ตอนที่ 2209 หอมจริงๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2209 หอมจริงๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2209 หอมจริงๆ
ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง หมาหนึ่ง กลับล้อมอยู่หน้าเขาประกายฟ้า สังหารจนมืดฟ้ามัวดิน เลือดหลั่งรินเป็นกระแสน้ำ!
เดิมทีนี่เป็นงานบูชาวิทยราชที่จัดขึ้นพันปีครั้งของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง รวบรวมผู้มาเยือนจากทั่วสารทิศไว้ด้วยกัน อานุภาพยิ่งใหญ่เกรียงไกร
แต่ตอนนี้กลับเป็นภาพทำลายล้างนองเลือดที่เหมือนนรก
นี่เป็นสิ่งที่ใครต่างก็คิดไม่ถึง!
ถึงอย่างไรตระกูลข่งก็เป็นเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ที่ชื่อเสียงสะเทือนฟ้าดารา ความแข็งแกร่งของรากฐานล้วนนำไปเทียบกับหกเรือนมรรคใหญ่ได้
อิทธิพลที่ตระกูลนี้ครอบครอง ล้วนทำให้ระดับจักรพรรดิพวกนั้นหวาดกลัวและกริ่งเกรงได้ ไม่กล้าล่วงเกินโดยง่าย
แต่วันนี้หลินสวิน ซย่าจื้อ รวมถึงต้าหวงกลับพุ่งสังหารเข้ามาตรงๆ ขวางหน้าประตูภูเขาของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง เปิดฉากฝนโลหิตคาววายุ!
ที่ทำให้คนคาดไม่ถึงที่สุดคือในสถานการณ์ปัจจุบัน เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งมีท่าทีว่าจะถูกกำราบอยู่รางๆ!
อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิที่มาจากทั่วทิศพวกนั้นก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง สั่นสะท้านไปทั้งตัว
…
การต่อสู้ยังร้อนระอุ พลังโจมตีของหลินสวินดุดันและรวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ตูม!
แสงสมบัติไหลวน แสงมรรคซัดโหม
หน้าเขาประกายฟ้านี้กลายเป็นภาพฟ้าถล่มดินทลาย สรรพสิ่งมลายสิ้น
ไม่ทันไรเมื่อเสียงร้องโหยหวนหนึ่งดังขึ้น สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่งถูกเงามายาพันหมื่นที่พุ่งออกมาจากน้ำเต้าต้นกำเนิดฉีกกระชาก
เลือดเนื้อและจิตวิญญาณของเขาก็ถูกภาพหมื่นลักษณ์ฟ้าดาราดูดกลืนและหลอมละลายในพริบตา!
“คนที่สี่”
หลินสวินเอ่ยราบเรียบ
นี่ก็เหมือนเสียงเตือนว่าความตายใกล้มาเยือนแล้ว ทำให้คนขวัญหนีดีฝ่อ
แต่เวลานี้เองในเขาประกายฟ้าที่ห่างไกลพลันมีแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีแถบหนึ่งปรากฏ พุ่งทะลวงเหนือเก้าชั้นฟ้า เพียงพริบตาเหมือนย้อมเวิ้งฟ้าแถบนี้เป็นห้าสีจนงามตระการไร้ขอบเขต
ขณะเดียวกันกลิ่นอายน่าสะพรึงอย่างที่สุดก็อบอวลออกมาจากส่วนลึกของเขาประกายฟ้านั่น
ต้าหวงที่กำลังต่อสู้บนเวิ้งฟ้านัยน์ตาพลันหดรัด ตะโกนลั่น “เจ้าหนู นางหนู อันตราย รีบหนีเร็ว!”
เมื่อเสียงดังขึ้น ต้าหวงตะปบอุ้งเท้าคราหนึ่งเหมือนรีบเอาชีวิตเข้าแลก ควบรวมประทับฝ่ามือมหึมาหาใดเปรียบหนึ่งออกมา ภายในแฝงกฎเกณฑ์มหามรรคนับหมื่นพัน สะท้อนลักษณ์ทั่วหล้าหมื่นพิภพ น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต
ปึง!
สัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลข่งระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนนั้นต้านทานเต็มกำลัง แต่ศาสตราจักรพรรดิของเขาก็ถูกกระแทกปลิวออกไปโดยตรง ทั้งตัวถูกประทับฝ่ามือนั้นปกคลุมแล้วหิ้วตัวไป
ฟุ่บ!
ส่วนเงาร่างต้าหวงเคลื่อนย้ายแหวกอากาศไปทางหลินสวิน มันกระวนกระวายเหมือนถูกไฟลนก้น ดูรีบร้อนเป็นอย่างยิ่ง
“หนีเร็ว!”
