ตอนที่ 2455 ภาพมรรคจตุลักษณ์
ชายชุดดำอึ้งไป กำลังจะพูดอะไร
ก็พบว่าเฟิงจวินหลินโบกมือเอ่ยว่า “เขาพูดถูก เรื่องก่อนหน้านี้ข้าเห็นทั้งหมด ไม่ต้องพูดอีกแล้ว”
ชายชุดดำแก้มบวมแดง คับแค้นใจนัก
“หลิงเสวียนจื่อ พลังต่อสู้เขาสู้เจ้าไม่ได้ ก็สมควรโดนตบ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนของข้า เจ้าคิดว่าเรื่องนี้ควรจะตัดสินอย่างไร”
ดวงตาเฟิงจวินหลินจ้องหลินสวิน เงาร่างสูงใหญ่ มีอานุภาพอหังการถึงที่สุด
นี่ต้องเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นพวกน่ากลัวที่แข็งแกร่งมาก น้อยคนนักจะเทียบได้!
“เช่นนั้นเจ้าว่าอย่างไร” หลินสวินแววตาเฉยชา สุขุมเยือกเย็น
“วัดความสูงต่ำของมหามรรค” เฟิงจวินหลินเสียงดังกังวาน ไม่ยอมให้กังขา
“สุดท้ายก็ยังต้องลงมืออย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี” หลินสวินพยักหน้า “ก็ได้”
เฟิงจวินหลินส่ายหัวเอ่ย “ไม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ครั้งนี้ขอเพียงเจ้าเอาชนะคนข้างกายข้าสี่คนนี้ได้ เรื่องก่อนหน้านี้ข้าจะเลิกแล้วกันไป”
หลินสวินเลิกคิ้ว เขาดูออกนานแล้วว่าสี่คนที่อยู่ข้างกายเฟิงจวินหลินไม่อาจเทียบกับระดับจักรพรรดิทั่วไปจริงๆ
มีบรรพจารย์ขั้นเก้าสองคน มกุฎมหาจักรพรรดิสองคน
ขนาดชายชุดดำที่ถูกเขาตบเมื่อครู่ยังเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่ง!
“อะไรเรียกเลิกแล้วกันไป”
หลินสวินยิ้ม “ใครผิดใครถูก ข้าคร้านจะโต้เถียงกับเจ้า แต่ข้าพูดกับเจ้าตรงๆ ได้ว่าการตัดสินใจนี้ของเจ้า ก็คือการส่งให้สี่คนนี้มาตาย เจ้าจะเอาอย่างนี้จริงๆ ใช่ไหม”
คำพูดเดียวทำให้เฟิงจวินหลินหัวเราะลั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ดวงตาแนวตั้งสีม่วงมีแสงประกายน่ากลัวไหวเคลื่อน “ได้ยินหรือยัง หลิงเสวียนจื่อบอกว่าพวกเจ้าจะตาย!”
“นายน้อย ให้พวกเราจัดการเถอะ”
ชายหนุ่มชุดเขียวผมแดงก้าวออกมา แววตาเหี้ยมเกรียม “พวกเราจะให้เขาได้รู้ ว่าอย่างไรเรียกไม่ประมาณตนเอง เพ้อเจ้อไม่รู้เรื่องรู้ราว!”
หลินสวินกวาดมองเขาปราดหนึ่ง แล้วก็เบนสายตาไปมองเฟิงจวินหลิน “ไม่สู้เจ้าเข้ามาสู้ด้วยเป็นอย่างไร”
“เฮอะๆ รอเจ้าผ่านด่านพวกเราสี่คนไปได้ค่อยพูดเถอะ แต่ข้าว่าเจ้าไม่มีโอกาสแล้ว”
ขณะที่พูดชายชราชุดเทา ชายหนุ่มชุดเขียวผมแดง ชายชุดดำที่ถูกหลินสวินตบ รวมถึงหญิงสาวชุดเขียวที่ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่พูดสักคำก็เดินเรียงกันมาแล้ว
พวกเขาแยกกันยืนสี่ด้านเหมือนเป็นการปฏิบัติตามกฎที่มีมานานไม่เคยเปลี่ยน ดูเหมือนสบายๆ แต่ความจริงแล้วลึกล้ำสุดหยั่ง ไม่ใช่พวกธรรมดาอย่างแน่นอน
ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายบางๆ แล้ว
มรรควิถีของสี่คนนี้สู้เฟิงจวินหลินไม่ได้สักคน
แต่เมื่อร่วมกันเคลื่อนไหว กลับก่อเกิดรูปกระบวนลึกลับ กลิ่นอายแต่ละคนเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว!
