Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2339

ตอนที่ 2339 เจ้าจะแพ้อย่างอนาถนัก

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบว่า “ข้าไม่มีทางแพ้ เลิกพูดไร้สาระ เริ่มเถอะ”

ตูม!

กลิ่นอายทั้งตัวเขาลดลงฉับพลัน ถูกตนเองกดข่มไม่หยุด กระทั่งสำแดงปราณระดับกระบวนแปรจุติออกมา

เห็นดังนี้หลิงเสวียนจื่อที่นั่งอยู่กลางฟ้าเอ่ยว่า “ไม่ ในเมื่อต้องการให้เจ้าพ่ายแพ้แก่มหามรรคของข้าอย่างหมดจด ย่อมต้องเริ่มตั้งแต่ระดับกำลังภายในอันเป็นพื้นฐานที่สุด”

หลินสวินไม่พูดพร่ำทำเพลง กดระดับลงมาถึงระดับกำลังภายใน ขณะเดียวกันก็มองไปยังหลิงเสวียนจื่อ

เขาสงสัยนัก หลิงเสวียนจื่อที่ถูกกำราบ จะเอาอะไรมาสู้กับตน!

“ศิษย์น้องเล็ก ความขัดแย้งแห่งมหามรรค จะใช้ร่างต้นของข้าหรือไม่ก็ไม่จำเป็น แค่รูปจำลองร่างเดียวก็พอแล้ว”

ขณะพูดหลิงเสวียนจื่อลุกจากการนั่งขัดสมาธิ เมื่อเท้าเหยียบพื้นก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าหลินสวินโดยห่างไปสิบจั้งอย่างรวดเร็วแล้ว

เขายิ้มน้อยๆ “นี่เป็นพลังเจตจำนงของข้า ทั้งยังเป็นที่ที่มรรควิถีของข้าอยู่ เจ้าลงมือเต็มที่ได้เลย ข้ารับรองว่านี่จะเป็นการประลองถกมรรคที่ยุติธรรมที่สุดครั้งหนึ่ง”

เสียงพูดเงียบลง

ปราณทั้งร่างเขาก็กดข่มลงไป สำแดงพลางนุภาพของระดับกำลังภายในออกมา

ขณะนี้ผู้ฝึกปราณที่มองเห็นภาพเหล่านั้นต่างตาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้

ระดับกำลังภายในก็คือระดับเริ่มต้นของการฝึกปราณ แบ่งออกเป็นเก้าขั้น ระดับนี้คือพื้นฐานมหามรรคที่ใช้ตั้งหลักให้กับผู้ฝึกปราณ

หอสูงเก้าชั้น เริ่มขึ้นจากกองดิน!

เพราะระดับนี้เป็นพื้นฐานเกินไป สำหรับผู้ที่พลังปราณสูงแล้วจึงมีน้อยนักที่จะสนใจการชิงชัยระดับนี้อีก

หากไม่ใช่เพราะฐานะของหลิงเสวียนจื่อกับหลินสวิน พวกเขาคงไม่สนใจการถกมรรคที่พื้นฐานที่สุดนี้

“ศิษย์น้องเล็ก เชิญ”

หลิงเสวียนจื่อสุขุมเยือกเย็น เอ่ยปากเรื่อยเฉื่อย เขายืนตามสบาย แต่ทั้งตัวกลับสำแดงกลิ่นอายผสานฟ้าดิน ร่วมขับขานกับสรรพสิ่ง

เพียงท่วงท่าเช่นนี้ก็มีความรู้สึกไร้รอยรั่วไม่อาจทำลายได้แล้ว

หลินสวินมองเขาคราหนึ่ง แกว่งหมัดชกออกไปโดยไม่ลังเล เรียบง่าย ตรงไปตรงมา กระทั่งให้ความรู้สึกดิบเถื่อน

ถ้าบอกว่าสิ่งที่หลิงเสวียนจื่อสำแดงเป็นอานุภาพบริบูรณ์ดั่งมรรค เช่นนั้นหมัดนี้ของหลินสวินก็เหมือนไม่เห็นมหามรรคอยู่ในสายตา หมายจะใช้หมัดเดียวทลายกรงขัง ถล่มกระบวนท่าทั้งปวง

หลิงเสวียนจื่อดวงตาเป็นประกาย ยกสองแขนขึ้นประสานมือหยินหยาง ร่างกายผ่อนคลายว่างเปล่า ประหนึ่งต้นสนนกกระเรียนร่ายระบำ เมฆเคลื่อนควันโชย พร่าเลือนราบง่าย ดุจมรรคตามติด

ปึง!