มันพูดพลางคว้าตัวซย่าจื้อที่กำลังต่อสู้ คิดพาหลินสวินหนีไปด้วยวิธีเดียวกัน
ก็เห็น…
แสงประกายที่งามแปลกตาหาใดเปรียบระเบิดออกตรงหน้าหลินสวินเหมือนดวงตะวัน พร่างพรายจนลืมตาไม่ขึ้น
ชั่วขณะนี้ฟ้าดินราวกับหยุดชะงัก ระเบียบโลกโคจรเหมือนหยุดไปในชั่วขณะเดียว
อภินิหารหยุดเวลา!
หลังจากได้ยินคำเตือนของต้าหวง หลินสวินก็สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่เข้าทีแล้ว แต่เขาไม่ยินยอมจากไปเช่นนี้ ดังนั้นจึงคิดว่าก่อนไปจะมอบบทเรียนที่ยากลืมเลือนชั่วชีวิตให้เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งสักหน่อย
ตูม!
เมื่ออภินิหารหยุดเวลาสำแดงออกมา ยังมีการโจมตีเต็มกำลังที่หลินสวินทุ่มพลังทั้งหมดด้วย
ไปไร้หวน!
เมื่อกระบี่นี้ฟันออกไป ฟ้าดินเหมือนถูกผ่าแหวก
เห็นเพียงปราณกระบี่ที่เจิดจรัสสายหนึ่งตัดผ่านฟ้ากว้าง พาดขวางห่างออกไปพันจั้งในพริบตาเหมือนหลุดจากกาลเวลา เมื่ออยู่ต่อหน้าปราณกระบี่ที่ทรงพลังเกินต้านทานสายนี้ ห้วงอากาศราวกับหายไป ไม่ว่าจะเป็นศาสตราจักรพรรดิพิทักษ์กาย อภินิหารไร้เทียมทาน หรือวิชาลับอัศจรรย์อะไรล้วนเหมือนไม่มีอยู่
ปึง! ปึง! ปึง!
สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่งถูกสังหารก่อนเป็นคนแรก ทั้งตัวถูกปราณกระบี่บดขยี้ จิตสิ้นวิญญาณสลาย
จากนั้นปราณกระบี่นั้นกดอัด สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิคนแล้วคนเล่าถูกฉีกร่าง ถูกสังหารเหมือนเนื้อปลาบนเขียง ไม่มีแรงขัดขืนแม้แต่น้อย!
เพียงแต่ยังไม่รอให้ปราณกระบี่นี้ฟาดฟันจนสิ้นสุด หลินสวินก็ถูกต้าหวงคว้าตัว ทะยานห้วงอากาศจากไป
ถึงตอนท้ายสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่ล้อมโจมตีหลินสวินแปดคนนั้น เหลือเพียงชายวัยกลางคนระดับจักรพรรดิขั้นหกคนเดียวที่โชคดีหนีพ้นเคราะห์ร้ายนี้มาได้
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาถูกทำให้ตกใจแล้ว ยืนอึ้งอยู่กลางอากาศ เหมือนทำอะไรไม่ถูกและไม่กล้าเชื่อ
หนึ่งกระบี่ก่อนหลินสวินจากไปนี้ ชั่วพริบตาก็ฆ่าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิได้สี่คน!
เหลือแค่คนเดียว!
ตูม…
ฟ้าดินพลิกตลบ คลื่นพลังจากการต่อสู้ที่โกลาหลและปั่นป่วนยังแผ่กระจาย
ทว่าในที่นั้นกลับไม่มีเงาร่างของหลินสวิน ซย่าจื้อ และต้าหวงแล้ว
และในตอนที่พวกเขาเพิ่งจากไป แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่พุ่งออกมาจากส่วนลึกของเขาประกายฟ้านั้นควบรวมเป็นเงาร่างสูงใหญ่หาใดเปรียบสายหนึ่ง ยืนตระหง่านอยู่กลางฟ้าดิน แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสอดประสาน ราวกับเทพไท้องค์หนึ่ง
เมื่อมองอย่างละเอียด นี่เป็นชายที่ท่าทางเหมือนชายหนุ่มคนหนึ่ง สวมชุดห้าสี นัยน์ตาเปล่งประกายดั่งดวงตะวันเจิดจ้า ทั้งตัวอบอวลด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน
ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป โลกใหญ่แดนธรรมปั่นป่วน ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนสั่นสะท้าน
และเมื่อข่าวกระจายไปถึงทางเดินโบราณฟ้าดารา ก็เปิดฉากความโกลาหลอีกครั้ง
ต้องรู้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นในแดนปรินิพพานเมื่อครึ่งเดือนก่อน ยามนี้ยังอื้อฉาวและกระจายทั่วฟ้าดารา ปัจจุบันยังมีข่าวใหญ่เช่นนี้แพร่ออกมาอีก นี่คือการราดน้ำมันบนกองไฟชัดๆ
“จักรพรรดิเต้ายวนยังมีชีวิตอยู่! สวรรค์ นี่ไม่ได้หมายความว่าภายหน้าบนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ถูกลิขิตให้ไม่อาจสงบสุขหรอกหรือ”
“เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นห้าและขั้นหกที่ปิดล้อมจักรพรรดิเต้ายวนในแดนปรินิพพานตอนนั้น กลับไม่มีสักคนที่ปรากฏตัวออกมา นี่หมายความว่าพวกเขาถูกจักรพรรดิเต้ายวนฆ่าไปแล้วหรือไม่”
“เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งแข็งแกร่งระดับใด ใครจะคิดว่ากลับถูกจักรพรรดิเต้ายวนเหยียบประตูบ้าน สังหารจนระดับจักรพรรดิร่วงหล่นดุจสายฝน!”