ท่ามกลางความคลุมเครือ ถึงกับทำให้หลินสวินยังรู้สึกถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา
‘กระบวนลับร่วมโจมตีหรือ’
ในสมองหลินสวินคาดเดาได้อย่างหนึ่ง
“หลิงเสวียนจื่อ คราวนี้เจ้าตายแน่!” ชายชุดดำที่ถูกหลินสวินตบหน้าก่อนหน้านี้เอ่ยเสียงเหี้ยม แววตาร้ายกาจ
หลินสวินพลันเคลื่อนไหว เปิดฉากโจมตีอันดุดัน เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศพุ่งไปหาชายชุดดำคนนั้น
เผียะ!
ฝ่ามือหนึ่งตบลงไปอย่างหนักอีกครั้ง พลังของหลินสวินยิ่งใหญ่เพียงไหน สามารถตบให้เทือกเขาทั้งแถบเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อนได้
แต่ถึงอย่างนั้นชายชุดดำกลับแค่กระเด็นออกไป เลือดสดๆ ไหลริน หน้าถูกตบจนยับเยินเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสไปกว่านี้
หลินสวินเลิกคิ้ว สังเกตได้อย่างฉับไว ว่าพลังฝ่ามือนี้ของตนยังไม่ทันพุ่งเข้าไปในร่างของชายชุดดำจริงๆ ก็ถูกพลังพิสดารสลายหายไป
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ชายชุดดำโกรธจนแทบบ้า ก่อนหน้านี้ก็ถูกหลินสวินตบหน้าเละไปครึ่งหน้า ตอนนี้ก็ยังทำเช่นนี้ ทำเอาเขาสะบักสะบอม อับอายขายหน้า
ตูม!
พวกเขาสี่คนล้วนเคลื่อนไหว แต่ละคนเปล่งแสง ประหนึ่งมีอสนีมหามรรคทึบทึมแถบหนึ่งกำลังอาละวาด ทำให้ทุกคนต่างมีหมอกทึบทึมหนาแน่นกำบังกาย
ชั่วในขณะนี้กลิ่นอาย พลัง มรรควิถี กระทั่งพลังชีวิตของทั้งสี่คน… ราวกับควบรวมอยู่ด้วยกัน สามารถแบ่งปันชีวิต มรรควิถีหลอมรวมกัน!
อาการบาดเจ็บของชายชุดดำฟื้นตัวในทันที
เห็นดังนี้เงาร่างเฟิงจวินหลินพริบวาบออกจากบริเวณนี้ไปดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ นัยน์ตาสีม่วงมีสัญลักษณ์อันคลุมเครือเป็นปริศนาไหววูบอยู่
เขาไม่ได้ดูถูกหลินสวิน ถึงได้ไม่ยินดีเข้าสู้ด้วยตัวเอง แต่เพราะมีเป้าหมายอีกอย่าง คือต้องการหยั่งเชิงความเชี่ยวชาญในมหามรรคของหลินสวิน
“ฟัน!”
ทั้งสี่ลงมือพร้อมกันภายใต้เสียงตะคอกลั่น แสงมรรคนับไม่ถ้วนพาดผ่านฟ้าดิน กลายเป็นรุ้งเทพดุดันอันงดงามพร่างพราวสายแล้วสายเล่าฟันไปยังหลินสวิน
“สลักกระบวนไว้ในร่างหรือ…”
แววตาหลินสวินไหววูบ นี่เป็นวิชากระบวนที่พิสดารอย่างหนึ่ง สี่คนนี้ต่างครอบครองสมบัติกระบวนคนละชิ้น สามารถสร้างกระบวนค่ายกลที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดได้ ลึกลับไม่อาจคาดเดา
และสี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา บรรพจารย์ขั้นเก้าสองคน มกุฎมหาจักรพรรดิสองคน ร่วมกันวางกระบวน ต่างรวมกันเป็นร่างเดียว สำแดงกระบวนลึกลับที่ล้ำเลิศออกมา น่าสะพรึงยิ่งยวด
ตูม!
ขณะครุ่นคิด หลินสวินก็ลงมือแล้วเช่นกัน กระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง แสงมรรคทั้งตัวคับฟ้า ดุดันหาใดเทียบ เคลื่อนขวางออกไป
ทว่าเมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป หลินสวินกลับพบว่าต่อให้อานุภาพการโจมตีของอีกฝ่ายจะถูกตนสลายไปหมด แต่พลังโจมตีของตนก็ถูกอีกฝ่ายทำลายลงโดยสมบูรณ์เช่นกัน มิหนำซ้ำยังดูสบายมากด้วย!
จากการสังเกตนี้ ในที่สุดหลินสวินก็พอจะเข้าใจได้กลายๆ แล้ว
กระบวนค่ายกลที่สี่คนนี้จัดวาง สำแดงอานุภาพสี่ลักษณ์ สะท้อนหยินหยางไวเคลื่อน พลังแห่งแข็งอ่อน โคจรหมุนเวียนเป็นวัฏจักรเฉกเช่นเริ่มต้นใหม่ เกิดขึ้นไม่ว่างเว้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์