เรื่องที่เกิดขึ้นนอกประตูเมือง หลินสวินไม่รู้สักนิด
ต่อให้รู้ ก็เกรงว่าจะมีแต่ลอบร้องดีใจกับตัวเองว่าโชคดีที่ออกมาทันเวลา หาไม่…
จินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ!
“นกกระจอกเขียว รีบบอกข้าว่าจะออกจากด่านนภาอมตะที่สามนี่ได้อย่างไร ถ้าสามารถใช้เงินจัดการได้ล้วนไม่ใช่ปัญหา” หลินสวินรีบซักถาม
ตั้งแต่นกกระจอกเขียวได้รับสมบัติที่มีคุณสมบัติวัตถุอมตะกองพะเนิน ท่าทีที่ปฏิบัติต่อหลินสวินก็ยิ่งใส่ใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ให้คำชี้แนะทันทีโดยหยุดคิด
ผลลัพธ์คือ ในวันนั้นหลินสวินควักยี่สิบล้านผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งออกมา และได้ป้ายยืนยันผ่านการทดสอบทันที จากนั้นก็ออกไปในวันนั้นเลย!
มีเงินสามารถสั่งผีโม่หินได้ คำคนโบราณไม่หลอกลวงจริงๆ
ต่อให้อยู่ในแดนใหญ่พันศึกนี้ก็ยังใช้การได้เหมือนกัน แค่ขึ้นอยู่กับว่าสามารถจ่ายราคาที่ระดับจักรพรรดิทั่วไปไม่สามารถรับได้ไหวหรือไม่เท่านั้นแล้ว
ยามเมื่อตู๋กูโยวหรันได้รู้ข่าวนี้ ก็ทั้งโกรธทั้งขันอย่างอดไม่ได้
“เจ้าหมอนี่เห็นข้าเป็นเทพแห่งโรคระบาดจริงๆ หรือ”
ตู๋กูโยวหรันชักคันยุบยิบในใจขึ้นมาบ้าง
ยามอยู่โลกยอดนิรันดร์ เพราะนางรับเรื่องแต่งงานสารพัดรูปแบบที่ผู้อาวุโสตระกูลจัดแจงให้ไม่ได้ ดังนั้นจึงอ้างเหตุผลว่าจะเดินทางท่องโลกมาบังหน้า วิ่งมาผ่อนคลายจิตใจที่แดนใหญ่พันศึกแห่งนี้
แต่คิดไม่ถึงสักนิดว่าแม้จะมาถึงแดนใหญ่พันศึก ก็ยังมีฝูงภมรตอมบุปผามากมายคอยไล่ตามมาอีก
อย่างเผิงเทียนเสียง จู้หลิน หรงเซียงหลี รวมถึงบุคคลโดดเด่นทั้งกลุ่มที่เวลานี้ไล่ตามอยู่ข้างกายตนตลอดทาง ใครบ้างไม่เป็นเช่นนี้
นี่ทำให้นางหงุดหงิดแล้วหงุดหงิดอีก
ทว่าตู๋กูโยวหรันคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่ามีเพียงหลิงเสวียนจื่อนั่นที่มองตนเป็นสัตว์ร้ายภัยพิบัติ ไม่อยากอยู่กับตนแม้แต่เพียงหนึ่งเค่อ ราวกับว่าตนจะแล่เนื้อเขามากินสดๆ อย่างไรอย่างนั้น
ทำให้ตู๋กูโยวหรันที่ถูกหมู่ดาราห้อมล้อม ถูกผู้อาวุโสตระกูลรักใคร่ตามใจตั้งแต่เล็กจนโต ได้สัมผัสรสชาติเช่นนี้เป็นครั้งแรก
นางฉลาดหลักแหลม ย่อมรู้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ คลายสายเบ็ดตกปลาใหญ่พวกนี้เป็นธรรมดา
ก่อนหน้านี้ก็มีคนไล่ตามเกี้ยวนางเช่นนี้ไม่ขาด ทว่ากลอุบายเช่นนี้ทำให้นางแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างสิ้นเชิง
มีเพียงหลินสวินที่มองนางเป็นตัวหายนะอย่างแท้จริงและไม่ปิดบังสักนิด นี่ทำให้นางทั้งฉุนทั้งขัน
บนโลกใบนี้ยังมีคนเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร
เขาไม่รู้เชียวหรือว่าตนแค่เอ่ยง่ายๆ ประโยคเดียว ก็สามารถทำให้เขาไม่ต้องพบเจออันตรายใดๆ ก็สามารถไปถึงโลกยอดนิรันดร์ได้ตรงๆ
“ซ้ำยังจ่ายยี่สิบล้านผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่ง ใช้จ่ายมือเติบเช่นนี้เพื่อจะหลบเลี่ยงข้า เจ้าหมอนี่… ช่าง… มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!”