“ทำไมจักรพรรดิเต้ายวนถึงแข็งแกร่งเช่นนี้”
“ได้ยินว่าข่งเอ้าเทียนบรรพชนรุ่นแรกๆ ที่ควบคุมดูแลตระกูลข่งมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ลงมือ ก็ขวางจักรพรรดิเต้ายวนไว้ไม่ได้!”
…ทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์สะเทือนทั่วฟ้าดาราดุจเขาถล่มสมุทรคำราม ทำให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนสั่นสะท้าน
และทำให้ขุมอำนาจนับไม่ถ้วนอกสั่นขวัญแขวน ว้าวุ่นใจไม่หยุด
โดยเฉพาะสำนักโบราณอย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ หลังรู้เหตุการณ์น่าอนาถที่เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งพบเจอแล้ว แต่ละขุมอำนาจล้วนสะท้านสะเทือน
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหลินสวินในตอนนี้ กลายเป็นภัยคุกคามที่สามารถทำให้พวกเขาไม่อาจไม่ให้ความสำคัญ ไม่อาจไม่หวาดกลัวแล้ว
เป็นมหันตภัยที่ทำให้พวกเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ!
ยามข่าวพวกนี้แพร่กระจาย ยานขนส่งอวกาศที่บรรทุกหลินสวิน ซย่าจื้อ และต้าหวงไว้ก็ออกจากโลกใหญ่แดนธรรมไปนานแล้ว พุ่งไปยังส่วนลึกของฟ้าดาราว่างเปล่า
บนยานสำเภา ทวนยาวหนึ่งจั้งแปดฉื่อด้ามหนึ่งวางอยู่บนกองไฟ บนทวนมีนกยูงห้าสีที่ย่างจนเหลืองเกรียมมันเยิ้มตัวหนึ่งเสียบอยู่
หลินสวินกำลังหยิบแปรงที่ทำจากปีกนกยูงมาจุ่มเครื่องปรุง ทาลงบนเนื้อย่างอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวช่ำชอง เมื่อเริ่มทากลิ่นหอมของเนื้อและเครื่องปรุงหลากชนิดผสมรวมกัน ความเย้ายวนของกลิ่นที่อบอวลออกมาสามารถแทรกซึมเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณได้จริงๆ
ต้าหวงนั่งอยู่ข้างๆ จ้องตาเป็นมัน น้ำลายไหลจากปากเหมือนธารสายเล็ก
หอมเกินไปแล้ว!
ดูเนื้อแวววาวสดใหม่นั่นสิ ภายใต้การย่างด้วยเพลิงมรรคอัศจรรย์ เปลี่ยนเป็นเหลืองเกรียมทีละน้อย ไขมันที่ไหลออกมากลิ้งร่วงดังฉ่าๆ แม้แต่เสียงยังไพเราะเช่นนั้น พาให้คนยากจะทนต่อความกระสันอยากในใจ…
“ปีกและกรงเล็บคู่นี้ยกให้ข้า ยังมีลำคอนั่นด้วย ดูน่ากินไปเสียหมด”
ต้าหวงคาบวัตถุดิบวิญญาณที่รูปร่างคล้ายอ้อยควั่นขึ้นมาแทะอย่างอดไม่ได้ ถือเป็นของหวานก่อนมื้อหลัก ท้องของมันหิวเกินไปแล้ว รู้สึกว่ากินวัวตัวหนึ่งได้ในคำเดียว!
“ข้าเอาตรงนี้ ตรงนี้ ยังมีตรงนี้ด้วย” ซย่าจื้อชี้นิ้วเกลี้ยงเกลาเรียวยาวเหมือนทำจากหยกมันแพะไปที่เนื้อนกยูง นัยน์ตาใสกระจ่างคู่นั้นเหมือนมีเปลวไฟลุกโชน สุกสกาวเปล่งประกายเช่นกัน
ถ้าให้คนรู้ว่าสิ่งที่ถูกย่างนี้คือนกยูงห้าสีที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสามตัวหนึ่ง เกรงว่าลูกตาคงถลนออกมาแน่
ถึงอย่างไรก็อยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ใครเคยได้ยินว่ามีคนกล้านำร่างของมหาจักรพรรดิแห่งเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งมาทำเป็นเนื้อย่างบ้าง
คงได้เสียสติแน่!
………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์