ตอนที่ 2482 เคราะห์หนักมาเยือนในที่สุด
“เอ๋ ลำดับของหลิงเสวียนจื่อนี่ถึงกับเลื่อนขึ้นมาช่วงใหญ่ในคราวเดียว หนำซ้ำฐานะเดิมของเขายังเป็นหลินสวิน นี่เป็นใครอีก พวกร้ายกาจจากทางเดินโบราณฟ้าดาราหรือ”
เผิงเทียนเสียงไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติเหล่านี้แม้แต่น้อย เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจินตู๋อีที่ถูกเขายกให้เป็นพี่น้องคนสนิท ก็คือหลินสวินที่อยู่ลำดับสามในประกาศจับนั่น
เขาเห็นเพียงสายตาของตู๋กูโยวหรันถูกชื่อนี้ดึงดูด
“นี่เป็นจอมสารเลวคนหนึ่ง เป็นคนหลอกลวง” ตู๋กูโยวหรันยิ้มพลางวิจารณ์
พอเห็นว่านางยิ้ม เผิงเทียนเสียงก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า นึกถึงคำกำชับของอาสามเผิงเชียนเหอขึ้นมา คิดในสิ่งที่นางคิด ห่วงในสิ่งที่นางห่วง ลมวสันต์กลายเป็นสายฝน รินรดชุ่มฉ่ำอย่างเงียบงัน…
เขาพลันกล่าว “โยวหรัน ในเมื่อเจ้าชิงชังคนผู้นี้ขนาดนี้ ไม่สู้ข้าใช้ชื่อของตระกูลเผิงออกประกาศจับคนผู้นี้ดีหรือไม่ เอ๋ โยวหรันเจ้าเป็นอะไรไป รอข้าด้วย…”
พูดยังไม่ทันจบก็เห็นตู๋กูโยวหรันปั้นหน้าทะมึนเดินเข้าไปในประตูเมืองแล้ว นี่ทำให้เผิงเทียนเสียงอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา นี่มันอะไรกันเนี่ย
ผู้หญิงจะเปลี่ยนสีหน้าเร็วเกินไปแล้วกระมัง
…
เมืองของด่านนภาอมตะที่สามสิบหก
นี่เป็นเมืองที่ปกครองโดยขุมอำนาจตระกูลลั่ว
ภายในจวนเจ้าเมืองเวลานี้
หญิงสาวงดงามที่ท่าทางอ้อนแอ้น คิ้วตาดุจภาพวาดคนหนึ่งเอ่ยเสียงกระจ่างใส เจือแววหยิ่งผยอง
“ท่านอาห้า เมื่อหลายปีก่อนเรื่องตั้งรางวัลประกาศจับผู้แข็งแกร่งทางเดินโบราณฟ้าดาราก็เป็นข้ารับผิดชอบมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็เป็นข้าคนแรกที่มองทะลุตัวตนของหลินสวินผู้นี้ ดังนั้นเรื่องนี้ย่อมต้องให้ข้ามาจัดการ”
เนตรงามของนางเฉยชา ท่วงท่าสง่าผ่าเผย เป็นลั่วหลิงที่เหมือนไข่มุกในมือที่เด่นสะดุดตาที่สุดในตระกูลลั่ว รูปงดงามสะท้านยุค พรสวรรค์โดดเด่นคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็เพราะหญิงผู้นี้ เหวินเซ่าเหิงถึงวิ่งวุ่นหมายจะจับตัวหลินสวินโดยไม่เสียดายค่าตอบแทน เพียงเพราะอยากได้ใจสาวงาม
ในโถงใหญ่ ผู้ฝึกปราณของตระกูลลั่วทั้งหมดนั่งอยู่
ผู้นำคือลั่วอวิ๋นเฟิงเจ้าเมืองนี้ เป็นบรรพจารย์จักรพรรดิที่มรรควิถีลึกล้ำสุดหยั่งคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นอาห้าของลั่วหลิง
“อาหก อาเจ็ด และอาเก้าของเจ้าล้วนร่วงหล่นอยู่ในทางเดินโบราณฟ้าดารา”
“ในนั้น อาเก้าของเจ้าถูกจักรพรรดิสงครามยุทธ์ศิษย์คนโตของคีรีดวงกมลสังหาร”
“อาเจ็ดของเจ้าจบชีวิตในแดนหงส์เซียน”
“อาหกของเจ้าตายในแหล่งสถานคุนหลุน ลือกันว่าถูกจ้งชิวศิษย์คนรองของคีรีดวงกมลสังหาร”
บนที่นั่งประธาน ลั่วอวิ๋นเฟิงสีหน้าเย็นเยียบ กล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าความสูญเสียเหล่านี้หนักหนาแค่ไหน ในน่านฟ้าชั้นที่หกในปัจจุบัน มีขุมอำนาจใหญ่มากมายร้องโวยวาย หมายจะขับไล่ตระกูลลั่วของพวกเราไปอยู่น่านฟ้าชั้นที่ห้า!”
หว่างคิ้วของเขาผุดแววอำมหิตดุดัน สีหน้ามืดทะมึน “เมื่อแรกเริ่มตระกูลลั่วของพวกเราเป็นถึงเผ่าจักรพรรดิแข็งแกร่งที่ตั้งอาณาเขตในน่านฟ้าชั้นที่เจ็ด! สามารถไปท้าทายพวก ‘สิบยักษ์ใหญ่อมตะ’ ในน่านฟ้าชั้นที่แปดได้!”
