Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2269

ตอนที่ 2269 อุบายของหนอนเทพกักวิญญาณ

ชายชุดคลุมสีดำตาสีน้ำตาลเข้ม ผมยาวสีเขียวอ่อนทั่วศีรษะ เงาร่างสูงใหญ่ นั่งสบายๆ อยู่ตรงนั้นก็มีกลิ่นอายเผด็จการที่กลืนกินภูผาธาราอย่างหนึ่ง

อู่ฝ่าเทียน!

หนึ่งในพวกนายน้อยของเผ่าเต่าดำ ปราณระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิขั้นสมบูรณ์ ถูกมองเป็นยอดอัจฉริยะแห่งยุคของเผ่าเต่าดำในปัจจุบัน

มองเห็นลั่วเจียที่อยู่กลางโถงใหญ่ อู่ฝ่าเทียนไม่ปกปิดแรงปรารถนาหมายครอบครองของตนสักนิด สายตาลุกโชน มองสำรวจรูปร่างงามละมุนอรชรของลั่วเจียอย่างโจ่งแจ้งไร้กลัวเกรง

จนกระทั่งเนตรงามของลั่วเจียฉายแววขุ่นเคือง เขาถึงหัวเราะพลางเอ่ยปาก “แม่นางเบาใจได้ น้องชายของเจ้าปลอดภัยไร้อันตราย ผมสักเส้นก็ไม่ได้ร่วง เพียงแต่… แม่นางตั้งใจจะใช้สิ่งใดมาชดเชยข้า”

“จากที่ข้ารู้ สมบัติที่น้องชายข้าทำพังโดยไม่ได้ตั้งใจก็แค่จี้หยกที่หลอมมาจากศิลากระจกแก้วปีกจักจั่นชิ้นหนึ่ง แม้ราคาจะแพง แต่อย่างมากที่สุดก็แค่สามหมื่นศิลาหงส์เซียน”

ลั่วเจียกล่าวพลางล้วงถุงเก็บของใบหนึ่งออกมา “ในนี้มีหกหมื่นศิลาหงส์เซียน เป็นสองเท่าของราคาสมบัตินั่น เชื่อว่าสามารถชดเชยเจ้าได้แน่”

หกหมื่นศิลาหงส์เซียน!

นี่สำหรับพวกระดับกึ่งจักรพรรดิคนใดก็ตาม ล้วนเรียกได้ว่ามั่งคั่งเหลือเฟือแล้ว

บนที่นั่งข้างๆ กันมีเด็กหนุ่มผมขาวดุจหิมะ ใบหน้าเย็นชาคนหนึ่งนั่งหลังตรงอยู่ ทั่วร่างแผ่อานุภาพโหดเหี้ยมและเย็นเยียบออกมา

เมื่อเห็นเช่นนี้เขาแค่นหัวเราะเอ่ยว่า “‘จี้หยกปีกจักจั่น’ นั่นเป็นของรักของหวงของสหายยุทธ์อู่ฝ่าเทียน มีความหมายยิ่ง ไม่ใช่ของที่จะใช้ศิลาหงส์เซียนมาวัดค่าได้สักนิด เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าคนระดับพวกเราจะสนใจหกหมื่นศิลาหงส์เซียนน้อยนิดนี่”

ไป๋ซาจวิน

บุคคลชั้นเลิศในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเผ่าเสือขาว อุปนิสัยดุดัน เข่นฆ่าราวบ้าคลั่ง และเป็นพวกสะดุดตาที่ขาดอีกก้าวเดียวก็สามารถเหยียบย่างระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง

ลั่วเจียทอดถอนใจในใจ นางรู้อยู่แล้วว่าเรื่องคงไม่ง่ายดายขนาดนี้แน่

นัยน์ตานางสุกใส กล่าวตรงๆ “ว่ามาว่าพวกเจ้าต้องการอะไรกันแน่”

อู่ฝ่าเทียนยิ้มน้อยๆ หยัดกายลุกขึ้นแล้วมาหยุดตรงหน้าลั่วเจีย กล่าวด้วยแววตานึกสนุก “เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ”

ลั่วเจียกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “อย่าบอกข้าเชียวว่าเจ้าสิ้นเปลืองความคิดก็เพียงเพราะอยากใช้กำลังครอบครองข้า คนอย่างเจ้า มีหรือจะถูกหน้าตาของผู้หญิงมัวเมาสติเอาได้ง่ายๆ”

อู่ฝ่าเทียนอึ้งไป ความโลภและเปลวไฟในสายตาอันตรธานหายไปในทันที กล่าวชื่นชมว่า “เจ้าเป็นผู้หญิงฉลาดคนหนึ่ง”

กล่าวพลางเขาย้อนกลับไปนั่งที่ ครุ่นคิดครู่หนึ่งถึงค่อยกล่าวว่า “เจ้าไม่เหมือนกับเผ่าหงส์เซียนคนอื่นๆ บนตัวมีสายเลือดตระกูลลั่วไหลเวียน นี่ก็คือสาเหตุที่ข้ามาหาเจ้า ขอเพียงเจ้าตอบตกลงว่าภายหน้าจะภักดีต่อข้า ตอนนี้ก็สามารถจากไปพร้อมกับน้องชายเจ้าได้”

ลั่วเจียอึ้งไป “ภักดี?”

