Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2297

ตอนที่ 2297 การท้าสู้ของลั่วเฉิน

เพียงเห็นท่าทางของไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิง ลั่วซิงเฟิงก็รู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไรแล้ว

ในโลกอีกฟากฝั่ง ผู้ที่เข้าตาเขาลั่วซิงเฟิงได้ คนไหนบ้างไม่ใช่บุคคลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก

และในบรรดาบุคคลชั้นยอดเหล่านี้ ที่เรียกได้ว่าสะดุดตาจะเป็นคนชั้นเลิศตามความหมายทั่วๆ ไปได้อย่างไร

เทียบกันแล้วหลินเต้ายวนคนนั้นอาจไม่ได้พิเศษไปกว่าผู้โดดเด่นเหล่านี้ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเทียบกับใคร!

เพียงแต่ลั่วซิงเฟิงไม่ได้อธิบาย

ด้วยฐานะของเขาสูงส่งเกินกว่าจะมาอธิบายเรื่องพวกนี้

ไม่เคยฝึกปราณที่โลกฟากฝั่ง ย่อมไม่อาจสัมผัสนัยเร้นลับที่อยู่ในนี้ได้อยู่แล้ว

“หลินเต้ายวนคนนี้ยังอยู่ที่โลกนี้ไหม”

ชายหนุ่มชุดขาวเอ่ยถามกะทันหัน

“อยู่”

พวกไป๋หลิงเจินกับอู่ซิวสิงรีบพยักหน้า

“เฉินเอ๋อร์ เจ้าอยากเห็นความสามารถของหลินเต้ายวนผู้นี้หรือ” ลั่วซิงเฟิงประหลาดใจอย่างอดไม่ได้

ในตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง ลั่วเฉินเป็นหนึ่งในมกุฎมหาจักรพรรดิรุ่นหนุ่มที่สะดุดตาที่สุด เขามีพรสวรรค์โดดเด่น รากฐานพลังไม่อาจเทียบได้ เป็นตัวอ่อนฝึกปราณโดยกำเนิด

ตั้งแต่ยังเยาว์ก็ปลุก ‘วังวนวิญญาณเพลิงดารา’ ซึ่งเป็นพรสวรรค์สายเลือดชั้นสูงของตระกูลลั่วได้ ฝึกปราณจนตอนนี้ เพิ่งผ่านไปแปดร้อยปีก็มีพลังปราณระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นสี่แล้ว!

ความเร็วในการเลื่อนระดับอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ ถึงกับทำให้คนเก่าแก่มากมายในตระกูลยังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ละอายที่สู้ไม่ได้

ที่ทำให้ทุกคนยกย่องที่สุดก็คือ แม้ลั่วเฉินมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งยวด แต่ความเฉลียวฉลาดและหนักแน่นของเขาก็ไม่มีใครเทียบได้

คนที่ไม่เข้าใจเขา ได้แต่นึกว่าเขาหยิ่งผยองเกินไป ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา

แต่คนที่เข้าใจเขาจริงๆ ถึงจะรู้ว่าความเย่อหยิ่งเช่นนี้เป็นความเชื่อมั่นประหนึ่งไร้ศัตรู การฝึกมหามรรค เดิมทีก็ควรมีความห้าวหาญเช่นนี้!

การพาลั่วเฉินมาคราวนี้ก็เพื่อให้เขาได้พบเจอสถานที่นอกโลกฟากฝั่ง ได้มีประสบการณ์สักครั้ง

“สิ่งที่ข้าแสวงหาคือมรรคไร้ศัตรู กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงประหลาดอย่างหนึ่ง การเดินทางมาข้างนอกคราวนี้ก็อยากพัฒนามรรควิถีของข้าอีกก้าว”

ลั่วเฉินเอ่ยปาก สีหน้าราบเรียบ “ถ้าภายร้อยปีเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้สักครั้ง ข้าก็จะไปเข้าร่วม ‘ศึกจักรพรรดิเจ็ดเผ่า’ ตั้งกฎเกณฑ์ระเบียบแรกกำเนิดใหม่ให้ตระกูลเราได้!”

ลั่วซิงเฟิงใจสั่นสะท้าน ดวงตามีแววชื่นชม เอ่ยว่า “กล้าหาญดี! ในตระกูลมีคนถือหางคุณชายใหญ่ มีคนถือหางคุณหนูสาม มีเพียงอาเจ็ดที่สนับสนุนเจ้า อาเจ็ดเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของเฉินเอ๋อร์จะไม่ทำให้ตระกูลผิดหวัง!”

บนตัวลั่วเฉินมีพรสวรรค์วังวนวิญญาณเพลิงดาราตื่นขึ้น นี่เป็นถึงพรสวรรค์ตะลึงโลกชั้นยอด!

