Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2411

สรุปบท ตอนที่ 2411 แผนการของตระกูลเฮ่อ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2411 แผนการของตระกูลเฮ่อ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2411 แผนการของตระกูลเฮ่อ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เดินเล่นเที่ยวเตร่ในเมืองมาสามวันเต็ม

หลินสวินจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปจวนเจ้าเมืองเพื่อแลกป้ายยืนยัน

จากการชี้แนะของเจ้าอ้วน ทุกหนึ่งเดือนจะมีระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งถูกส่งไปในประตูข้ามแดนปฐพี เข้าไปในแดนใหญ่พันศึกนั่น

และวันพรุ่งนี้ระดับจักรพรรดิกลุ่มใหม่ก็จะออกเดินทาง

“ผู้อาวุโส ท่านต้องรักษาตัวด้วย ข้าน้อยคบค้าสมาคมในเมืองข้ามแดนมาหลายปี เคยพบเจอบุคคลสำคัญระดับจักรพรรดิที่เจิดจรัสหาใดเปรียบซึ่งมุ่งหน้าไปแดนใหญ่พันศึกมากมาย แต่ผู้แข็งแกร่งที่ไปถึงโลกยอดนิรันดร์โดยราบรื่นได้อย่างแท้จริงกลับมีน้อยยิ่งกว่าน้อย ส่วนใหญ่ล้วนสิ้นชีพในแดนใหญ่พันศึก แม้แต่ซากศพยังไม่มีใครเก็บให้”

ก่อนจากกันเจ้าอ้วนอาลัยอยู่บ้าง น้ำตาคลอเบ้า

สามวันมานี้นอกจากหลินสวินจะพาเขาเดินเล่นแล้ว ยังซื้อของส่วนหนึ่งให้เขาด้วย ล้วนเป็นสมบัติที่เขาใฝ่ฝันในอดีต

ทั้งหลินสวินยังพาเขาเข้าออกสถานที่ชั้นยอดต่างๆ ทำให้เขาได้เปิดโลกทัศน์ ตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง

นี่ต้องเป็นประสบการณ์ช่วงหนึ่งที่ทำให้เขายากลืมเลือนชั่วชีวิตแน่

“วันหน้าหากมีวาสนาต้องมีวันได้พบกันอีก” หลินสวินยิ้มกล่าว

เจ้าอ้วนพยักหน้าหงึกๆ

หลินสวินจากไปทันที กระทั่งเดินมาได้ถึงครึ่งทาง เบื้องหลังพลันมีเสียงตะโกนของเจ้าอ้วนดังขึ้น “ผู้อาวุโส ข้าลืมว่ามีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้บอกท่าน”

“เรื่องใดหรือ” หลินสวินหยุดเท้าแล้วหันกลับไป

“ข้าชื่อเป่าเล่อ!” เจ้าอ้วนโบกมือตะโกนลั่น

หลินสวินรู้สึกละอายอย่างอดไม่ได้ ตลอดทางนี้เขาลืมถามชื่อของเจ้าอ้วนนี่จริงๆ

“ได้ ข้าจะจำไว้”

หลินสวินพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นก็มุ่งตรงไปทางจวนเจ้าเมือง

ผ่านไปครึ่งเค่อ

จวนเจ้าเมืองที่สง่างามเก่าแก่ปรากฏอยู่ในครรลองสายตาของหลินสวิน เขาหยุดเท้าแล้วแอบกล่าวในใจ ‘ข้าอยากดูนักว่าพวกเจ้าจะกล้าตามไปแดนใหญ่พันศึกหรือไม่’

สามวันมานี้เขารู้สึกได้ว่าในที่ลับนั้นมีคนจ้องมองตนอยู่ตลอด ทั้งมองฐานะของอีกฝ่ายออกแล้วว่าเป็นคนข้างกายฟางเสวียนเจินแห่งเรือนกระบี่ต้าเหิง

สำหรับเรื่องนี้เขาไม่ได้ใส่ใจ แต่ในใจก็ยังอยากรู้ว่าหินลับกระบี่ ‘ลับจิตดั่งคม’ นั่นซ่อนความลับอะไรไว้กันแน่ ถึงกับทำให้อีกฝ่ายยึดติดเช่นนี้

น่าเสียดาย ที่นี่คือเมืองข้ามแดนไม่อาจลงมือ ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของหลินสวินคงจับตัวอีกฝ่ายตั้งแต่พริบตาแรกนานแล้ว

หลินสวินส่ายหัวไม่คิดถึงอีก เดินไปทางจวนเจ้าเมือง

กระทั่งเงาร่างเขาหายไป ระดับจักรพรรดิในที่ลับนั้นก็รีบส่งข่าว

‘เป้าหมายมุ่งหน้าไปจวนเจ้าเมือง มีโอกาสสูงว่าจะลงชื่อไปแดนใหญ่พันศึก เรื่องนี้นายน้อยโปรดตัดสินใจโดยเร็ว!’

