Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2439

ท่านย่าเสวี่ยยืนอยู่ด้านหนึ่ง มองดูเหวินเซ่าเหิงที่ยืนพิงราวเงียบๆ ในใจเวทนาอย่างอดไม่ได้

หลังจากพ่ายแพ้ยับเยินคราวก่อน เหวินเซ่าเหิงก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเป็นเงียบเชียบไม่พูดจา ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่

แต่ท่านย่าเสวี่ยดูออก การพ่ายแพ้คราวนี้กระทบใจเหวินเซ่าเหิงยิ่งนัก กลายเป็นความเจ็บป่วยทางใจของเหวินเซ่าเหิงไปแล้ว

ถ้าไม่กำจัด จิตมรรคจะต้องได้รับผลกระทบ!

ทหารยามคนหนึ่งรีบร้อนเข้ามา ยืนอยู่ไกลออกไปแล้วก้มหัวคารวะ จากนั้นเอ่ยอย่างนบนอบว่า “ใต้เท้า ที่ประตูเมืองส่งข่าวมาว่าหลิงเสวียนจื่อผู้นั้นเข้าเมืองมาแล้วขอรับ”

ท่านย่าเสวี่ยหันขวับ ดวงตาดุจมีสายฟ้าพาดผ่าน โบกมือเอ่ยว่า “ออกไปเถอะ”

ทหารยามหมุนตัวจากไป

ท่านย่าเสวี่ยเอาตำราหยกที่มีคลื่นคลุมเครือเล่มหนึ่งออกมาพลิกเบาๆ สัมผัสเล็กน้อยก็สังเกตได้ทันทีว่ากลิ่นอายวิญญาณของหมีอู๋หยาและเยียนอวี่โหรวอยู่สักแห่งในเมือง!

นางสีหน้าปรีดา จิตใจกระปรี้กระเปร่า มองเหวินเซ่าเหิงแล้วเอ่ยว่า “นายน้อย เจ้าสารเลวนั่นเข้าเมืองมาแล้วจริงๆ!”

แต่ที่ทำให้ท่านย่าเสวี่ยงุนงงก็คือเหวินเซ่าเหิงเหมือนไม่มีการตอบสนองสักนิด สีหน้าดูสงบนิ่งและเรียบเฉย สายตามองไปไกลอยู่ตลอด

“นายน้อย?” นางเอ่ยอย่างอดไม่ได้

“ข้ารู้แล้ว”

ในที่สุดเหวินเซ่าเหิงก็เอ่ยปาก เขาหันไปมองท่านย่าเสวี่ย ในส่วนลึกของดวงตามีแต่ความแค้นและความเย็นชาเข้ากระดูก “ข้าติดต่อ ‘แดนเร้นนภา’ แล้ว พวกเขาจะส่งมือสังหารคนหนึ่งไปจัดการเจ้าหมอนั่น นี่เป็นป้ายคำสั่งเร้นนภา”

ระหว่างที่พูดเขาก็โยนป้ายคำสั่งหนึ่งออกมา มันใหญ่เท่าฝ่ามือ สีแดงฉานเหมือนเลือด พื้นผิวป้ายคำสั่งมีนัยน์ตาแนวตั้งสีเงินแปลกประหลาดดวงหนึ่งอยู่

ท่านย่าเสวี่ยเอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “นายน้อย ท่านรับเงื่อนไขของแดนเร้นนภาแล้วหรือ”

เหวินเซ่าเหิงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เจ้าก็รู้ว่าบรรพจารย์ขั้นเก้าธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงเสวียนจื่อนั่นอยู่แล้ว และคิดจะฆ่าคนผู้นี้ที่เมืองตั้งต้นแห่งนี้โดยไม่ให้ใครล่วงรู้ มีแต่มือสังหารจากแดนเร้นนภาที่ทำได้”

“แต่… ค่าตอบแทนที่จ่ายไปนี้จะมากไปหรือเปล่า นั่นมันผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งสามล้านก้อนเชียวนะ…” ท่านย่าเสวี่ยคล้ายไม่อาจสงบใจ อารมณ์ว้าวุ่น

ผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งสามล้านก้อน!

หากอยู่ในโลกยอดนิรันดร์ เป็นความมั่งคั่งก้อนยักษ์ที่ทำให้บรรพจารย์มรรคยังหน้าเปลี่ยนสีได้!

และตอนนี้เพียงเพื่อฆ่าหลิงเสวียนจื่อก็จ่ายค่าตอบแทนขนาดนี้ นี่ทำให้ท่านย่าเสวี่ยรู้สึกว่าไม่คุ้มนัก

“ขอเพียงฆ่าหลิงเสวียนจื่อได้ จ่ายค่าตอบแทนพวกนี้ไปก็คุ้มค่า”

เหวินเซ่าเหิงเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ในดวงตามีแต่ความเหี้ยมเกรียม “เจ้าเฒ่าเหิงเทียนซั่วผู้นี้ก็รับปากแล้ว ว่าเรื่องนี้จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ข้าล่ะอยากเห็นนักว่าหลิงเสวียนจื่อจะรอดออกมาจากเมืองตั้งต้นนี้ได้หรือไม่!”

เหิงเทียนซั่ว!