หมัดเดียวของหลินสวินถูกสกัดขวาง

ผืนดินใต้เท้าทั้งสองพลันแตกเป็นรอยแยกเล็กละเอียดนับไม่ถ้วน ฝุ่นควันอบอวล

พลังหมัดของหลินสวินโคจร เรียบง่ายชัดแจ้ง หมัดแต่ละหมัดต่างคล้ายจะทำลายห้วงอากาศให้แหลกกระจุย ตีภูผาธาราให้จมลง พลังหมัดกร้าวแกร่งระเบิดออกส่งเสียงดังสนั่น

หลิงเสวียนจื่อโต้กลับทุกการโจมตี สำแดงวิชาลึกลับทั้งปวง เยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน

ชั่วครู่สั้นๆ ทั้งสองก็ต่อสู้กันหลายร้อยครั้ง การเคลื่อนไหวไม่ใหญ่โตนัก แต่กลับมีอานุภาพสะท้านวิญญาณ ทำเอาผู้ฝึกปราณทุกคนที่จับตามองการต่อสู้นี้อยู่สีหน้าคร่ำเคร่งขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งภายหลังเหงื่อผุดพรายที่หน้าผาก จิตวิญญาณสั่นไหว

ถ้าไม่ได้เห็นกับตา พวกเขาไม่กล้าเชื่อเด็ดขาดว่าระดับเริ่มต้นที่เป็นพื้นฐานที่สุดอย่างระดับกำลังภายในจะถึงกับก่อให้เกิดอานุภาพเย้ยฟ้าเช่นนี้

ไม่มีใครเป็นคนเขลา เทียบกับพลังที่พวกเขาเคยมีสมัยอยู่ระดับกำลังภายในแล้วช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่อาจเปรียบเทียบได้สักนิด!

ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิยังเหงื่อตกอย่างอดไม่ได้ รู้สึกละอายที่ตัวเองด้อยกว่า

ระดับกำลังภายใน ธรรมดาสามัญปานไหน

แต่ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลทั้งสองกลับสำแดงระดับนี้ถึงขั้นไม่เคยมีมาก่อน ตระการตาทั้งในอดีตและปัจจุบัน!

นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อนัก

“ศิษย์น้อง ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ไม่ปรารถนาให้ข้าออกไปท่องโลกภายนอก ด้วยพลังในระดับมกุฎกำลังภายในของข้าในตอนนั้น ก็สามารถอยู่สามอันดับแรกตั้งแต่หมื่นกาลได้แล้ว!”

หลิงเสวียนจื่อต่อสู้พลางเอ่ยอย่างสงบนิ่ง ในคำพูดมีแต่ความโอหังและอวดดี

“เทียบกับศิษย์พี่ผู่เจินเป็นอย่างไร” หลินสวินถาม

หลิงเสวียนจื่อหรี่ตาลง เอ่ยเนิบๆ ว่า “ศิษย์พี่ผู่เจินประสบความสำเร็จช้า แค่เส้นทางระดับกำลังภายในก็ใช้เวลาไปร้อยปี แต่ตอนข้าทะลวงระดับมกุฎกำลังภายใน ยังเป็นแค่เด็กเจ็ดขวบคนหนึ่งเท่านั้น”

“แต่เจ้าสู้ศิษย์พี่ผู่เจินไม่ได้”

ขณะพูดดวงตาดำของหลินสวินมีประกายเฉียบคมวาบผ่าน งอแขนแล้วเหยียดออก นิ้วทั้งห้ากดลงไปพลันเหมือนกรงบังฟ้า

ตูม!

ฟ้าดินสิบจั้งประหนึ่งถูกผนึกและกดข่มโดยสิ้นเชิง

หลิงเสวียนจื่อนัยน์ตาหดรัด พลิกมือตบลงไป แม้สกัดการโจมตีนี้ได้ แต่กลับถูกซัดถอยออกมาสองสามก้าว

เสียงอุทานระลอกหนึ่งดังขึ้นไกลๆ ใครก็คิดไม่ถึงว่า ‘ท่านจอมมรรค’ จะเผยให้เห็นแนวโน้มเสียเปรียบ!

ก็ในตอนนี้เองหลินสวินเอ่ยเรียบๆ ว่า “และเจ้า ยิ่งสู้ข้าไม่ได้”

ตั้งแต่เขาอยู่ในโลกวัฏจักรของแดนปรินิพพาน เขาก็สู้จนได้อันดับหนึ่งทั่วหล้าในระดับมกุฎกำลังภายในตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันแล้ว

และควรรู้ว่าก่อนหน้าหลินสวิน คนที่ครองอันดับหนึ่งมาตลอดก็คือผู่เจิน!

ก่อนหน้านี้หลิงเสวียนจื่อยังไม่กล้าคุยโวว่าจะชนะผู่เจิน แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้อย่างไร

“น่าสนใจ”

กลับพบว่าหลิงเสวียนจื่อยืนนิ่ง สายตาประเมินหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “สมเป็นศิษย์น้องเล็กของข้าหลิงเสวียนจื่อ”

ครืน!

อานุภาพทั้งตัวเขาเปลี่ยนไป สำแดงพลังปราณระดับจิตผสานวิญญาณออกมา อานุภาพของตัวเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุดันดุจกระบี่ เฉียบคมสะดุดตา “มาอีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์