เตาหลอมคำราม ประกายแสงสว่างโรจน์
หลินสวินยิ่งเคร่งขรึมสงบนิ่งมากขึ้น ไม่ขยับเขยื้อน พอได้นั่งก็นานเป็นหลายวัน
จนกระทั่งต่อมา นัยเร้นลับมหามรรคมากมายล้วนหลอมผสานอยู่ภายในเตาหลอม แปลงเป็นนัยเร้นลับแรกกำเนิดที่ตกตะกอนอย่างหนึ่ง และกลายเป็นสารบำรุงหล่อเลี้ยงคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค
เมื่อก่อน คือหลอมบำรุงร้อยคัมภีร์
แต่ตอนนี้ เป็นหล่อหลอมร้อยคัมภีร์ หลังจากผสานรวมกันสมบูรณ์แล้วก็หลอมรวมเป็น ‘หนึ่ง’ กลายเป็นคัมภีร์จักรพรรดิที่รังสรรค์ขึ้นโดยตัวหลินสวินเอง
สืบเนื่องต่อไป!
เสียงท่องคัมภีร์ เสียงมรรค และเสียงสวดมนต์เป็นระลอกๆ นั่นเลือนหายไปทั้งหมด ประกายแสงลู่หุบ ทุกสิ่งล้วนสงบเงียบ
‘ห้าระดับล่าง แบ่งได้เป็นหนึ่งฉบับ นามว่า ‘บทก่อมรรค’’
‘ระดับราชันอมตะเคราะห์เก้าขั้น แบ่งได้เป็นหนึ่งฉบับ นามว่า ‘บทยืนยง’’
‘ความลับแห่งระดับอริยะ แบ่งได้เป็นหนึ่งฉบับ นามว่า ‘บทอริยมรรค’’
‘ระหว่างระดับกึ่งจักรพรรดิ คือกุญแจสำคัญที่เชื่อมสู่ระดับจักรพรรดิ สามารถแบ่งออกเป็นฉบับเดียวแยกต่างหาก นามว่า ‘บทแจ้งจักรพรรดิ’’
‘ระดับจักรพรรดิเก้าขั้น หนึ่งขั้นเปรียบดั่งหนึ่งปราการสวรรค์ นามว่า ‘บทเส้นทางจักรพรรดิ’’
‘น่าเสียดาย เส้นทางแห่งมรรคจักรพรรดิยังขาดสองขั้นพลังอย่างขั้นผสานมรรคและย้อนบรรพ์…’
หลินสวินใคร่ครวญในใจ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาหลอมพลังมรดกทุกรูปแบบ ก็ขาดเพียงนัยเร้นลับและการหยั่งรู้ในระดับจักรพรรดิขั้นแปดและเก้าเท่านั้น
ยังผลให้ถึงแม้เขาจะหลอมและพัฒนาคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคถึงขีดสุดแล้ว แต่กลับไม่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบตามความหมายแท้จริงได้
เพราะบทเส้นทางจักรพรรดิ ยังขาดสองขั้นพลังมาเติมเต็มให้สมบูรณ์
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ การหลอมคัมภีร์มรรคครั้งนี้ก็ทำให้หลินสวินได้ผลประโยชน์มากมาย แม้ปราณจะไม่ได้ทะลวงขั้น แต่มรรควิถีในกายล้วนได้รับการผสานรวมอย่างเต็มสมบูรณ์
การสรรสร้างคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค เปรียบดั่งการผสานรวมของมรรคและวิชาทั้งหมดของเขา ทำให้ความเข้าใจที่เขามีต่อมรรคและวิชาทั้งมวลได้รับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาก้าวกระโดดชนิดหาได้ยาก
สวบ!
บนหินเขียว หลินสวินลืมตาขึ้น
ปราณที่แห้งเหือดและอาการบาดเจ็บสาหัสที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ ขณะนี้ได้รับการฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้ว อยู่ในสภาพเต็มสมบูรณ์สูงสุด
สิ่งเดียวที่น่าหงุดหงิดคือ ในอวัยะตันห้า กายมรรคทั้งห้าถูกทำลายสิ้นในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เหลือเพียงพลังต้นกำเนิดของแต่ละร่างเท่านั้น
หากต้องการคืนรูปร่างโดยสมบูรณ์ ยังไม่รู้ว่าต้องเสียเวลาอีกนานเท่าไหร่
และนี่ก็หมายความว่า อย่างน้อยในช่วงสั้นๆ กายมรรคทั้งห้าก็ไม่สามารถใช้การได้
แต่หลินสวินไม่กังวลอะไรนัก ถึงขั้นตั้งใจจะอาศัยจุดเปลี่ยนนี้หลอมกายมรรคทั้งห้าขึ้นใหม่อีกครั้ง
ดังคำกล่าวที่ว่าหากไม่พังย่อมไม่อาจสร้าง ต้องพังก่อนจึงจะสร้างใหม่ได้
หลินสวินอดตั้งตาคอยไม่ได้ หากใช้นัยเร้นลับของคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคในการหลอมสร้างกายมรรคทั้งห้าใหม่อีกครั้งตั้งแต่แรก ภายหน้าจะมีอานุภาพยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน
สวบ!
