Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2609

สรุปบท ตอนที่ 2609 ความจริงของกล่องสำริด: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2609 ความจริงของกล่องสำริด – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2609 ความจริงของกล่องสำริด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2609 ความจริงของกล่องสำริด

ไม่กี่วันหลังจากนั้น

หลินสวินมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง

บนถนน ในโรงน้ำชา ในหอสุรา… ทุกแห่งหนล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดเปิดรับผู้สืบทอด

นี่ทำให้หลินสวินอดประหลาดใจไม่ได้

ไม่นานเขาก็สืบข่าวจนกระจ่าง และเมื่อได้รู้ข่าวลือเกี่ยวกับสี่หอบรรพจารย์ก็ประหลาดใจไม่หยุด

น่านฟ้าที่เจ็ดถึงกับมีขุมอำนาจที่โดดเด่นเช่นนี้ด้วยหรือ

ทำให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปดยังต้องให้เกียรติ แค่คิดก็รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของสี่หอบรรพจารย์น่ากลัวเพียงใด

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่ได้สนใจนัก

เขาทำเหมือนกับหลายปีก่อนหน้านี้ เริ่มรวบรวมข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับน่านฟ้าที่ห้าในเมือง เตรียมพร้อมเพื่อการต่อสู้หลังจากนี้

จนกระทั่งช่วงพลบค่ำหลินสวินจึงออกจากเมืองนี้

ในมือเขามีข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับขุมอำนาจใหญ่ในน่านฟ้าที่ห้า

แตกต่างกับสี่น่านฟ้าก่อนหน้านี้ ในน่านฟ้าที่ห้ามีเผ่าจักรพรรดิอมตะไม่น้อยตั้งรกรากอยู่ ขุมอำนาจเหล่านี้ต่างหากที่เป็นนายเหนือหัวของน่านฟ้าที่ห้า

ระหว่างพวกเขากับเผ่าจักรพรรดิอมตะของน่านฟ้าที่หกก็มีความเกี่ยวโยงกัน แต่ไม่ใช่บริวารใต้อาณัติ ต่างกับผู้ฝึกปราณที่รับใช้เผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หกเหล่านั้น

เมื่อผ่านการตรวจสอบจำแนกอย่างตั้งใจของหลินสวิน ถึงพบว่าตอนนี้ในน่านฟ้าที่ห้า ขุมอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศัตรูของเขามีเพียงหนึ่งเดียว…

สำนักศึกษาควันวายุ

นี่เป็นขุมอำนาจที่คัดเลือกอัจฉริยบุคคลให้กับบรรดาเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หก ทว่าเบื้องหลังของขุมอำนาจนี้กลับซับซ้อนมาก

เหตุผลอยู่ที่ว่า ในเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่ห้า ก็มีคนหลายตระกูลเข้ามาฝึกปราณในสำนักศึกษาควันวายุแห่งนี้ ทำให้สำนักศึกษาควันวายุมีคนหลากหลายปะปนกัน กระจายเป็นกลุ่มก้อน

อย่างบรรดาคนใหญ่คนโตสำนักศึกษาควันวายุ ทั้งมีไมตรีที่ดีต่อเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หก และมีความสัมพันธ์ที่โยงใยไปทั่วกับเผ่าจักรพรรดิอมตะในน่าฟ้าที่ห้า ทำให้ยากจะแยกแยะว่าคนเหล่านั้นเป็นคนของใครกันแน่

ใคร่ครวญครู่ใหญ่ สุดท้ายหลินสวินก็ตัดสินใจรออีกหน่อย

รอหลังจากสืบข่าวที่คุ้มค่ายิ่งกว่าค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย

ช่วงเวลาหลังจากนั้นเขาเหมือนคนผ่านทางที่เร่งรีบคนหนึ่ง เดินทางผ่านภูผาธารา ผ่านเมืองต่างๆ ไม่ทันไรก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว

และในมือหลินสวิน ข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ล้วนบ่งชี้ว่าสถานที่ตั้งของสำนักศึกษาควันวายุ ตอนนี้กลายเป็นถ้ำเสือบ่อมังกรไปแล้ว!

ขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นราวกับเดาออกว่าเขาจะเลือกสำนักศึกษาควันวายุเป็นเป้าหมาย จึงวางกำลังรอบๆ สำนักศึกษาควันวายุไว้ล่วงหน้า ระดมกำลังทั้งหมดซุ่มโจมตีอยู่ภายใน

ว่ากันว่ามีระดับอมตะมากมายเข้าร่วม

ว่ากันว่าครั้งนี้เพื่อฆ่าหลินสวิน บริเวณใกล้ๆ สำนักศึกษาควันวายุวางกับดักไว้ทั่วแล้ว ต่อให้เป็นระดับอมตะก้าวเข้าไปก็ยากจะหนีความตายพ้น

ว่ากันว่า…

ข่าวลือเช่นนี้มีนับไม่ถ้วน แม้ทำให้หลินสวินไม่สามารถแยกแยะจริงเท็จได้ แต่เมื่อข่าวลือเหล่านี้กระจายไปทั่วอย่างต่อเนื่อง ย่อมไม่มีทางเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูล

‘พวกเขาช่างวางแผนดีจริงๆ’

หลินสวินอดถอนหายใจพร้อมรอยยิ้มไม่ได้

หลายปีมานี้เขาฆ่าศัตรูไปมากมาย ทว่าขอเพียงเป็นคนที่ใส่ใจก็ค้นพบได้ไม่ยาก ว่าทุกคนที่ถูกเขาฆ่าล้วนเป็นสุนัขรับใช้ในขุมอำนาจศัตรูของเขา

ศัตรูอาจเห็นจุดนี้ จึงจัดกองกำลังไว้ที่สำนักศึกษาควันวายุ เพราะทั้งน่านฟ้าที่ห้า มีเพียงสำนักศึกษาควันวายุที่มีความเป็นไปได้สูงสุดว่าจะเป็นเป้าหมายของหลินสวิน

เช่นนี้ก็มีเพียงสองผลลัพธ์

ถ้าเขามีความกล้าหาญเต็มเปี่ยม ไปบุกถ้ำเสือบ่อมังกร นี่ย่อมเป็นไปตามความต้องการของศัตรูอย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้าเขาเลือกจะถอย เช่นนี้แผนการของศัตรูอาจจะคว้าน้ำเหลว แต่ก็ไม่ได้สูญเสียอะไร

เพียงแต่หลินสวินกลับไม่เชื่อว่าขุมอำนาจเหล่านั้นมีแผนการเพียงเท่านี้

เพราะที่นี่คือน่านฟ้าที่ห้า เหนือขึ้นไปก็คือน่านฟ้าที่หกแล้ว หากตนรอดชีวิตจากไป ศัตรูเหล่านั้นจะไม่กังวลว่าตนพุ่งไปน่านฟ้าที่หกหรือ

นำกองกำลังทั้งหมดซุ่มอยู่ที่สำนักศึกษาควันวายุ นี่เสียเปรียบเกินไปแล้ว

หลินสวินประหลาดใจมาก ข่าวเกี่ยวกับสำนักศึกษาควันวายุที่กระจายออกมาช่วงนี้ เป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นวิธีสร้างความสับสน ขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นคงเคลื่อนไหวนานแล้ว

เพียงแต่หากตนเป็นพวกเขา จะเลือกขัดขวางตนที่ไหน

คิดถึงตรงนี้สายตาของหลินสวินอดมองไปยังท้องฟ้าห่างออกไปไม่ได้

เส้นทางดาราเขตแดน!

บางทีอาจจะอยู่บริเวณทางเข้าเส้นทางดาราเขตแดน!

‘เป็นเช่นนี้จริงหรือ…’

หลินสวินใคร่ครวญ สุดท้ายก็ไม่ได้ไปหยั่งเชิง แต่เลือกจะถอย

ไม่กี่วันหลังจากนั้น

ภายในถ้ำสถิตที่อยู่ลึกลงไปหมื่นจั้งในส่วนลึกของทุ่งน้ำแข็ง

“น่านฟ้าที่ห้าตอนนี้สถานการณ์ดูเหมือนแปลกประหลาดไม่แน่นอน แต่นั่นสำหรับข้าคนเดียว พวกเจ้าสามารถฝึกปราณอยู่ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเจออันตรายอะไร”

หลินสวินเพิ่งกลับมาก็ตัดสินใจจัดแจงที่อยู่ให้พวกเนี่ยชิงหรง เหลิ่งชิงเสวี่ย เสี่ยวซี

เพราะถ้าเข้าสู่น่านฟ้าที่หก ศัตรูของเขามากเกินไป หากถูกศัตรูพบพวกเนี่ยชิงหรง จะต้องส่งผลต่อพวกนางอย่างแน่นอน