ตู๋กูโยวหรันลอบพึมพำกับตัวเอง
“คุณหนูโยวหรัน ในเมื่อผู้มีพระคุณคนนั้นของเจ้าจากไปแล้วก็ไม่ต้องคิดมากเพราะเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ดูท่าเขาต้องมีเรื่องด่วนถึงได้จากไปเป็นแน่”
ชายหนุ่มที่บังคับรถศึกเข้ามาก่อนหน้านี้ยิ้มพลางเอ่ยปาก
เขาสวมชุดเกราะสีทอง ท่วงท่าองอาจทรงพลัง สง่าผ่าเผยไร้เทียมทาน เขาเองก็เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่ง ซ้ำที่มายังไม่ธรรมดา
จากฐานะของเขา ต่อให้เป็นเจ้าเมืองนี้ก็ยังต้องเคารพสามส่วน
แต่เวลานี้ตู๋กูโยวหรันกลับกล่าวอย่างหมดความอดทน “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขามีเรื่องด่วน เรื่องของข้า พวกเจ้าไม่ต้องมาเป็นห่วง!”
ทุกคนมองหน้าสบตากัน ต่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตู๋กูโยวหรันถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้
“เผิงเทียนเสียง เจ้าตามข้ามา ไปตามเจ้าหมอนั่น ในเมื่อเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า จะให้ข้าติดหนี้น้ำใจคนไม่ตอบแทนได้อย่างไร ข้าละอยากเห็นนักว่าเขาจะไปหลบที่ไหนได้!”
ตู๋กูโยวหรันตัดสินใจ
เผิงเทียนเสียงพยักหน้าหงึกๆ จิตใจไหวกระเพื่อม
ต่อให้ท่าทีที่ตู๋กูโยวหรันปฏิบัติต่อเขาจะยังไม่ถึงขั้นดีมากดังเดิม ทว่า… ก็เด่นกว่าคนอื่นอยู่ดีนั่นแหละ!
หาไม่ เหตุใดนางไม่เรียกคนอื่นให้ร่วมเดินทาง เรียกแต่ตนคนเดียวเล่า
เมื่อมองส่งตู๋กูโยวหรันและเผิงเทียนเสียงจากไป บุคคลกร้าวแกร่งซึ่งที่มาล้วนแล้วไม่ธรรมดาสุดขีดเหล่านั้นต่างอดขมวดคิ้วไม่ได้
“จินตู๋อี? เจ้าหมอนี่เป็นใคร เหตุใดถึงทำให้โยวหรันใส่ใจเช่นนี้”
มีคนกังขา
“อันตรายแล้ว โยวหรันคงไม่ได้ถูกใจคนผู้นี้แล้วกระมัง”
มีคนสีหน้าอึมครึม
“เฮอะ แค่พวกที่มาจากโลกพันจักรวาลคนหนึ่ง มีหรือจะต้องตาโยวหรันได้ จากความเห็นข้า โยวหรันแค่ไม่อยากติดหนี้น้ำใจใครก็เท่านั้น”
มีคนเยาะหยัน
“จินตู๋อี… ไม่ว่าสาเหตุอะไร ในเมื่อทำให้โยวหรันใส่ใจเช่นนี้ คนผู้นี้ย่อมต้องกำจัดทิ้ง!”
มีคนแววตาวาบไอสังหาร
นี่ก็คืออานุภาพของตู๋กูโยวหรัน คนทั่วไปไหนเลยจะทนรับความเคียดแค้นที่มาจากเหล่าคนที่คอยเทียวไล้เทียวขื่อข้างกายนางเหล่านั้นได้
ยังดีที่หลินสวินออกไปแต่เนิ่นๆ หาไม่ เกรงว่าจะก่อให้เกิดคลื่นลมลูกใหญ่ขึ้นมาอีกเป็นแน่
…
เวลาดุจกระสวยบิน ผันผ่านอย่างรวดเร็ว
หลินสวินมุ่งหน้าเพียงลำพัง ผ่านสนามรบที่อันตรายรอบด้าน ทะยานข้ามฟ้าดาราเงียบเชียบที่แปลกพิสดารและอัปมงคล
สู้ศึกตลอดทาง
นองเลือดตลอดทาง
ไม่มีตัวปัญหาที่เกาะหนึบอย่างตู๋กูโยวหรันแล้ว ก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายไร้สาระหลั่งไหลมาเยือน
จู่ๆ หลินสวินก็รู้สึกชอบการเดินทางคนเดียว เดินเหินเพียงลำพังเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว
ชิงชัยในเส้นทางจักรพรรดิ สัญจรเพียงลำพังในมหามรรค
หนทางแห่งการฝึกปราณ เดิมก็เป็นขั้นตอนของการเสาะหาการเปลี่ยนแปลงแห่งตนอยู่แล้ว เต็มไปด้วยคลื่นลม และย่อมไม่มีทางคลื่นลมสงบสบายไปตลอดอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์