Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2601

สรุปบท ตอนที่ 2601 สังหารระดับอมตะ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2601 สังหารระดับอมตะ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2601 สังหารระดับอมตะ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2601 สังหารระดับอมตะ

วาสนาอยู่ใกล้แค่เอื้อม!

ความยินดีปรีดาอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นในใจจู้ฮุย เขาถึงกับนึกถึงภาพที่ทั้งตระกูลต่างสั่นสะท้าน ให้ความเคารพและอิจฉายามที่ตนเอาพลังระเบียบนี้กลับไป

พรึบ!

ทันใดนั้นเบื้องหน้าสายตาจู้ฮุยพลันพร่ามัว

เขาชะงักไปก่อน จากนั้นพลันพบว่าพลังระเบียบที่ถูกตนพิชิตดันหายไปแล้ว!

ชั่วพริบตารอยยิ้มที่เขาคลี่ออกมาแข็งค้าง ความปรีดาและตื่นเต้นในใจถูกไฟโทสะน่ากลัวที่ไม่อาจควบคุมได้เข้าแทนที่ ผมยาวทั้งหัวชี้ตั้ง

ใครกัน!

ฝีมือใครกันแน่!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปุปปับนี้ทำให้จู้ฮุยที่เดิมก็กระอักเลือดไม่หยุดโมโหจนพ่นเลือดออมา ใบหน้าชราอึมครึมถึงขีดสุด

ฉกฉวยไปต่อหน้าต่อตาตน!?

ต้องสับเป็นพันหมื่นชิ้น!

ขวับ!

ประกายน่าครั่นคร้ามปะทุออกมาจากตาเขา ชั่วพริบตาก็จับโจรขโมยพลังระเบียบได้

คนผู้นั้นเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่งแต่งกายชุดขาวพระจันทร์ เงาร่างสูงโปร่ง มือรองเตากระบี่เตาหนึ่ง พลังระเบียบที่แปลงจากหลิวร่วงกำลังถูกเตากระบี่นั่นผนึกและกำราบ

ยามสายตาเขามองไป ชายหนุ่มคนนั้นเผยรอยยิ้มเจิดจ้า หนำซ้ำยังโบกมือ “ขอบคุณผู้อาวุโสที่กำจัดขวากหนาม สยบพลังระเบียบนี้ให้ข้า!”

พรวด!

จู้ฮุยโกรธจนกระอักเลือดออกมา โกรธจนผมชี้ตั้งตาแทบหลุดจากเบ้า มือสั่นชี้หลินสวิน “เจ้าโจรกระจอก ข้าจะฆ่าเจ้า!”

โครม!

เขาก้าวไปในห้วงอากาศ ไอสังหารดุร้ายแผ่กระจายมืดฟ้ามัวดิน แทงทวนศึกสีขาวเงินในมือออกไปทันที

ห้วงอากาศแหลกกระจุยพังถล่ม ประกายระเบียบไร้สิ่งใดเทียบเทียมเจาะอากาศ แทงไปที่หลินสวินด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ พลังเช่นนั้นแข็งแกร่งจนทำให้เทพผีต่างกริ่งเกรง

เคร้ง!!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้ามาขวาง เกิดเสียงประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลายยามทั้งสองปะทะกัน

เงาร่างหลินสวินโซเซ ต่อให้สั่งสมพลังไว้คอยท่านานแล้วก็ยังถูกการโจมตีนี้ซัดจนร่างกายเจ็บปวดสาหัส เลือดลมทั้งกายพลิกม้วนยุ่งเหยิง รู้สึกแย่จนแทบกระอักเลือด

เขาตกตะลึงอย่างอดไม่ได้

แม้จู้ฮุยจะเป็นระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้า อีกทั้งตอนนี้เจ็บหนักเจียนตาย ทว่าพลังต่อสู้เช่นนั้นกลับยังแข็งแกร่งถึงขีดสุด!

ขณะเดียวกันจู้ฮุยก็เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “เป็นเจ้า เศษเดนคีรีดวงกมลคนนั้น!”

ศีรษะมีเตากระบี่ลอยอยู่ อายุน้อยขนาดนี้ยังสามารถต้านการโจมตีของตนได้ นอกจากหลินสวินแห่งคีรีดวงกมลผู้นั้นยังจะมีใครได้อีก

ควรรู้ว่าโลกยอดนิรันดร์ในตอนนี้มีแต่ประกาศจับหลินสวินแขวนอยู่เต็มไปหมด เงาร่างหลินสวินที่วาดอยู่บนประกาศจับนั้น สิ่งบ่งชี้ที่เตะตาที่สุดก็คือเตากระบี่ ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ชิ้นนั้น!

