Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2419

ตอนที่ 2419 ต้นกำเนิดมหามรรคยุคก่อน

“ตาย!”

กลางฟ้าดินรกร้างแถบหนึ่ง พร้อมกับเสียงตวาดลั่น มือใหญ่บังฟ้าทองอร่ามข้างหนึ่งหวดลงมา มารมายาวิญญาณโลหิตระดับจอมราชันตนหนึ่งถูกตบจนกลายเป็นจุณ

สิงมู่เทียนสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เก็บพลังต้นกำเนิดอสูรและมุกบริสุทธิ์ลงไป

เขาสวมชุดคลุมม่วงคาดเข็มขัดหยก ผมยาวสยาย นัยน์ตาแผ่ประกายทองลึกลับ ทั่วร่างเผยความอหังการที่มองไม่เห็น

‘เพิ่งได้มุกบริสุทธิ์เม็ดที่สี่ ช้าเกินไปแล้ว’

สิงมู่เทียนใคร่ครวญ ‘หากไม่รีบเข้าไปในแดนสิ้นจิตวิญญาณ เกรงว่าคงไม่อาจรวบรวม ‘ต้นกำเนิดมรรคจักรพรรดิ’ ที่คุณลักษณะเลิศล้ำได้’

แดนสิ้นจิตวิญญาณ โลกสุสานมรรคที่มืดมิดเงียบสงัดแห่งหนึ่ง

เล่าลือว่าในฟ้าดินแถบนั้นมีเศษเสี้ยวต้นกำเนิดมหามรรคยุคก่อนฝังอยู่ หากนำมาหลอมจะทำให้พลังปราณของระดับจักรพรรดิขั้นใดก็ตามเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

แต่จำนวนของต้นกำเนิดมหามรรคมีจำกัด โดยเฉพาะต้นกำเนิดมหามรรคที่คุณลักษณะเลิศล้ำบางส่วนยิ่งหายากเหลือประมาณ

ทั้งยามเข้าไปในแดนสิ้นจิตวิญญาณก็มีเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเดือน

นี่ก็หมายความว่ายิ่งเสียเวลาอยู่ในสมรภูมิมายาโบราณนานเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสรั้งท้าย ถึงตอนนั้นต่อให้เข้าไปในแดนสิ้นจิตวิญญาณได้ ต้นกำเนิดมรรคจักรพรรดิก็คงถูกแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว…

‘จำเป็นต้องแข่งกับเวลาแล้ว!’

นัยน์ตาสิงมู่เทียนฉายแววเคร่งขรึมเย็นชา

พลังปราณของเขาบรรลุถึงระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นแปดแล้ว ครั้งนี้ยังคิดทะลวงปราณของตนในแดนใหญ่พันศึกด้วย

หากก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นเก้าได้…

ต่อให้แดนใหญ่พันศึกอันตรายแค่ไหน เขาก็ไม่หวาดกลัว!

อีกทิศทางหนึ่ง

ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงพาคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว

นางสวมชุดเกราะสีดำ ถือทวนดำ สวมผ้าคลุมหน้าสีดำ ทั่วร่างล้วนอบอวลอยู่ในหมอกควันสีดำ ยามเคลื่อนไหวไอสังหารเย็นเยียบม้วนกลืนฟ้าดิน ดุดันน่าพรั่นพรึง

“เร็วเข้า รวบรวมมุกบริสุทธิ์เต็มกำลัง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องออกจากสมรภูมิมายาโบราณในสามวัน”

เสียงของนางเยียบเย็นดุจน้ำแข็ง ทำการเร่งเร้า

เหล่าระดับจักรพรรดิที่ติดตามข้างกายนางล้วนไม่กล้าชะล่าใจ

นอกจากพวกสิงมู่เทียนและยอดจักรพรรดิเสวียนซิงแล้ว ในสมรภูมิมายาโบราณนี้ขุมอำนาจอื่นที่มีพวกจักรพรรดิขวงหรู หนิงเต้าจื้อเป็นผู้นำล้วนรวบรวมมุกบริสุทธิ์เต็มกำลัง

สำหรับพวกเขา สมรภูมิมายาโบราณที่อยู่รอบนอกสุดนี้ไม่ได้มีภัยคุกคามอะไรมากนัก ทั้งไม่มีคุณค่าอะไรให้อยู่ต่อ

ตรงกันข้าม แดนสิ้นจิตวิญญาณนั่นกลับมี ‘ต้นกำเนิดมหามรรค’ ที่ทำให้พวกเขาใจเต้น!