คนใหญ่คนโตผู้หนึ่งในเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลเหิง บรรพจารย์มรรคที่แท้จริงคนหนึ่ง ตอนนี้เป็นตัวแทนตระกูลเหิงควบคุมดูแลเมืองตั้งต้น ครองอำนาจเป็นเจ้าเมือง

ท่านย่าเสวี่ยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง รู้ว่าไม่อาจเกลี้ยกล่อมได้อีกแล้วจึงพยักหน้ารับทันที

นางใช้จิตรับรู้หยั่งเข้าไปในป้ายคำสั่งเร้นนภา ทันใดนั้นก็มีข้อมูลของมือสังหารคนหนึ่งปรากฏขึ้น

นกกระเรียน

อยู่อันดับที่หกของมือสังหารระดับจักรพรรดิแดนเร้นนภา

ตั้งแต่ปฏิบัติภารกิจมาถึงตอนนี้ ไม่พลาดสักครั้ง

เกือบพันปีมานี้ปฏิบัติภารกิจระดับจักรพรรดิขั้นเก้ามาสิบแปดครั้ง สังหารบรรพจารย์ขั้นเก้าไปสิบแปดคน!

…เนื้อหาต่อจากนั้นคือการบรรยายถึงผลงานการต่อสู้ต่างๆ ของ ‘นกกระเรียน’ ล้วนเรียกได้ว่าน่าตื่นตา ทำให้ท่านย่าเสวี่ยเห็นแล้วยังตกตะลึงไม่ว่างเว้น

‘อันดับที่หกของระดับจักรพรรดิ… มิน่าถึงแพงขนาดนี้…’ ท่านย่าเสวี่ยรำพึงในใจ

แดนเร้นนภา ขุมอำนาจมือสังหารที่ก็เรียกได้ว่าลึกลับในโลกยอดนิรันดร์แห่งหนึ่ง ทำให้เผ่าจักรพรรดิอมตะบางส่วนยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!

……

จวนเจ้าเมือง

ในเรือนอันเรียบหรูเงียบสงบแห่งหนึ่ง เหิงเทียนซั่วถือม้วนหยกลายกระดูกชิ้นหนึ่ง กำลังดูรายละเอียด

เขาสวมชุดขาวทั้งตัว ใบหน้าดั่งหยกยอดมงกุฎ มีเพียงจอนผมขาวโพลนทั้งสองที่เพิ่มกลิ่นอายกร้านโลก นั่งสบายๆ อยู่เช่นนั้นก็มีความสุขุมสง่างามอยู่ในที

จากรูปลักษณ์ภายนอกดูออกได้ยาก ว่าคนผู้นี้เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับบรรพจารย์ที่มีชีวิตมาหลายหมื่นปีผู้หนึ่ง เป็นบรรพจารย์มรรคอย่างแท้จริง

“อีกสามเดือนก็จะเปิด ‘แดนลับฝึกหลอม’ แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมีระดับจักรพรรดิรอดออกมาได้กี่คน”

ครู่หนึ่งเหิงเทียนซั่วก็เอ่ยเบาๆ ครุ่นคิดตรึกตรอง

เสียงก้าวเท้าตึกๆ ระลอกหนึ่งดังขึ้น เหิงเทียนซั่วพลันเก็บงำความรู้สึก เอ่ยถามว่า “มีเรื่องอะไร”

“ใต้เท้า เมื่อครู่มีข่าวมาว่าเป้าหมายที่ถูกเหวินเซ่าเหิงจับจ้องเข้ามาในเมืองแล้วขอรับ” เด็กน้อยเครื่องหน้าเกลี้ยงเกลาคนหนึ่งเอ่ยเบาๆ

“หลิงเสวียนจื่อคนนั้นหรือ” เหิงเทียนซั่วถาม

“ใช่ขอรับ”

เหิงเทียนซั่วยิ้มแล้วโบกมือเอ่ยว่า “ไปเถอะ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจ อืม ถ้าเกิดความเคลื่อนไหวอะไร จำไว้ว่าต้องกดผลกระทบพวกนี้ อย่าให้ไปมาปั่นป่วนกฎระเบียบในเมือง”

“ขอรับ”

เด็กน้อยรับคำสั่งแล้วจากไป

‘บีบให้หนึ่งในห้ายอดจักรพรรดิอย่างเหวินเซ่าเหิงแพ้ยับเยินขนาดนี้ ถึงขั้นต้องอาศัยมือสังหารจากแดนเร้นนภามาลงมือ หลิงเสวียนจื่อนี่เป็นพวกที่ไม่ธรรมดาจริงๆ…’

เหิงเทียนซั่วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วส่ายหัว ‘ช่างเถิด ในเมื่อสร้างความแค้นกับตระกูลเหวิน เรื่องนี้ก็ให้เหวินเซ่าเหิงมาจัดการก็พอ’

เขาไม่สนใจเรื่องนี้อีก เล่นม้วนหยกลายกระดูกที่อยู่ในมือพลางคิดเรื่องแดนลับฝึกหลอมต่อ

….

ราตรีดุจน้ำหมึก

หลินสวินเยื้องย่างออกมาจากโรงเตี๊ยม เดินมือไพล่หลังไปยังถนนคับคั่งที่โคมไฟส่องสว่างไปทั่วนั้น

“รับซื้อดอกธารดาราเก้าเกสร มีเท่าไรเอาเท่านั้น!”

“ซาลาเปาปลาเกล็ดทองร้อนๆ จ้า สดฉ่ำเปลือกบาง เรียกได้ว่าล้ำเลิศ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์