Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2593

ตอนที่ 2593 ระเบียบสีเขียว

เจ้าสำนักเรียนเชิญหรือ

เนี่ยชิงหรงและเหลิ่งชิงเสวี่ยสบตากันปราดหนึ่ง ล้วนเสียวใจวาบ สังหรณ์ได้ถึงความไม่เข้าที

“หย่งเฟยตู้ ข้าขอถามเจ้า อาจารย์ของเจ้าเหนียนอวิ๋นจิ่งตอนนี้เป็นหรือตายกันแน่” เนี่ยชิงหรงแววตาเย็นชา

ชายหนุ่มมาดงามสง่าคนนั้นก็คือหย่งเฟยตู้ หนึ่งในรองเจ้าสำนักสำนักศึกษาสองลักษณ์ เมื่อได้ยินก็อดกล่าวกลั้วหัวเราะไม่ได้ “เรื่องนี้เดี๋ยวเจ้าไปถามเจ้าสำนักก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ”

ดวงตาเขากวาดมองรูปร่างสะโอดสะองของเนี่ยชิงหรงอย่างแนบเนียน ในใจเร่าร้อนระลอกหนึ่ง

ว่าตามหลักแล้ว ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้สามารถตัดกิเลสตัณหาได้นานแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเนี่ยชิงหรง เขากลับควบคุมความปรารถนาอันบ้าคลั่งของตัวเองได้น้อยครั้งยิ่ง

สำหรับคนระดับเขา เคยพบหญิงงามเลิศล้ำในโลกนี้จนชินนานแล้ว แต่คนที่เข้าตาเขาจริงๆ ก็มีเพียงหญิงงามที่ระดับพลังเหมือนกันกับเขาเท่านั้น

ไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่มรรควิถีระดับบรรพจารย์ของเนี่ยชิงหรงก็สามารถทำให้เขาเกิดความปรารถนาแรงกล้าได้แล้ว ยิ่งกว่านั้นเนี่ยชิงหรงยังเป็นยอดสตรีแห่งยุค นี่ยิ่งตอกย้ำความคิดอันมิควรบางอย่างของหย่งเฟยตู้

หากเป็นเมื่อก่อนเขาไม่กล้าเพ้อฝันเช่นนี้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้…

ไม่เหมือนเดิมแล้ว!

แม้แววตาหย่งเฟยตู้จะไม่ทิ้งร่องรอย แต่ยังคงถูกเนี่ยชิงหรงเห็นอยู่ในสายตา ในใจผุดความชิงชังอย่างบอกไม่ถูก กล่าวว่า “ใต้เท้าเหนียนอวิ๋นจิ่งเป็นอาจารย์ของเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ทุกข์ร้อน ไม่กลัวว่าภายหน้าจะถูกกรรมตามสนองบ้างหรือ”

หย่งเฟยตู้ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยว่า “กรรมตามสนองอะไรกัน ข้าไม่สนใจสักนิด เจ้าสำนักยังรออยู่ที่ตำหนักสองลักษณ์ ทั้งสองท่านควรไปได้แล้วหรือไม่”

“พี่สาว…” เหลิ่งชิงเสวี่ยเพิ่งหมายจะพูดอะไร

เนี่ยชิงหรงพลันตัดบท “ชิงเสวี่ย ในเมื่อเจ้าสำนักเชิญ พวกเราก็ไปพบเขาหน่อย ถือโอกาสถามเรื่องใต้เท้าเหนียนอวิ๋นจิ่งด้วย”

เหลิ่งชิงเสวี่ยร้อมอืมคราหนึ่ง

หย่งเฟยตู้ยกยิ้มพร้อมผายมือ “เชิญทั้งสองท่าน”

ตำหนักสองลักษณ์

โหยวเชียนเหิงนั่งบนที่นั่งประธานตรงกลาง ขณะมองสำรวจแผนภาพลับที่เก่าชำรุดม้วนหนึ่ง

เขารูปร่างสูงกำยำ ผมยาวทิ้งตัว ใบหน้าหล่อเหลาราวเด็กหนุ่ม แม้จะนั่งสบายๆ แต่ราวกับมังกรขดพยัคฆ์หมอบ มีอานุภาพบีบคั้นกลายๆ

“เจ้าสำนัก รองเจ้าสำนักทั้งสองมาแล้ว”

นอกตำหนักใหญ่เสียงของหย่งเฟยตู้ดังขึ้น

จากนั้นเขา เนี่ยชิงหรง และเหลิ่งชิงเสวี่ยก็เดินเข้าตำหนักใหญ่

โหยวเชียนเหิงเก็บแผนภาพลับในมือไว้ เงยหน้ามองไป นัยน์ตาเจือแววเย็นชาและเฉยเมย กล่าว “ที่เชิญพวกเจ้าสองคนมาครั้งนี้ก็มีเพียงเรื่องเดียว”

เนี่ยชิงหรงแววตาเย็นชาและสงบนิ่ง เอ่ยขึ้น “ก่อนพูดคุยธุระ ข้าขอถามเจ้าสำนักสักคำได้หรือไม่ ตอนนี้ใต้เท้าเหนียนอวิ๋นจิ่งเป็นหรือตาย”

โหยวเชียนเหิงขมวดคิ้ว กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “พูดถึงเจ้าเฒ่านี้ทำไมกัน ในเมื่อเจ้าถามข้าก็จะบอกให้ เขาตายไปแล้ว”

“ตายไปแล้ว!?”