เพราะในวันนี้ หลังผ่านการอนุมานและแก้ผนึกมาหลายปี ประทับเป็นชั้นๆ ที่ปกคลุมอยู่บนกล่องสำริดถูกหลินสวินแก้อกจนหมดสิ้นแล้ว

เพียงแต่ตอนที่กำลังจะเปิดกล่องสำริดนี้ออกจริงๆ หลินสวินกลับลังเลเล็กน้อย ในใจผุดอารมณ์ตึงเครียดที่ไม่สามารถอธิบายได้

ความลับที่ซ่อนอยู่ในกล่องสำริดนี้ แม้เกี่ยวข้องกับลั่วชิงสวินมารดาของเขา ทว่าตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยเจอลั่วชิงสวินแม้แต่ครั้งเดียว!

เขาเคยคิดเช่นกันว่าในวันที่ได้เจอบิดามารดาควรจะพูดอะไร และเคยนึกถึงภาพหลากหลายยามพบเจอกันในสมอง

แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่จินตนาการของเขา

แต่ยามนี้ เมื่อถึงเวลาเปิดกล่องสำริดนี้เข้าจริงๆ เขากลับตึงเครียดขึ้นมา…

ความตึงเครียดนี้ละเอียดอ่อนมาก มีทั้งความตื่นเต้นและความกังวล และเป็นรสชาติที่หลินสวินไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ว่ากันถึงที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโตเขาคุ้นชินกับการอยู่ตัวคนเดียวแล้ว ส่วนเรื่องบิดามารดา เรื่องครอบครัว อย่างไรก็ยังไม่เคยสัมผัส ถึงได้รู้สึกรางเลือนและแปลกหน้าอย่างเห็นได้ชัด

ผ่านไปเนิ่นนานหลินสวินถึงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ในดวงตาวาบประกายแน่วแน่มั่นคง

วู้ม!

เมื่อปลายนิ้วของหลินสวินขยับเบาๆ กล่องสำริดที่ปิดผนึกมาเนิ่นนานก็ค่อยๆ เปิดออกเบื้องหน้าสายตาหลินสวิน

ในกล่องสำริดมีปิ่นไม้ที่ดูแล้วธรรมดายิ่งยวดชิ้นหนึ่ง ดูออกว่าเป็นเครื่องประดับของสตรี ราบเรียบแฝงนัย

บนปิ่นไม้สลักคำว่า ‘ชิงสวิน’ เอาไว้สองคำ

หลินสวินอึ้งไป ในใจพลันสั่นขึ้นมาเบาๆ อย่างห้ามไม่อยู่ ปิ่นไม้นี้ต้องเป็นสิ่งที่มารดาตนลั่วชิงสวินทิ้งเอาไว้แน่

เขายื่นนิ้วออกไปค่อยๆ เข้าใกล้ปิ่นไม้นั้น ราวกับกำลังปฏิบัติต่อของล้ำค่าที่สุดในโลก กลัวแต่ว่าจะทำมันเสียหาย

พริบตาที่ปลายนิ้วสัมผัสกับปิ่นไม้ สายเลือดในตัวเขาก็เหมือนถูกปลุกตื่นจากพลังอันเงียบงัน เกิดการร้องรับกับกลิ่นอายของปิ่นไม้

ฉับพลันนั้น

ละอองแสงสีเขียวที่ราวกับฝันมายาแถบหนึ่งพลันปลิวกระจายออกมาจากปิ่นไม้ ก่อนควบรวมเป็นเงาร่างแบบบางอรชรสายหนึ่งช้าๆ

ชุดกระโปรงเขียว ผมดำเงางาม บนใบหน้าขาวกระจ่างงดงามเผยรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่ง

แววตาของนางเปล่งประกาย เจือความตื่นเต้นยินดีที่ยากปกปิด ทันทีที่ปรากฏตัวสายตาก็ตกลงบนร่างหลินสวิน และในแววตาของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยเหมือนกับอึ้งตะลึง

ขณะเดียวกันหลินสวินเพียงรู้สึกว่าสมองเหมือนถูกฟ้าผ่า ขาวโพลนไปทั้งแถบ

เขาเคยคิดมานานแล้วว่าในกล่องสำริดผนึกอะไรไว้กันแน่ เป็นของคู่กายหรือ หรือจะเป็นเบาะแสที่บอกร่องรอยของลั่วชิงสวินมารดาตน

แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อเปิดออกมาจะได้พบกับภาพเช่นนี้!

เขามีหรือจะไม่รู้ นี่ก็คือลั่วชิงสวิน มารดาที่เขาคิดถึงมานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์