ตอนที่ 2616 ยันต์หยกระเบียบ
ฝุ่นควันถาโถม กระแสทำลายล้างแผ่กระจาย
หลินสวินหายใจถี่กระชั้นอยู่ครู่หนึ่ง คว้าเอาโอสถวิเศษมาบำรุงอย่างบ้าคลั่ง
ศึกนี้อันตรายถึงขีดสุด ทั้งยังใช้อภินิหารสองชนิดอย่างหยุดเวลากับประตูเนรเทศไป ทำให้พลังทั้งร่างเขาแทบแห้งเหือด
มิหนำซ้ำเขายังบาดเจ็บไปทั้งตัว มีแต่รอยดาบน่าตกตะลึง ทั้งร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆ ดูน่าอนาถนัก
แต่ตอนนี้หลินสวินกลับยิ้มออกมา ยินดีปรีดาอย่างบอกไม่ถูก
นี่ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาฝึกปราณมา ที่สังหารระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้าในสภาพสมบูรณ์ผู้หนึ่งได้!
จนกระทั่งใจสงบลง เมื่อนึกถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้หลินสวินก็พบข้อบกพร่องบางส่วน
จุดสำคัญที่สุดก็คือขาดประสบการณ์การใช้ประตูเนรเทศ หาไม่แล้วย่อมไม่ต้องใช้เพลิงระเบียบมาเสริมการโจมตีช่วงสุดท้าย
‘ด้วยมรรควิถีของข้าในตอนนี้ หลังจากสำแดงประตูเนรเทศ อย่างมากก็ยันไว้ได้แค่สามลมหายใจ แม้จะบอกว่าเป็นเวลาสั้นๆ แต่ถ้าคว้าโอกาสไว้ได้ ก็สามารถกำราบระดับอมตะให้เข้าไปใน ‘หุบเหวไร้สิ้นสุด’ นั้นได้ จะไม่เหมือนกับครั้งที่ที่ลั่วอวิ๋นซานหนีพ้นเคราะห์ในตอนท้ายไปได้…’
หลินสวินครุ่นคิด
ยามอยู่ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิขั้นต้น หลังจากสำแดงประตูเนรเทศ เขายืนหยัดได้เพียงหนึ่งลมหายใจเท่านั้น
ตอนนี้เขาอยู่ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิขั้นบริบูรณ์แล้ว เมื่อสำแดงอภินิหารนี้อีกครั้ง สามารถทำได้นานกว่าแต่ก่อนสองลมหายใจ
อย่าดูเบาช่วงเวลาแสนสั้นไม่สะดุดตานี้ หากคว้าโอกาสไว้ได้อย่างเต็มที่ ก็สามารถเอาชนะระดับอมตะผู้หนึ่งได้อย่างง่ายดาย!
‘ถ้าคราวหน้าได้เจอศัตรูระดับนี้อีก ก็ไม่ต้องเป็นฝ่ายรับแบบนี้แล้ว…’
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ในดวงตาเปี่ยมไปด้วยความโอหัง
ศึกนี้มีความหมายเหนือธรรมดามาก ทำให้เขารู้ซึ้งถึงความแตกต่างระหว่างศักยภาพของตนกับระดับอมตะ
แต่ขอเพียงรู้แล้วว่าห่างกันแค่ไหน ภายหน้าไม่ช้าก็เร็วก็เสริมคืนและเหนือกว่าได้!
กระทั่งพลังกายฟื้นฟูขึ้นช้าๆ หลินสวินถึงเริ่มจัดการทรัพย์หลังศึก
ลั่วอวิ๋นซานมีฐานะเป็นระดับอมตะของตระกูลลั่ว สมบัติที่พกติดตัวย่อมเหนือกว่าคนทั่วไป เพียงแค่ศาสตราที่ใช้วัตถุอมตะก็มีสามชิ้นแล้ว
นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบเทพและลูกกลอนโอสถที่จำเป็นต่อการฝึกปราณจำนวนหนึ่ง ราคาก็ไม่อาจเทียบได้กับระดับจักรพรรดิ
และในนั้นยันต์หยกลึกลับชิ้นหนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของหลินสวิน
ยันต์หยกนี้มีสีม่วงอ่อน สลักนัยเร้นลับกฎเกณฑ์มรรคอสนีที่แน่นขนัดราวกับเส้นผมเอาไว้ กลิ่นอายคลุมเครือน่าครั่นคร้าม
หลินสวินมองปราดเดียวก็ดูออกว่านี่เป็นสมบัติลับที่อาศัยพลังระเบียบชิ้นหนึ่ง! สิ่งที่ประทับอยู่ในนั้นย่อมเป็นระเบียบอสนีระดับปฐพีขั้นแปดที่ตระกูลลั่วครอบครอง!