โถงใหญ่เงียบสงัด มีเพียงเสียงของลั่วอวิ๋นเฟิงดังก้องสะท้อน
ผู้ฝึกปราณตระกูลลั่วทั้งหมดสีหน้าล้วนปรากฏแววอึมครึม วูบไหวไม่นิ่ง
ลั่วหลิงกล่าวเสียงต่ำลึก “ข้าทราบ นี่เป็นเพราะพลังพรสวรรค์ชั้นสูงที่สุดของตระกูลเราขาดการสืบทอด จึงตกต่ำถึงขั้นนี้”
“ดังนั้นข้าถึงได้ตัดสินใจไปจัดการหลินสวินนี่ด้วยตนเอง ขอเพียงจับเขาได้ ตระกูลเราก็จะมีโอกาสผงาดขึ้นอีกครั้ง คืนสู่ความรุ่งเรืองอย่างที่ผ่านมาได้!”
ลั่วอวิ๋นเฟิงกล่าวแค่นเสียงเย็น “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าอาศัยแค่พลังที่เจ้าครอบครอง จะสามารถทำได้ถึงขั้นนี้หรือ”
ไม่รอให้เอ่ยตอบ เขาก็โยนประโยคหนึ่งลงมาอย่างเยียบเย็น
“เขาเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมล”
“ตอนนี้เขาเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ด อีกทั้งยามเข้าสู่เมืองตั้งต้นก็เปิดฉากสังหารครั้งใหญ่ ในการต่อสู้ประจันหน้าก็สามารถสังหารบรรพจารย์มรรคอย่างเหิงเทียนซั่วให้ตายได้!”
“ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ตัวเขายังมีพรสวรรค์แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเราอยู่ อีกทั้งเป็นไปได้สูงว่าอาจปลุกพลังพรสวรรค์ขั้นที่สองได้แล้วด้วย!”
กล่าวถึงตอนท้าย ในใจลั่วอวิ๋นเฟิงก็อดเกิดความริษยายิ่งยวดขึ้นมาไม่ได้
หุบเหวกลืนกิน!
นี่เป็นจุดบอกช้ำในอกของผู้อาวุโสตระกูลลั่วทั้งหมดชัดๆ
ย้อนนึกถึงคราแรกสุด เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์อาศัยพรสวรรค์นี้สร้างรากฐานอันมั่นคงให้ตระกูลลั่วได้ในคราเดียว อานุภาพทั้งตระกูลสะเทือนน่านฟ้าชั้นที่เจ็ด กดข่มจนตระกูลใหญ่ที่ครอบครองระเบียบระดับสวรรค์ไม่รู้เท่าไหร่ล้วนก้มหัว!
บารมีระดับนี้ เป็นหนึ่งไม่มีสอง!
แม้จะเป็นขุมอำนาจอย่างสิบยักษ์ใหญ่อมตะจากน่านฟ้าชั้นที่แปด ยังไม่ถูกเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เห็นอยู่ในสายตา ความอหังการระดับนั้น จนบัดนี้ยังคงสะท้อนอยู่ในน่านฟ้าชั้นที่แปด
แต่ปัจจุบันเล่า…
เมื่อเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์หายตัวไปอย่างประหลาด และพรสวรรค์สายเลือดหุบเหวกลืนกินขาดการสืบทอด ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนไป
จนบัดนี้รากฐานของทั้งตระกูลลั่วในน่านฟ้าชั้นที่หก ถึงขั้นส่อแววสั่นคลอนแล้ว!
ความแตกต่างนี้ใหญ่โตเกินไป ผู้อาวุโสตระกูลลั่วอย่างลั่วอวิ๋นเฟิง ใครบ้างจะไม่โกรธแค้น
ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั่นขาดการสืบทอด!
และตอนนี้ พรสวรรค์ระดับนี้กลับไปโผล่อยู่บนตัวเจ้าหนุ่มที่ไม่ได้แซ่ลั่วคนหนึ่ง นี่ทำให้ลั่วอวิ๋นเฟิงริษยาแค้นเคืองเป็นล้นพ้น ที่มีมากกว่าก็คือความเดือดดาล
“ตอนนี้เจ้าบอกข้ามา ว่าเจ้าจะเอาอะไรไปจับเป็นเศษสวะนั่น” ลั่วอวิ๋นเฟิงสายตาอึมครึม จ้องมองลั่วหลิง
สายตาทั้งหมดในโถงใหญ่ล้วนมองทางลั่วหลิงเช่นกัน
“ข้าเองก็มีความสามารถในการสร้างภัยคุกคามถึงชีวิตให้บรรพจารย์จักรพรรดิเหมือนกัน”
ลั่วหลิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง นางสูดลมหายใจลึกแล้วกล่าวว่า “อีกอย่าง ข้ายังสามารถร่วมมือกับกองกำลังตระกูลเหิง ตระกูลเหวิน ไปจัดการคนผู้นี้ได้”
ลั่วอวิ๋นเฟิงขำพรืดออกมา “หลิงเอ๋อร์ สุดท้ายเจ้าก็ยังไม่เข้าใจว่าหุบเหวกลืนกินมีความหมายอย่างไร นั่นเป็นถึงพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเรา เป็นพลังที่สามารถคุกคามขุมอำนาจใหญ่ในน่านฟ้าชั้นที่เจ็ดเหล่านั้นได้! จำไว้ อย่าดูเบาพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งแต่เดิมเป็นของตระกูลเราอีกเด็ดขาด!”
กล่าวถึงตอนท้าย เขาเน้นย้ำทุกคำ ทรงพลังกังวาน เจือกลิ่นอายกดข่มอันยิ่งใหญ่
ลั่วหลิงนิ่งเงียบยิ่งขึ้น เนิ่นนานกว่าจะเอ่ยว่า “ต่อให้ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยชีวิต ข้าก็จะจับเป็นคนผู้นี้ให้จงได้!”
กล่าวเสร็จนางหยัดกายลุกขึ้นและเดินออกไปนอกโถงใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์