เนี่ยชิงหรงและเหลิ่งชิงเสวี่ยล้วนตกใจ หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ข่าวร้ายนี้ทำให้พวกนางตั้งรับไม่ทัน ไม่สามารถทำใจรับได้ในทันที

“ข้าได้รับข่าวว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับคนของสำนักศึกษาเยือกแข็งเป็นการส่วนตัว พยายามขัดแข้งขัดขาข้า โจรเฒ่าที่มีเจตนาอื่นแอบแฝงเช่นนี้จะเก็บไว้ทำไม”

เสียงโหยวเชียนเหิงเฉยเมย

“เจ้า… ทำเช่นนี้ได้อย่างไร” เหลิ่งชิงเสวี่ยโมโห นัยน์ตาใสกระจ่างเต็มไปด้วยแววเย็นเยียบ

“ข้าในฐานะเจ้าสำนัก การกำจัดคนทรยศเพื่อสำนักศึกษาสองลักษณ์ก็เป็นเรื่องถูกต้อง ไม่ต้องให้รองเจ้าสำนักอย่างเจ้ามาตั้งข้อสงสัย!”

โหยวเชียนเหิงแค่นเสียงเย็น

เนี่ยชิงหรงสงบใจ ส่งสัญญาณบอกเหลิ่งชิงเสวี่ยว่าอย่าหุนหันพลันแล่น ถึงค่อยเอ่ยว่า “เช่นนั้นครั้งนี้เจ้าสำนักเรียกพวกเราสองคนมาด้วยธุระอะไรหรือ”

โหยวเชียนเหิงเคาะพนักพิงหลัง หันมองหย่งเฟยตู้ที่ยืนอยู่อีกด้านของตำหนักใหญ่ “เจ้ามาพูด”

“ขอรับ!”

หย่งเฟยตู้ก้าวออกมาทันที ยิ้มบางๆ มองเนี่ยชิงหรงและเหลิ่งชิงเสวี่ย เอ่ยว่า “เจ้าสำนักตัดสินใจเปลี่ยนตัวรองเจ้าสำนักใหม่ หรือก็คือนับแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าสองคนไม่ได้รับตำแหน่งรองเจ้าสำนักอีกต่อไปแล้ว”

ในใจเนี่ยชิงหรงและเหลิ่งชิงเสวี่ยล้วนหนักอึ้ง

หย่งเฟยตู้กล่าวต่อ “แต่เจ้าสำนักเห็นแก่ไมตรีที่ผ่านมา จะให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง ขอเพียงพวกเจ้าเลือกยอมจำนน อยู่ใต้อาณัติเจ้าสำนัก ภายหน้าสำนักศึกษาสองลักษณ์แห่งนี้ยังมีที่สำหรับพวกเจ้า”

เนี่ยชิงหรงโมโหจนหัวเราะ “หากพวกเราไม่ยอมล่ะ”

สายตาหย่งเฟยตู้ไม่อาจปกปิดความปรารถนาอันแรงกล้าของตัวเองได้อีก จ้องเนี่ยชิงหรงอย่างไม่เกรงกลัว เอ่ยว่า

“เช่นนั้น… โจรเฒ่าเหนียนอวิ๋นจิ่งก็คือตัวอย่างของพวกเจ้า แน่นอน หากพวกเจ้าถูกกำราบ ข้าจะยังขอความเมตตากับเจ้าสำนักให้ ถึงอย่างไรหญิงงามหยาดเยิ้มอย่างพวกเจ้ากว่าจะแจ้งมรรคเป็นบรรพจารย์ได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ หากฆ่าทิ้งก็ทำให้คนปวดใจเกินไป”

“เจ้ารนหาที่ตาย!”

นัยน์ตาเหลิ่งชิงเสวี่ยเต็มไปด้วยแววเย็นเยียบกรีดกระดูก ไอสังหารรายล้อมใบหน้างาม

เนี่ยชิงหรงกล่าว “พวกเจ้าไม่กลัวว่าหากตระกูลเฮ่อและตระกูลหงรู้เรื่องนี้ จะเอาผิดกับพวกเจ้าหรือ”

เบื้องหลังสำนักศึกษาสองลักษณ์มีเผ่าจักรพรรดิอมตะสามตระกูล อย่างตระกูลจู้ หง และเฮ่อหนุนหลังอยู่ แต่ละฝ่ายต่างถ่วงดุลกัน ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปไม่มีใครกล้าฉีกหน้าเป็นศัตรูกัน

กลับเห็นหย่งเฟยตู้ยิ้มหยัน “ลืมบอกพวกเจ้าไป ก่อนหน้านี้ไม่นานตระกูลจู้เพิ่งชิงพลังระเบียบระดับสวรรค์มาจากแดนลับผนึกแห่งหนึ่งมาได้ อีกไม่นานก็จะย้ายจากน่านฟ้าที่หกไปตั้งรกรากที่น่านฟ้าที่เจ็ด เจ้าคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลหงและตระกูลเฮ่อจะเป็นศัตรูกับตระกูลจู้เพราะการตายของพวกเจ้าสองคนหรือ”

เนี่ยชิงหรงหน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิง เข้าใจในที่สุดว่าเหตุใดโหยวเชียนเหิงและหย่งเฟยตู้ถึงกล้านอนใจไร้เกรงกลัวเช่นนี้ ที่แท้เป็นเพราะตระกูลจู้รุ่งโรจน์เกินกว่าอดีตจะเทียบได้นานแล้ว!

“พี่สาว ข้ายอมตายแต่ไม่ยอมจำนนเด็ดขาด” เหลิ่งชิงเสวี่ยที่อยู่ข้างกันกล่าวชัดถ้อยชัดคำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์