ทันใดนั้นกลางหมอกเซียนไกลๆ มีประกายสีขาวสว่างวาบ เป็นตำราหยกศุภโชคลึกลับเล่มนั้นนั่นเอง เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ได้หนีไปไหน หากแต่ลอยตัวอยู่ตรงนั้น ราวกับกำลังจ้องมองหลินสวิน
หลินสวินใจกระตุกวูบ นั่งมองดูตำราหยกศุภโชคเล่มนี้อยู่บนหินเขียว
วู้ม…
ไม่นานนัก ตำราหยกศุภโชคก็พลันส่งเสียงดังวู้มเบาๆ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ในห้องโถงมรรคาสวรรค์ที่อยู่ในห้วงจิตของหลินสวิน ขนนกสีขาวหิมะที่ประดุจห้วงมายาเส้นหนึ่งก็ปรากฏออกมา
มันมีขนาดราวฝ่ามือทารก เหมือนสร้างขึ้นมาจากหมอกทึบแสงเซียนเป็นสายๆ บริสุทธิ์หมดจด แผ่กลิ่นอายเร้นลับสายหนึ่ง
นี่คือขนนกลึกลับที่เหลือทิ้งไว้หลังจากสังหารจิตวิญญาณของเหวยหมิงจื่อใน ‘ดินแดนลี้ลับแห่งสมรภูมิร้อยศึก’ ด่านที่สามของทางเดินเมฆาหยกในปีนั้น
หลายปีนี้ตั้งแต่วัยเยาว์จนปัจจุบัน เป็นครั้งแรกที่ขนนกลึกลับนี้ปรากฏออกมา!
ฟุ่บ!
ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง ฉับพลันนั้นขนนกสีขาวหิมะนี้ก็พุ่งออกจากห้วงจิตของเขา แปลงเป็นสัญลักษณ์แปลกประหลาด ผสานเข้าสู่ตำราหยกศุภโชคที่อยู่ไกลๆ เล่มนั้น
ฮูม…
ละอองแสงแถบหนึ่งไอบอวลออกมาจากตำราหยกศุภโชค ราวกับตามหาหัวใจของตนกลับคืนมาได้ เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่เอี่ยม
ท่ามกลางความเลือนราง มีภาพกฎเกณฑ์มรรคเซียนลึกลับปรากฏเป็นฉากๆ วาดเค้าโครงเป็นภาพโลกมรรคเซียนไพศาลใบหนึ่ง กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ในนั้น มีราชันเซียนที่แกร่งจนสามารถเหยียดหยัดโลกหล้าควบคุมดูแล มีเทพมารโบราณเหินเคลื่อนจักรวาล โลดโผนอวดศักดา…
ผ่านไปเนิ่นนานภาพทั้งหมดนี้จึงอันตรธานหายไปจนสิ้น
เมื่อมองตำราหยกศุภโชคนั่นอีกครั้ง มันโปร่งแสงแวววาว แสงเงาลึกลับไหลเวียน เทียบกับเมื่อครู่แล้วมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ดูวิเศษเหนือธรรมดา
หลินสวินยื่นมือไปคว้าตามจิตใต้สำนึก ตำราหยกศุภโชคนี้ก็แปลงเป็นแสงขาวสายหนึ่งร่วงลงกลางฝ่ามือเขา เปล่งแสงแวววาว โอนอ่อนผ่อนตามสุดจะเปรียบ ไม่มีการต่อต้านแต่อย่างใด
ตูม!
ขณะเดียวกันหลินสวินรู้สึกเพียงว่ากระแสน้ำมหึมาไหลทะลักออกมาจากตำราหยกศุภโชค กลายเป็นพลังแห่งความทรงจำอย่างหนึ่งและถูกรับรู้
นี่คือความทรงจำของตำราหยกศุภโชคหลังจากยุคสมัยล่มสลาย
บนซากปรักหักพังแถบหนึ่ง เหวยหมิงจื่อมือถือตำราหยกศุภโชค กล่าวเสียงเย็นเยียบ ‘ทั้งสำนักเซียนยอดยุทธ์ล้วนตายกันหมด มีเพียงมารในบ่อผนึกมารนั่นที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ช่างตลกร้ายยิ่งจริงๆ!’
ไม่ไกลนักเป็นบ่อน้ำโบราณบ่อหนึ่ง พยับหมอกเร้นลับพวยพุ่ง ท่ามกลางความเลือนรางมีเสียงคำรามปานเทพมารดังออกมาจากก้นบ่อน้ำโบราณ พาให้คนสยดสยอง
และด้านข้างบ่อน้ำโบราณมีกระบี่เล่มหนึ่งปักเฉียงอยู่ ตัวกระบี่อาบเลือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์