สมรภูมิมายาโบราณแบ่งเป็นแปดส่วน

อาณาเขตที่พวกหลินสวินเข้ามาจากประตูข้ามแดนปฐพีมีนามว่าเขตแดนปฐพี เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสมรภูมิมายาโบราณ

ในเจ็ดอาณาเขตอื่นล้วนมีผู้แข็งแกร่งที่มาจากต่างมิติจักรวาลเช่นกัน กำลังเคลื่อนไหวในอาณาเขตที่ต่างฝ่ายต่างเข้ามา

เป้าหมายล้วนเหมือนกัน ล่ามารมายาวิญญาณโลหิตระดับจอมราชัน รวบรวมมุกบริสุทธิ์!

ทั้งในเจ็ดอาณาเขตใหญ่นี้ยังไม่ขาดระดับมกุฎจักรพรรดิที่เจิดจรัสหาใดเปรียบ ถึงขั้นว่ารากฐานของคนบางส่วน เทียบกับพวกสิงมู่เทียน จักรพรรดิขวงหรู หนิงเต้าจื้อแล้วมีแต่จะเหนือกว่า!

ทั้งหมดนี้ทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ ทั้งต่างรู้ดีว่าหลังจากไปถึงแดนสิ้นจิตวิญญาณ ระหว่างผู้ฝึกปราณที่เข้ามาจากแปดประตูข้ามแดนพร้อมกัน ต้องเกิดการปะทะนองเลือดด้วยแย่งชิง ‘ต้นกำเนิดมหามรรค’ แน่

มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ไปถึงแดนสิ้นจิตวิญญาณก่อนจึงจะแย่งชิงโอกาสแรกได้!

“มุกบริสุทธิ์อะไร ข้าไม่ต้องการทั้งนั้น ข้าแค่อยากให้หลิงเสวียนจื่อนั่นตาย!”

ในโลกโลหิตสีหน้าเหวินเซ่าเหิงเต็มไปด้วยไอสังหารเย็นชา

หลังจากเขานำระดับจักรพรรดิทั้งหมดเข้ามาในสมรภูมิมายาโบราณ ก็เริ่มเปิดฉากค้นหาตั้งแต่พริบตาแรกทันที เป้าหมายไม่ใช่เพื่อรวบรวมมุกบริสุทธิ์ หากแต่เพื่อสังหารหลินสวิน

แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจออีกฝ่าย นี่ทำให้ในใจเหวินเซ่าเหิงอึมครึมอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้

“นายน้อย สมรภูมิมายาโบราณกว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง หากค้นหาต่อไปเช่นนี้เกรงว่าคงยากจะจับตัวคนผู้นี้มาได้”

หญิงชราท่าทางเชื่องช้าเอ่ยปาก สีหน้าเหี้ยมเกรียม “จากที่ข้าเห็น ไม่สู้พวกเรามุ่งหน้าไปแดนสิ้นจิตวิญญาณเสียตอนนี้ สถานที่นั้นมีขนาดแค่โลกใบเล็กแห่งหนึ่ง ขอเพียงคนผู้นี้ปรากฏตัว ยามค้นหาจะง่ายขึ้นมากอย่างไม่ต้องสงสัย”

“แต่ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวล่ะ” เหวินเซ่าเหิงขมวดคิ้ว

“นั่นก็พิสูจน์ว่าคนผู้นี้ไม่สิ้นชีพในสมรภูมิมายาโบราณก็หวาดกลัว มีความคิดจะหลบเลี่ยงพวกเรา ไม่ว่าเป็นผลลัพธ์แบบไหน สำหรับพวกเราแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่เป็นภัย”

หญิงชรากล่าว “ยิ่งไปกว่านั้นการเดินทางครั้งนี้ของพวกเรายังมีเป้าหมายอื่น ไม่ควรค่าต่อการใช้เวลาและกำลังไปกับคนพรรค์นี้แต่แรก”

เหวินเซ่าเหิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนโบกมือกล่าว “ได้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูด”

หญิงชรายิ้มขึ้นมาทันที

แต่หมีอู๋หยาและเยียนอวี่โหรวที่ติดตามข้างกายเหวินเซ่าเหิงมาตลอดกลับสบตากันวูบหนึ่ง รู้สึกหนักใจอย่างอดไม่ได้ทันที

แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าหลิงเสวียนจื่อก็คือหลินสวิน แต่ไม่ว่าจะเป็นฐานะไหน ตอนนี้ขอแค่ถูกเหวินเซ่าเหิงพบก็เกรงว่าคงเคราะห์มากโชคน้อย!