ข่าวส่งไปถึงมือของฟางเสวียนเจินทันที เขาใคร่ครวญเล็กน้อยแล้วตัดสินใจ “เช่นนั้นก็มุ่งหน้าไปเยือนแดนใหญ่พันศึก!”

มีเพียงเขาที่รู้ดีว่าหินลับกระบี่ก้อนนั้นเป็นสมบัติที่แม้แต่บิดาของตนยังถวิลหาแม้ยามฝัน มูลค่ามหาศาล ไม่อาจจินตนาการ

เดิมทีฟางเสวียนเจินยังคิดส่งข่าว เชิญบิดาของเขามาที่นี่เพื่อชิงหินลับกระบี่นั่นมาไว้ในมือ

แต่ตอนนี้ดูท่าว่าคงรอไม่ได้แล้ว

“ไป”

ฟางเสวียนเจินพาระดับจักรพรรดิทั้งหมดออกเดินทาง มุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าเมืองทันที

จวนเจ้าเมือง

“ชื่ออะไร”

“หลิงเสวียนจื่อ”

“มาจากไหน”

“ทางเดินโบราณฟ้าดารา”

“พลังปราณ”

“ระดับจักรพรรดิขั้นหก”

…ในโถงลงชื่อแลกป้ายยืนยันโดยเฉพาะหลังหนึ่ง หลินสวินกำลังถามตอบกับชายชราในจวนเจ้าเมืองคนหนึ่ง

ในมือของชายชราถือป้ายยืนยันสีทองไว้ป้ายหนึ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่หลินสวินตอบคำถามให้ข้อมูล ชายชราจะใช้วิชาลับสลักลงในป้ายยืนยันสีทอง

กระทั่งได้ยินหลินสวินแจ้งว่าพลังปราณอยู่ระดับจักรพรรดิขั้นหก ชายชราเงยหน้าขึ้น กล่าวอย่างมีนัยลึกล้ำ “สหายยุทธ์ดูถ่อมตัวอยู่บ้าง หากรายงานตามความจริงจะดีกว่า”

เขาพูดพลางสลักคำว่า ‘ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นหก’ บนป้ายหยกสีทอง

หลินสวินนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก

ถึงอย่างไรชื่อที่เขาแจ้งก็เป็นฉายามรรคของศิษย์พี่สี่

ชายชรายื่นป้ายยืนยันสีทองที่สลักเสร็จแล้วให้หลินสวินพลางกล่าว “ทางเดินโบราณฟ้าดาราไม่มีมกุฎมหาจักรพรรดิถือกำเนิดมานานมากแล้ว สหายยุทธ์ ใต้เท้าตระกูลข้าสนใจในตัวเจ้ามาก ไม่ทราบว่าเจ้าสะดวกไปพบใต้เท้าสักครั้งหรือไม่”

“พบข้าหรือ” หลินสวินอึ้งไป

“สหายยุทธ์วางใจ ต้องเป็นเรื่องดีแน่”

บรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนพยักหน้า กล่าวทอดถอนใจ “นี่เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ หากผู้ฝึกปราณของโลกพันจักรวาลอยากมุ่งหน้าไปโลกยอดนิรันดร์ ก็ได้แต่บุกฝ่าแดนใหญ่พันศึกไปเท่านั้น”

จากนั้นเขาก็ยิ้มกล่าวอย่างจริงจัง “แต่ข้าเชื่อว่าคลื่นยักษ์ซัดเซาะเจอทองแท้ ขอแค่เป็นคนที่ทะลวงผ่านแดนใหญ่พันศึกไปถึงโลกยอดนิรันดร์ได้ ก็ย่อมถูกลิขิตให้เป็นวีรชนคนกล้าและราชันที่แท้จริงในมรรคจักรพรรดิ ต่อให้อยู่ในโลกยอดนิรันดร์ก็ฉายแววอัศจรรย์และเรียกคลื่นลมได้”

หลินสวินเข้าใจในทันที

ความจริงคำพูดนี้ของบรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนก็หมายความว่า มีแค่คนที่บุกผ่านแดนใหญ่พันศึก ถึงสามารถรับตำแหน่ง ‘ผู้ติดตาม’ ของตระกูลเฮ่อได้