เมื่อได้รับความคาดหวังจากผู้อาวุโส ลั่วเฉินกลับไม่ได้เผยสีหน้าลำพองฮึกเหิม สงบนิ่งจนน่ากลัว

“ท่านอาเจ็ด ข้ารู้แต่ว่าในตระกูลลั่วของพวกเรา พรสวรรค์ที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดจริงๆ มีนามว่าหุบเหวกลืนกิน น่าเสียดาย… ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมานี้ท่านอาเก้าร่วงหล่นไปในโลกฝั่งนั้นแล้ว ตอนนี้ท่านอาหกก็ไม่รู้ว่าจับคนทรยศลั่วชิงสวินนั่นได้หรือยัง…”

พูดจนจบหว่างคิ้วลั่วเฉินจึงปรากฏแววเสียใจ

หุบเหวกลืนกิน!

นั่นจึงจะเป็นรากฐานที่ทำให้ตระกูลลั่วตั้งตระหง่านเหนือโลก หยิ่งผยองเหนือใต้หล้า!

ไม่รู้ว่าลั่วซิงเฟิงนึกอะไรขึ้นได้ แววตาปรากฏแววเย็นชา จากนั้นพลันยิ้มเอ่ย “ด้วยพลังระเบียบที่ตระกูลลั่วควบคุมในตอนนี้ จะมีหรือไม่มีหุบเหวกลืนกินก็ไม่มีผลกระทบต่อรากฐานของตระกูลเรา”

ลั่วเฉินร้องอืมคำหนึ่ง ไม่พูดอะไรอีก

การสนทนาของทั้งสองถูกทั้งไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิงได้ยิน แต่พวกเขากลับฟังไม่เข้าใจสักนิด

ศึกจักรพรรดิเจ็ดเผ่าอะไร หุบเหวกลืนกินอะไร… ไม่อาจเข้าใจความหมายของคำเหล่านั้นสักนิด

แต่พวกเขากลับรู้ว่าคนทรยศลั่วชิงสวินนั้นคือเรื่องอะไร

พูดได้ว่าก็เพราะผู้หญิงคนนี้จึงทำให้สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทานอย่างเสือขาว เต่าดำ หงส์เซียนและเจินหลงมีโชคชะตาที่ต่างกันไป!

“ไปเถอะ ไปพบบรรพชนหงส์เซียนที่ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาหรือยังผู้นั้น… จริงด้วย… ยังมีหลินเต้ายวนคนนั้นด้วย”

ลั่วซิงเฟิงตัดบท

พวกไป๋หลิงเจิน อู่ซิวสิงต่างใจเต้นระส่ำ เกิดความรู้สึกตั้งตาคอยอย่างไม่อาจกลั้นได้ในใจ หลังจากวันนี้ เผ่าหงส์เซียนก็คงจะถูกถอนรากถอนโคนกระมัง

……

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงที่เคยเจริญรุ่งเรืองในวันวาน ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังถ้วนทั่วไปแล้ว มีเพียงบริเวณใกล้เคียงร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งเท่านั้นที่ยังเหลืออาคารที่ยังสมบูรณ์อยู่บ้าง

‘ระดับจักรพรรดิขั้นสี่ เรียกว่า ‘แจ้งปริศนา’ ยามทะลวงขั้นนี้จะพบเจอกับ ‘เคราะห์โลกเร้นมายา’… ด้วยพลังปราณของข้าในตอนนี้ อีกไม่เกินสามเดือนก็ลองทะลวงขั้นได้แล้ว…’

ในร้านช่างเทพที่ปกคลุมอยู่ภายใต้กระบวนค่ายกลใหญ่มรรคสิ้นฟ้าอาสัญ หลินสวินนั่งขัดสมาธิทำสมาธิ สงบใจหยั่งรู้

ช่วงนี้ในใจเขามักจะเกิดเค้าลางทะลวงขั้นอันแรงกล้า เปรียบได้กับเลือดหัวใจหลั่งไหลดั่งกระแสธาร สัมผัสได้ถึงนัยเร้นลับสวรรค์เหนือมหามรรคบางอย่าง

นี่ทำให้เขาระบุได้ว่าตนอยู่ห่างจากระดับจักรพรรดิขั้นสี่ไม่มากแล้ว

ไม่ไกลนักสัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าหงส์เซียนอย่างพวกหวงชางเทียนกำลังสนทนากับจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิง สีหน้าเคร่งเครียดไม่มากก็น้อย

มีเพียงจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงที่สงบนิ่งดังเดิม

พวกเลี่ยนจิ่วเซียวเผ่าจักรพรรดิช่างเทพอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว พวกเขามีพลังต่อสู้ไม่พอ บุ่มบ่ามร่วมศึกกลับจะกลายเป็นภาระ

ยามนี้ซย่าจื้อฝึกปราณภายใต้การหลับใหลเงียบงันยิ่งยวดอีกครั้ง ในช่วงสั้นๆ ไม่มีทางตื่นขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์