“คิดไม่ถึงว่าข้าคนแซ่หลินจะถึงกับถูกผู้อาวุโสจำได้ ช่าง… ได้รับความเอ็นดูจนน่าตกใจเสียจริง” หลินสวินยิ้ม สีหน้าเยือกเย็น

“ทำไมเจ้าถึงปรากฏตัวที่นี่”

จู้ฮุยมุ่นคิ้วแน่น รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล ไม่กี่ปีก่อนหลินสวินหายไปจากนอกโบราณสถานทวยเทพ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี

ใครจะคิดว่าเขามาถึงน่านฟ้าที่หนึ่งของโลกยอดนิรันดร์แล้ว

“เจ้ามาได้ แล้วทำไมข้าจะมาไม่ได้”

ขณะพูดเงาร่างหลินสวินก็ถลาออกไป ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ฟื้นพลังสักนิด เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งส่งเสียงโครมครามกำราบลงไปอย่างแข็งกร้าวอหังการ

“หึ! สวะตัวจ้อย ศิษย์พี่หลิงเสวียนจื่อกับอาจารย์อาคงเจวี๋ยของเจ้าไม่อยู่ มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างเจ้า… จะก่อคลื่นลมอะไรได้”

สายตาจู้ฮุยฉายแววดูถูก เมื่อสะบัดข้อมือ ทวนศึกสีขาวทะลวงอากาศเหมือนรุ้งเทพสะดุดตา

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

ชั่วพริบตาทั้งสองก็ประมือกันหลายสิบครั้ง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกับทวนศึกสีเงินปะทะกัน แผ่ระลอกคลื่นพลังที่ม้วนตลบเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ละอองแสงสาดกระเซ็น แสงเทพสาดส่อง

กลิ่นอายทั้งตัวหลินสวินพลิกม้วน ถูกกดข่มอย่างที่สุด ต่อให้ใช้พลังต่อสู้เต็มที่เข้าสู้เต็มกำลังก็ยังตกเป็นเบี้ยล่างเหมือนเดิม

ช่วยไม่ได้ ศักยภาพห่างกันเกินไป

แม้จู้ฮุยจะบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงอย่างไรก็เป็นระดับอมตะที่สมชื่อคนหนึ่ง อานุภาพที่สำแดงออกมาในทุกการเคลื่อนไหวน่ากลัวเกินไปจริงๆ

“ตาย!”

ทันใดนั้นจู้ฮุยคำรามลั่น อานุภาพเหมือนไม่อาจต้านทาน ใช้ทวนศึกสีเงินนั่นโจมตีมากลางอากาศ

ก็ในตอนนี้เอง

แววโหดเหี้ยมฉายวาบในดวงตาหลินสวิน ทันใดนั้นก็กระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งถึงขีดสุด แสงมรรคไพศาลพวยพุ่ง ปากเตาก็มาอยู่ระนาบเดียวกับทวนศึกสีเงินนั้นพอดี

ชั่วพริบตาทวนศึกสีเงินก็แทงเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ที่ประหลาดคือไม่มีเสียงออกมา ตรงข้ามทวนศึกสีเงินนั้นกลับเหมือนถูกกลืนกิน แหลกสลายอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ

จู้ฮุยนัยน์ตาหดรัดโดยพลัน ตกตะลึงจนตาแทบหลุดจากเบ้า ทวนศึกสีเงินนี้เป็นสิ่งที่ควบรวมออกมาจากพลังระเบียบระดับปฐพีขั้นเก้าของตระกูลจู้ของพวกเขา แม้จะถูกเขาใช้มรรควิถีของตนมาหยิบยืมพลัง แต่อานุภาพเช่นนั้นสามารถปลิดชีพระดับเดียวกันได้!

ทว่าตอนนี้ การโจมตีอันน่ากลัวนี้กลับถึงกับถูกสลายไปอย่างง่ายดายปานนี้!

เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของจู้ฮุยโดยสิ้นเชิง ทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้านรุนแรงโดยไม่ทันตั้งตัว

“นายท่าน ตามคำพูดยุคก่อน สิ่งที่ท่านสยบคราวนี้ก็คือพลังระดับปฐพีขั้นเก้าที่หายาก ภายในมีนัยเร้นลับระเบียบอสนีที่ร้ายกาจหาใดเทียบ เรียกได้ว่าเป็น ‘ระเบียบอสนีพิฆาต’”

ในระเบียบนิพพาน อู๋ซวงที่เหมือนเด็กสาวชุดขาวเอ่ยเสียงมีชีวิตชีวา “ถ้าให้ข้ากลืนกิน พลังของข้าสามารถฟื้นคืนขึ้นสองส่วนของพลังในอดีต”

“สองส่วนหรือ” หลินสวินอึ้งไป

“พอจะเทียบได้กับอานุภาพของระเบียบระดับสวรรค์ขั้นสี่ในยุคก่อน” อู๋ซวงอธิบายประโยคหนึ่ง

