแล้วซัดใส่หลินสวินทันที

คัมภีร์ยอดมรรคจักรพรรดิ ประทับตะวันแดงผลาญโลก!

“คนที่สาม”

หลินสวินไม่ใส่ใจสักนิด ไม่หลบหลีก ใช้หมัดเดียวทะลวงเข้าไป

ปึง!

ประทับกฎเกณฑ์สีชาดระเบิดออกในพริบตา พลังหมัดโหมกระหน่ำดั่งมังกรหวนคืนเหวลึก อานุภาพไม่อาจต้านทาน ชั่วพริบตาก็ทะลวงการป้องกันและสมบัติทั้งหมด บดขยี้ร่างหญิงงามคนนี้จนกลายเป็นหมอกโลหิต ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว!

ส่วนวิชาพิทักษ์กายอะไรนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าหมัดนี้ก็เหมือนทำจากกระดาษเปื่อย

เวลานี้ระดับจักรพรรดิอีกหกคนไม่ใช่แค่หวาดหวั่นแล้ว หากแต่เป็นขวัญหนีดีฝ่อราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง!

มีเพียงปะทะซึ่งหน้ากับมกุฎมหาจักรพรรดิอย่างหลินสวินโดยแท้จริง ถึงได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายน่าพรั่นพรึงและน่ากลัวระดับใด

หลินสวินทะลวงการโจมตีของพวกเขาได้อย่างสบาย สังหารจักรพรรดิเหมือนเชือดไก่ นี่หมายความว่าพลังของหลินสวินอยู่เหนือกว่าพวกเขามาก!

ต่อให้เขามีพลังปราณแค่ระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่ง แต่พลังต่อสู้ที่แท้จริงกลับบรรลุถึงขั้นน่าเหลือเชื่อในอีกระดับแล้ว

ที่น่ากลัวที่สุดคือสมบัติที่เขาครอบครองก็เรียกได้ว่าเย้ยฟ้าหาใดเปรียบ ทำให้พลังต่อสู้ทั้งตัวเขายกระดับขึ้นอีกช่วงใหญ่

ต่อให้เป็นพวกที่ไม่ต้องเกรงกลัวฟ้าดินอย่างระดับจักรพรรดิขั้นหก ยามเผชิญหน้ากับหลินสวินก็ต้องถูกโจมตีจนถึงชีวิต!

เวลานี้เมื่อเห็นต้าหวงที่แสดงอานุภาพบนเวิ้งฟ้า มองดูซย่าจื้อที่กำลังสู้กับสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิหลายคนอยู่ไม่ไกล

ทั้งมองเห็นหลินสวินที่เคลื่อนกวาดเหมือนไร้คู่ต่อกรอีกครั้ง…

แม้แต่ผู้ฝึกปราณที่มองเห็นภาพทั้งหมดนี้อยู่ไกลๆ ในใจยังเย็นวาบด้วยความหวาดกลัวอย่างอดไม่ได้

เขาประกายฟ้า จะถูกล้างบางในวันนี้หรือ

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์