ไม่มีใครรู้ดียิ่งกว่าพวกเขา ‘จักรพรรดิกระบี่อวี้เฟิง’ ที่มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลเหวินคนนี้ มีรากฐานพลังที่น่าหวาดกลัวระดับใด

‘หวังเพียงหลินสวินอย่าถูกเหวินเซ่าเหิงเจอเด็ดขาด…’ ในใจทั้งสองคนเกิดความคิดเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ห่างกันแค่พันจั้ง

ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งเหมือนเด็กหนุ่มในช่วงวัยกำลังรุ่งโรจน์ สวมเสื้อขนนก ใบหน้างามหยิ่งทะนง มือถือแส้หางม้าขาวดุจหิมะแส้หนึ่ง

อีกคนแก่ชราผมขาวแกมเทา แต่ผิวพรรณกลับหมดจดเหมือนเด็กทารก คิ้วตาอ่อนโยน มีสง่าราศี

บนตัวทั้งสองล้วนอบอวลด้วยกลิ่นอายของระดับบรรพจารย์ ทันทีที่ปรากฏตัวก็ปลดปล่อยอานุภาพออกมาปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ บีบกดจนอากาศค้างแข็ง ห้วงอากาศปั่นป่วน

หลินสวินเลิกคิ้วพลางกล่าว “ท่านทั้งสองกำลังจะทำอะไร”

ทั้งสองคนนี้ดูแปลกหน้ามาก เห็นชัดว่าไม่ใช่เหล่าระดับจักรพรรดิที่เข้าประตูข้ามแดนปฐพีมาเหมือนเขา

นี่ทำให้หลินสวินระบุได้ทันที สองคนนี้น่าจะมาสมรภูมิมายาโบราณจากประตูข้ามแดนอื่น

“มกุฎมหาจักรพรรดิระดับจักรพรรดิขั้นหก ไม่เลว” ชายชราผมขาวคิ้วตาอ่อนโยนยิ้มแย้มพลางเอ่ยชมประโยคหนึ่ง

เด็กหนุ่มเสื้อขนนกรูปงามกลับสีหน้าเย็นชาครัดเคร่ง เอ่ยพูดตรงๆ “การฝึกปราณไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อในแดนใหญ่พันศึกให้นานอีกหน่อยก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าสองคนไม่อยากคร่าชีวิตเจ้า ขอเพียงเจ้ามอบมุกบริสุทธิ์ในมือมา ข้าสองคนจะจากไปทันที”

“ที่แท้ก็มาปล้น” หลินสวินพลันกระจ่าง

เด็กหนุ่มเสื้อขนนกกับชายชราผมขาวล้วนอึ้งไป การตอบสนองที่ผ่อนคลายนิ่งสงบนี้ของหลินสวินเห็นชัดว่าผิดปกติอยู่บ้าง

นี่ทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ ในตัวชายหนุ่มระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นหกคนนี้ เกรงว่าคงมีที่พึ่งพิง

ชายชราผมขาวกล่าวด้วยสีหน้าอบอุ่น “สหายน้อย มุกบริสุทธิ์ทยอยเก็บรวบรวมได้ แต่หากตายไปแล้วก็ไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพอีก ข้าสองคนไม่อยากเห็นคนหนุ่มอย่างเจ้าฝังร่างอยู่ที่นี่เพียงเพราะมุกบริสุทธิ์จำนวนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้…”

ไม่รอให้พูดจบหลินสวินพลันส่งเสียงหัวเราะ “พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย ขนาดจะปล้นยังเสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้ ดีแต่จะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ มาๆๆ ข้ากลับอยากลองดูว่าวันนี้ใครจะปล้นใคร!”

ตูม!

เขาพุ่งใส่เด็กหนุ่มชุดขนนกนั่นก่อน เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพุ่งออกมา แทรกสอดแสงมรรคนับหมื่นแสน กดอัดห้วงอากาศจนทรุดตัวลงไป

“รนหาที่ตาย!”

เด็กหนุ่มเสื้อขนนกนัยน์ตาเยียบเย็นดุจกระบี่ ท่ามกลางเสียงอึงอลกึกก้อง ดาบบินเจิดจ้าส่องประกายเล่มหนึ่งกรีดทึ้งห้วงอากาศ ฟาดฟันออกไป

บนดาบบินมีกลิ่นอายระดับบรรพจารย์ดุจเขาถล่มสมุทรคำราม สะท้านฟ้าสะเทือนดิน

เคร้ง!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งถูกขวางกั้น ปะทะกับดาบบินจนสาดแสงมรรคโหมกระหน่ำ ทำให้พื้นดินแถบนี้ทรุดตัวทันที ฝุ่นควันอบอวล

เมื่อไม่อาจซัดเตากระบี่ของหลินสวินให้ถอยได้ในการโจมตีเดียว เด็กหนุ่มเสื้อขนนกประหลาดใจอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้

แต่ครู่ต่อมาสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป

เห็นเพียงเงาร่างหลินสวินไหววูบ กายมรรคทั้งห้าพลันโฉบออกมา ราวกับเทพสวรรค์อุบัติบนโลก พุ่งโจมตีเด็กหนุ่มเสื้อขนนกด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด

…………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์