ตั้งแต่หลินสวินช่วยอู๋ซวงรวบรวมและกลืนกินพลังระเบียบไปไม่น้อย ก็เห็นได้ชัดว่านางเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

ต่อให้นางเป็นแค่สิ่งที่แปลงมาจากระเบียบ ไม่ได้มีสติปัญญาอย่างแท้จริง แต่สามารถวิวัฒน์การรับรู้และความเข้าใจของตัวนางเองออกมาได้ จิตวิญญาณไม่ธรรมดา

หลินสวินตกตะลึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นพลังของเจ้าก่อนหน้านี้อยู่ระดับไหน”

“ข้าไม่รู้แน่ชัด เว้นแต่ว่าจะสามารถฟื้นฟูสภาพเมื่อแรกเริ่มกลับมาได้ แต่ตามการคาดเดาของข้าในตอนนี้ ข้าในอดีตคงเป็นระดับสวรรค์ขั้นเก้าขึ้นไป” อู๋ซวงเอ่ยตอบจริงจัง

หลินสวินใจสะท้าน เป็นเช่นนี้ดังคาด!

ยามสยบอู๋ซวงได้ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว เขาก็สังหรณ์ว่าพลังระเบียบที่อู๋ซวงครอบครอง อย่างน้อยจะต้องเป็นระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่ยากพบเห็น

เพราะโลกยอดนิรันดร์ มีเพียงพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าชนิดพิเศษที่ยากพบเห็นถึงให้กำเนิดวิญญาณระเบียบได้ ระเบียบระดับสวรรค์ทั่วไป ต่อให้อยู่ขั้นเก้าก็ไม่สามารถทำได้

พอคิดดูก็ถูก อู๋ซวงเป็นวิญญาณระเบียบที่โชคดีรอดจาก ‘เคราะห์มรรคห้าเสื่อม’ ในตอนที่ยุคสมัยดับสิ้นมาได้ จึงดำรงอยู่ถึงยุคนี้ จะธรรมดาสามัญได้อย่างไร

“นายท่าน ข้าหลอมระเบียบอสนีพิฆาตนี้ได้หรือไม่” อู๋ซวงเอ่ยถาม งดงามอ่อนหวาน เป็นร่างวิญญาณระเบียบร่างหนึ่งเท่านั้น แต่กลับดูมีชีวิตชีวายิ่ง

“ก็ได้”

หลินสวินคิดๆ ดูแล้วตอบตกลง

เดิมทีเขาคิดจะชิงพลังระเบียบให้สำนักศึกษาสองลักษณ์ แต่ต่อมาถึงพบว่าตนคิดผิดแล้ว

มีแต่ผู้ที่ควบคุมนัยเร้นลับของพลังระเบียบได้โดยสมบูรณ์ ถึงจะหลอมสมบัติลับที่ดึงพลังระเบียบมาใช้ได้

อย่างในสำนักศึกษาสองลักษณ์ ระเบียบระดับปฐพีขั้นสามที่ถูกโหยวเชียนเหิงใช้ ก็ใช้สมบัติลับเป็นลัญจกรชิ้นหนึ่งดึงพลังออกมา

แน่นนอนว่าโหยวเชียนเหิงเป็นเพียงบรรพจารย์จักรพรรดิผู้หนึ่ง ไม่อาจควบคุมนัยเร้นลับระเบียบระดับปฐพีขั้นสามนั้น ทั้งยังไม่อาจหลอมสมบัติลับเช่นนี้ออกมาได้อยู่แล้ว

พูดอีกอย่างก็คือ พลังระเบียบของสำนักศึกษาสองลักษณ์ถูกระดับอมตะผู้หนึ่งควบคุม และหลอมสมบัติลับที่ดึงพลังระเบียบนี้ออกมาได้ จากนั้นให้เป็นมรดกทิ้งไว้ในสำนักศึกษาสองลักษณ์เมื่อนานมาแล้ว

เช่นนี้ถึงได้รับการสืบทอดและครอบครองโดยเจ้าสำนักแต่ละรุ่น

พลังระเบียบที่รุ่ยไท่ฝูแห่งสำนักศึกษาเยือกแข็งดึงมาใช้ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

หรืออย่างพลังระเบียบระดับปฐพีขั้นเก้าที่จู้ฮุยดึงมาใช้เมื่อครู่ก็มีหลักการเดียวกัน

นี่ก็หมายความว่า ต่อให้หลินสวินสยบพลังระเบียบได้มากมายเพียงไหน แต่ถ้าไม่อาจหยั่งรู้และครอบครองนัยเร้นลับของพลังระเบียบเหล่านี้ได้ ก็ไม่อาจดึงพลังระเบียบเหล่านี้มาใช้ได้แม้สักนิด

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์