ตอนที่ 2456 กระบี่อหังการอมตะ
เฟิงจวินหลินเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างยิ่งคนหนึ่ง ไม่กลัวคนจากเผ่าจักรพรรดิอมตะอย่างเหวินเซ่าเหิง หาไม่แล้วคงไม่เข้ามาเอี่ยวเรื่องหลินสวิน หยั่งเชิงหมายจะรับหลินสวินมาเป็นบริวารของตนแต่แรก
เดิมทีเขาก็ประเมินศักยภาพแฝงของหลินสวินไว้สูงแล้ว แต่หลังจากได้เห็นพลานุภาพของหลินสวินด้วยตาตัวเอง กลับพบเรื่องหนึ่งอย่างน่าตกตะลึง
บนมกุฎมรรคา ต่อให้หลินสวินจะมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นหกเท่านั้น แต่พลังต่อสู้อันเย้ยฟ้านั้นกลับคุกคามบุคคลขอบเขตมกุฎที่มีพลังปราณสูงกว่าเขาได้!
นี่ดูน่าทึ่งนัก
ควรรู้ว่าโลกพันจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาลปานไหน มีมิติจักรวาลมากมาย แม้ระดับจักรพรรดิในแต่ละโลกจะมีน้อย ทว่าหากรวมกันก็มีจำนวนมหาศาล
แต่มกุฎมหาจักรพรรดิหายากยิ่งนัก อย่างกับขนหงส์เกล็ดกิเลน ต่างจากระดับจักรพรรดิทั่วไป
อย่างในโลกพันจักรวาล ก็มีแต่มิติฟ้าดาราชั้นยอดห้าสิบอันดับแรกถึงจะพอเห็นมกุฎมหาจักรพรรดิจำนวนมากปรากฏตัว
ในโลกมิติจักรวาลอื่นอาจจะมีมกุฎมหาจักรพรรดิอยู่บ้าง แต่โดยมากกระทั่งมกุฎมรรคาก็ยังขาดสะบั้นไปแล้ว!
สิ่งที่ทำให้เฟิงจวินหลินทึ่งก็คือ ทางเดินโบราณฟ้าดาราที่หลินสวินจากมา ตกต่ำและโรยราไปนานแล้ว ไม่มีมกุฎจักรพรรดิปรากฏตัวมานานมาก
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ มกุฎมรรคาที่หลินสวินเดินอยู่เย้ยฟ้าหาใดเทียบ ในหมู่บุคคลขอบเขตมกุฎยังเรียกได้ว่าน่ากลัว!
อย่างน้อยก่อนหน้านี้เฟิงจวินหลินก็ไม่อาจจินตนาการได้สักนิด ว่ามกุฎมหาจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่งจะมีอานุภาพเช่นนี้ได้อย่างไร
นี่แทบจะเปลี่ยนการรับรู้ของเขาไปแล้ว!
‘บนตัวเจ้าหมอนี้จะต้องมีความลับใหญ่ที่ไม่มีใครรู้แน่!’ แววตาเฟิงจวินหลินไหววูบ ตัดสินออกมาอย่างหนึ่ง
โครม!
เสียงปะทะอันน่ากลัวดังขึ้น ในสนามรบ หลินสวินโจมตีกร้าวแกร่ง แสงมรรครอบตัวพวยพุ่งทำลายการจู่โจมของมหามรรคต่างๆ
ต่อให้สี่คนนั้นต่อต้านและโต้กลับเต็มกำลัง แต่ก็ยังถูกหลินสวินซัดสะเทือนและกดข่มไม่หยุด สร้างความยากลำบากให้พวกเขาอย่างยิ่ง กลิ่นอายที่ถูกซัดโจมตีหลายครั้งยุ่งเหยิง กระอักเลือดคำใหญ่
ตูม!
หลินสวินแกว่งหมัด เกิดพายุอสนีไม่ว่างเว้น ภูผาธาราหม่นหมอง สุริยันจันทราอับแสง แทงทะลุร่างคนผู้หนึ่งในนั้น กระดูกทั้งร่างหักสะบั้น ร่างแหลกกระจุยไปครึ่งท่อน
พรวด! พรวด!
สามคนที่เหลือกระอักเลือดสดๆ ออกมา กระเด็นลอยออกไป ภาพมรรคที่มีส่งเสียงหึ่งๆ เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง แต่ละคนต่างสีหน้าซีดเผือด เต็มไปด้วยแววไม่อยากเชื่อ
“พอเท่านี้แหละ!”
ไกลออกไปเฟิงจวินหลินส่งเสียงดังก้องไปทั้งที่นั้น
ใครจะคิดว่าหลินสวินจะไม่สนใจสักนิด ยื่นมือออกมาคว้า
เกิดเสียงดังตูม!
ทันใดนั้นภาพมรรคจตุลักษณ์ที่สี่คนนั้นถือไว้กระเด็นหลุดมือไป ถูกหลินสวินรับไว้กลางอากาศ
“หยุดนะ!”