อู่ฝ่าเทียนพยักหน้า “ถูกต้อง ภักดีโดยไม่มีเงื่อนไข ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ว่าที่ข้าทำเช่นนี้ก็เท่ากับช่วยชีวิตเจ้า หาไม่ รอตอนที่เผ่าหงส์เซียนประสบเคราะห์ใหญ่ เจ้าคิดอยากสวามิภักดิ์แก่ข้าก็เป็นไปไม่ได้แล้ว”

ในใจลั่วเจียเย็นวาบ นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาฉับพลัน “เจ้าหมายความว่าอย่างไร เผ่าหงส์เซียนของข้ายืนหยัดจากอดีตมาจนบัดนี้ มีหรือจะประสบเคราะห์ใหญ่อะไร เกรงว่าต่อให้สองเผ่าใหญ่อย่างเต่าดำ เสือขาวของพวกเจ้าร่วมมือกันเคลื่อนไหว ก็ไม่สามารถนำความเสียหายมาให้เผ่าหงส์เซียนของข้าได้สักเท่าไหร่!”

นี่คือแดนหงส์เซียน ปกครองโดยเผ่าหงส์เซียน อยู่ที่นี่พวกเขาก็ดุจดั่งนายเหนือหัว!

อู่ฝ่าเทียนหัวเราะ แววตานึกสนุก “แม่นาง ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องเลือกแล้ว”

กล่าวพลางเขาดีดนิ้วคราหนึ่ง ไข่แมลงสีชาดใบหนึ่งพุ่งโฉบออกไป ลอยอยู่เบื้องหน้าลั่วเจีย “นี่คือไข่ของ ‘หนอนเทพกักวิญญาณ’ หากเจ้ารับปากว่าจะภักดี ก็กลืนมันเข้าไปในร่างซะ”

หนอนเทพกักวิญญาณ!

ลั่วเจียหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ หนอนเทพระดับนี้ มีชื่อเรื่องเกาะอยู่ในวิญญาณของระดับจักรพรรดิ ซ้ำยังไม่สามารถขจัดได้ ร้ายกาจและน่ากลัวหาใดเปรียบ

หากถูกหนอนชนิดนี้เกาะติดในจิตวิญญาณ เป็นหรือตายล้วนไม่ได้ขึ้นอยู่กันตนเอง!

อู่ฝ่าเทียนเอ่ยปากยิ้มๆ “หนอนเทพระดับนี้เป็นสมบัติชั้นหนึ่งของฟ้าดินเชียว ล้ำค่าหายาก คนทั่วไปมีคุณสมบัติไม่พอให้ถูกหนอนชนิดนี้ควบคุมสักนิด สิ้นเปลืองเกินไป และมีแต่พวกโดดเด่นแห่งยุคเหมือนอย่างแม่นางเท่านั้นที่ทำให้ข้ายอมทำเช่นนี้ได้”

สีหน้าของลั่วเจียวูบไหวไม่นิ่ง “หากข้าไม่ตอบตกลงเล่า”

รอยยิ้มของอู่ฝ่าเทียนหุบลง กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตั้งแต่ตอนที่แม่นางเข้ามาในโถงนี้ เรื่องนี้ก็ไม่อาจให้เจ้าไม่ตอบตกลงแล้ว”

บรรยากาศในโถงใหญ่กดดันหาใดเปรียบฉับพลัน บนที่นั่งข้างๆ กัน ใบหน้าเย็นชาของไป๋ซาจวินผุดแววเหยียดหยันและดูแคลน

ลั่วเจียตระหนักถึงความไม่เข้าทีแล้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ให้ข้าพบน้องชายของข้าสักหน่อยได้หรือไม่”

อู่ฝ่าเทียนอดหัวเราะร่วนไม่ได้ “จนป่านนี้แล้ว แม่นางเจ้ายังเฝ้าคิดถึงน้องชายที่เหมือนเศษสวะคนนั้นของเจ้าอยู่อีก บอกเจ้าตามจริง วันแรกที่เขาถูกข้าจับตัวมาก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เป็นฝ่ายยอมสวามิภักดิ์เองแล้ว”

“อะไรนะ” ลั่วเจียหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย “นี่เป็นไปไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้จริง จะต้องเพราะถูกพวกเจ้าใช้วิธีต่ำช้าบีบบังคับแน่!”

อู่ฝ่าเทียนไม่ได้อธิบาย ทำเพียงตบมือเบาๆ

ทันใดนั้นในโถงด้านข้างมีชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งเดินออกมา ใบหน้าซีดขาว สีหน้าตื่นกลัว หลังจากเดินออกมาก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างเคารพนบนอบ โขกศีรษะไปทางอู่ฝ่าเทียนสามครั้ง ถึงค่อยลุกขึ้นมองมาทางลั่วเจีย

ยามนี้ลั่วเจียอึ้งค้างอยู่ตรงนั้น นี่ยังใช่น้องชายที่เย่อหยิ่งทระนงตนคนนั้นอยู่หรือไม่

เหตุใดเขา… ถึงเปลี่ยนเป็นขี้ขลาดใจเสาะเช่นนี้ ไร้ยางอายไม่เหลือศักดิ์ศรีสักนิด!?

“ท่านพี่ ใต้เท้าอู่ฝ่าเทียนพูดไม่ผิด มีแต่ต้องภักดีถึงจะรอดชีวิตได้ หากท่านเชื่อใจน้องชายอย่างข้า ก็… รีบสวามิภักดิ์เถอะ” ชายหนุ่มชุดขาวกล่าวอย่างจริงจัง

“ลั่วซิง! เจ้า…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์