หากตายในแดนใหญ่พันศึกก็ตายไป แน่นอนว่าทุกอย่างนั้นไม่ต้องพูดถึง

กล่าวสรุปโดยง่าย บรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนกำลังหว่านแห ดูว่าปลาตัวไหนสามารถตีฝ่าออกมาจากแดนใหญ่พันศึกได้อย่างแท้จริง

“สหายน้อย ใช่ว่าตระกูลเฮ่อของข้าไม่ยอมช่วยเหลือ ความจริงไม่ว่าใครเข้าไปในแดนใหญ่พันศึก ย่อมไม่อาจได้รับความช่วยเหลือใดๆ ทั้งไม่มีทางลัดให้เลือก อย่าว่าแต่ตระกูลเฮ่อของข้าไม่อาจช่วยเหลือ ต่อให้เป็นเผ่าจักรพรรดิอมตะอื่นใดในโลกยอดนิรันดร์ก็ไม่อาจแทรกแซงได้อย่างสิ้นเชิง”

บรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น “นี่คือกฎเหล็ก นับแต่โบราณมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่สั่นคลอนชั่วนิรันดร์ แต่หากวันหน้าสหายน้อยมีโอกาสไปถึงโลกยอดนิรันดร์จริง ข้ารับรองได้ว่าเพียงสหายน้อยอาศัยป้ายยืนยันในมือ ก็จะได้รับการคุ้มครองจากตระกูลเฮ่อของข้าแล้ว!”

“ถึงตอนนั้นด้วยความสามารถของสหายน้อย ต่อให้รับตำแหน่งผู้อาวุโสต่างสกุลในตระกูลเฮ่อของข้าก็ยังเหลือเฟือ!”

นี่ก็คือการแลกเปลี่ยน

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ระดับจักรพรรดิทุกคนที่ออกเดินทางจากเมืองข้ามแดน เกือบทั้งหมดล้วนได้รับ ‘การชักจูง’ และ ‘รับปาก’ เช่นนี้

สำหรับเผ่าจักรพรรดิอมตะอย่างตระกูลเฮ่อ ถ้าพวกเขาต้องการขยายอำนาจ ก็ต้องการผู้แข็งแกร่งมาเข้าร่วมอย่างไม่ขาดสาย

สำหรับระดับจักรพรรดิของโลกพันจักรวาล หลังจากมุ่งหน้าไปโลกยอดนิรันดร์ ในสถานที่แปลกใหม่ก็ต้องการที่ยืน หากได้รับการช่วยเหลือและคุ้มครองจากขุมอำนาจท้องถิ่น แน่นอนว่าคงดียิ่งกว่า

การค้าเช่นนี้กล่าวได้ว่าต่างฝ่ายต่างได้สิ่งที่ต้องการ

แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือสามารถรอดชีวิตจากแดนใหญ่พันศึกไปถึงโลกยอดนิรันดร์

หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็พยักหน้ากล่าว “หากไปถึงโลกยอดนิรันดร์ได้ ข้าจะมุ่งหน้าไปเยือนตระกูลเฮ่อสักรอบ”

โลกยอดนิรันดร์เป็นอย่างไรกันแน่

หลินสวินก็ไม่รู้

หลังจากไปถึง ถ้าได้รู้จักโลกยอดนิรันดร์ผ่านขุมอำนาจเผ่าจักรพรรดิอมตะท้องถิ่นอย่างตระกูลเฮ่อ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

ทั้งเมื่อถึงตอนนั้นหากมีขุมอำนาจอย่างตระกูลเฮ่อคุ้มครอง ตระกูลลั่วแห่งฟากฝั่งมีหรือจะคิดได้ว่าตนไปซ่อนอยู่ภายใต้การดูแลของเผ่าจักรพรรดิอมตะที่ไม่ด้อยไปกว่าพวกเขา

เมื่อเห็นหลินสวินรับปาก บรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนส่งเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจ

พูดคุยต่อได้ไม่นาน หลินสวินก็ลุกขึ้นขอตัวกลับ

บรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนมาส่งด้วยตัวเองพลางเอ่ยกำชับ “สหายน้อยจงจำไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นรวมตัวกันหน้า ‘แท่นมรรคข้ามแดน’ ทางตะวันออกของเมือง อย่ามาสาย ไม่อย่างนั้นถ้าอยากมุ่งหน้าไปแดนใหญ่พันศึกก็ได้แต่รอถึงเดือนหน้าแล้ว”

…………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์