เฟิงจวินหลินลงมือ ทันทีที่เข้ามาก็สำแดงอานุภาพคับฟ้า มือใหญ่มือหนึ่งปกคลุมเวิ้งฟ้า กดข่มลงมาโดยพลัน หมายจะยับยั้งไม่ให้หลินสวินชิงสมบัติไป
หลินสวินไม่แม้แต่จะมอง ชกหมัดออกไปทันที บดขยี้ทำลายล้างมือใหญ่นั่นอย่างจัง ราวกับหุบเหวกลืนเวิ้งฟ้า
ถือโอกาสนี้เงาร่างหลินสวินไหววูบ ถอยออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว เอ่ยเสียงเรียบว่า “ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าก็เมตตามากพอแล้ว สมบัติสี่อย่างนี้ให้เป็นของชดเชยข้าก็แล้วกัน”
ขณะที่พูดหลินสวินก็เก็บภาพมรรคสี่ภาพนั้นเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
เฟิงจวินหลินสีหน้าอึมครึม แววตาราวกับสายฟ้าสีม่วงไหลหลั่ง น่าสะพรึงกลัวหาใดเทียบ เอ่ยว่า “อยากได้สมบัติหรือ ได้ ขอแค่เจ้ารับการโจมตีของข้าได้!”
ศีรษะเขาสวมเกี้ยวประดับม่วงทอง เอวคาดเข็มขัดหยกขาว องอาจเกินธรรมดา แสงมรรคอบอวล ยามกะพริบตาวาบประกายแสงเทพสีม่วงเฉียบคมสองสาย
ตูม!
เขายื่นฝ่ามือเรียวยาวขาวสะอาดออกมา พาดขวางกลางห้วงอากาศ
ทันใดนั้นสายฟ้าสีม่วงเต็มฟ้าก็ถาโถมลงมาราวกับกระแสน้ำคับฟ้า แสงม่วงพลุ่งพล่าน อสนีบ้าคลั่ง ฝังกลบหลินสวินอย่างกับมหาสมุทรอสนี
ศึกใหญ่ปะทุขึ้นในชั่วพริบตา!
เพียงการโจมตีเดียวก็ทำให้หลินสวินรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของเฟิงจวินหลิน ไม่ใช่พวกทั่วๆ ไปจริงๆ วิชามรรคและอานุภาพเช่นนั้นโดดเด่นทั้งในอดีตและปัจจุบัน!
หลินสวินไม่กล้าเลินเล่อ ออกโจมตีเต็มกำลัง นิ้วมือดุจสายฟ้า สำแดงนัยเร้นลับของหมื่นกระบี่คืนหนึ่ง
ตูม!
มหาสมุทรอสนีสีม่วงเต็มฟ้าถูกกระบี่เดียวฟันออกเป็นสองส่วน
ราวกับหนึ่งกระบี่แบ่งสมุทร!
“โลกหล้าโคจร ว่างเปล่าไร้สิ่งใด”
ท่ามกลางเสียงต่ำลึกเปี่ยมด้วยความน่าเกรงขาม นัยน์ตาของเฟิงจวินหลินกลายเป็นต้นกำเนิดแสงสีม่วง ตัวเขาสูงใหญ่องอาจ ยืนตระหง่านอยู่กลางฟ้าสูง
จักระสีม่วงวงหนึ่งควบรวม บนนั้นปรากฏภาพโลกาเปลี่ยนผัน วังวนดับสูญ ฟันออกไปทันที
เสียงดังสนั่นไม่ขาดหู ฟ้าดินยังถูกย้อมเป็นสีม่วงอันล้ำลึกพิสดาร
ชั่วพริบตานี้หลินสวินเหมือนจมสู่กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ถูกพลังมายาทลายน่าพรั่นพรึงลอบโจมตี คล้ายจะกลบฝังเขาให้จมลงสู่ความดับสูญ!
‘พลังแห่งกาลเวลาหรือ ไม่ใช่! นี่เป็นพลังมายาทลาย จริงเท็จร่วมธำรง มายากลายเป็นจริง…’
หลินสวินก็เผยสีหน้าจริงจังอย่างอดไม่ได้
กาลเวลาเป็นมหามรรคชั้นเลิศและเร้นลับที่สุดอย่างหนึ่ง แม้เฟิงจวินหลินจะไม่เคยสัมผัสมรรคนี้ แต่กลับใช้พลังมหามรรคของตัวเองแปลงเป็นอานุภาพยิ่งใหญ่อย่างความเป็นไปในโลก กาลเวลาดับสลายได้
จากสิ่งนี้ก็เห็นแล้วว่ามรรควิถีของคนผู้นี้น่ากลัวปานไหน!
หลินสวินไม่กล้าเลินเล่อ
ตูม!
เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมด ประหนึ่งหุบเหวพาดกลางอากาศ ละม้ายเตาหลอมกำราบโลก สำแดงมรรคที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ดุจหุบเหวดั่งนรก เคลื่อนกวาดสิบทิศอย่างกราดเกรี้ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์