สมบัติลับเช่นนี้หลอมขึ้นโดยระดับอมตะของตระกูลลั่ว มีแต่พลังสายเลือดของคนตระกูลลั่วถึงปลุกมันให้ตื่นและนำมาใช้ได้
ต่อให้คนนอกได้ยันต์หยกนี้ไปก็ใช้พลังไม่ได้สักนิด
‘ไม่ถูก มารดาข้าลั่วชิงสวินมาจากตระกูลลั่ว ภายในร่างข้าก็มีสายเลือดของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง ถ้าอนุมานเช่นนี้ พลังระเบียบในยันต์หยกนี้ก็ถูกข้าควบคุมได้…’
หลินสวินใจกระตุก ลองใช้จิตรับแทรกเข้าไปในยันต์หยกสีม่วงอ่อนชิ้นนี้
ทันใดนั้นเสียงสายฟ้าครั่นครืนก็ดังขึ้นในสมอง สายฟ้าสีม่วงไร้สิ้นสุดถาโถมราวกับมังกรตัวใหญ่หนา สำแดงกลิ่นอายทำลายฟ้าดิน
ส่วนหลินสวินก็รับรู้ได้ว่าสายเลือดภายในร่างตนพลุ่งพล่านขึ้นเช่นกัน ร่วมร้องรับไปกับพลังระเบียบนั้นอย่างประหลาด
คล้ายเพียงแค่ตนคิดก็สามารถปลดปล่อยพลังระเบียบที่ผนึกไว้ในยันต์หยกนี้ออกมาได้!
“ใช้ได้ตามคาด!”
หลินสวินไม่ได้ลองดูอีก ดึงจิตรับรู้กลับมาแล้วเก็บ ‘ยันต์หยกระเบียบ’ ชิ้นนี้ไว้อย่างระวัง
สมบัตินี้เป็นไพ่ตายได้!
‘เสียดายก็แต่ดาบเงาแสงเล่มนั้น ถึงกับประทับพลังกาลเวลาไว้ ทั้งยังเป็นสมบัติที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ทิ้งไว้ด้วย…’
หลินสวินนึกถึงดาบเงาแสงที่ถูกประตูเนรเทศกำราบไปในหุบเหวไร้สิ้นสุดก็รู้สึกเศร้าใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ สามารถสำแดงประตูเนรเทศได้ แต่คิดจะดึงเอาสมบัติที่กำราบไว้ในหุบเหวไร้สิ้นสุดออกมา ตอนนี้แทบไม่มีความหวังแต่อย่างใด
สาเหตุก็เพราะประตูเนรเทศปรากฏขึ้นเพียงสามลมหายใจ เวลาสั้นเกินไป ไม่พอให้หลินสวินดึงเอาดาบเงาแสงออกมาจากหุบเหวไร้สิ้นสุดที่เหมือนกับไร้ขอบเขตนั้นได้อยู่แล้ว
นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร
‘บางทีรอเมื่อข้าบรรลุระดับอมตะ สามารถเปิดประตูเนรเทศไว้ได้นานขึ้น ก็จะสามารถดึงเอาสมบัติชิ้นนี้ออกมาได้’
หลินสวินรู้สึกว่ามรรควิถีตนยิ่งสูง ประตูเนรเทศก็ต้องอยู่ได้นานขึ้นตามไปด้วย!
หลังจากผ่านไปสักพักหลินสวินก็เก็บกระบวนค่ายกลจากไปอย่างรวดเร็ว
ภูผาธาราที่เดิมถูกกระบวนค่ายกลนั้นปกคลุมก็ยุ่งเหยิงกระจัดกระจาย มีแต่ภาพพังพินาศเต็มไปหมด
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองพยับวายุ ไม่นานนักก็ถูกผู้ฝึกปราณรับรู้ได้ พอข่าวกระจายกลับไปที่เมืองพยับวายุก็สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่น
“เคยมีระดับอมตะต่อสู้ดุเดือดที่นี่!”
ไม่นานนักผู้คนก็คาดเดาออกมา ต่างสูดหายใจสะท้านพากันคาดเดา ทว่ากลับไม่มีใครเดาอะไรออกมาได้
เบาะแสที่เหลืออยู่ที่นั่นน้อยเกินไป
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังดึงดูดสายตาจับจ้องมากมาย ถึงอย่างไรต่อให้ไม่รู้ว่าใครสู้กันที่นี่ แต่กลิ่นอายอมตะที่หลงเหลืออยู่ในสนามรบนั้นกลับไม่อาจปิดบังได้สักนิด
ภายหลังถึงขั้นมีผู้แข็งแกร่งที่ซุ่มอยู่ในบริเวณใกล้ๆ เส้นทางดาราเขตแดนตกตะลึง พากันมาสืบค้น ต่างสงสัยว่าการต่อสู้นี้เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเกี่ยวข้องกับหลินสวินที่หลายปีมานี้ไม่ได้ปรากฏตัวเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์