Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2716

ตอนที่ 2716 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ทันทีที่เสิ่นไจ้เต้าเข้าสู่ลานมรรค ก็ทำให้คนนับไม่ถ้วนในที่นี้เกิดความรู้สึกตกตะลึง

ชั่วขณะนี้ฉินอู๋อวี้อดขมวดคิ้วไม่ได้ สีหน้าคร่ำเคร่งเล็กน้อย นี่เพิ่งจะเป็นการประลองครั้งแรกก็ส่งเสิ่นไจ้เต้ามาแล้ว เห็นชัดว่าไม่คิดจะให้โอกาสใดๆ กับหลินสวิน!

แม้ในใจเขาต่อต้านเรื่องที่หลินสวินเข้าสู่ยอดเขาที่เก้าอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเห็นผู้สืบทอดของยอดเขาตนถูกเจาะจงเล่นงานเช่นนี้ในใจก็ไม่พอใจมากเช่นกัน

ยอดเขาที่เก้ารั้งท้ายมาหลายปี ฉินอู๋อวี้จะไม่เคยคิดพัฒนาเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

แต่เรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะทำได้ในวันสองวัน

เมื่อเห็นว่าตอนนี้หลินสวินโดนเล่นงาน ฉินอู๋อวี้ก็อดนึกถึงการถกมรรคเก้ายอดเขาในอดีตไม่ได้ บรรดาผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าถูกคนกดข่มอย่างไร…

“เกินไปแล้ว!”

ในใจฉินอู๋อวี้เดือดดาล

เรื่องนี้จะต้องมีคนจงใจบงการอยู่เบื้องหลังแน่ ไม่เช่นนั้นด้วยความสามารถของจวงซื่อหลิวผู้ดูแลการทดสอบ เกรงว่าคงเชิญบรรพจารย์กระบี่ชั้นเลิศอย่างเสิ่นไจ้เต้ามาไม่ได้

“พวกเขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร…”

ผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าอย่างพวกฉินรั่วหลิงที่มาให้กำลังใจหลินสวิน เห็นการจัดการเช่นนี้ก็อดเผยสีหน้าเดือดดาลไม่ได้

“เหตุใดจึงทำเช่นนี้ไม่ได้ อยากเป็นศิษย์แกนหลักล่วงหน้าเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นหรือ” ไม่ไกลนักมีคนเหน็นบแนมเย็นชา

พวกฉินรั่วหลิงเพิ่งหมายจะพูดอะไรก็ถูกเย่ฉุนจวินขวางเอาไว้ “ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกท่านโปรดระงับโทสะ พวกเขายิ่งทำเช่นนี้ก็ยิ่งยืนยันว่าพวกเขาไม่กล้าดูถูกศิษย์น้องหลินสวิน เสิ่นไจ้เต้าเย้ยฟ้าและน่ากลัวมากจริงๆ แต่ถ้าเขาแพ้ ชื่อเสียงทั้งชีวิตจะต้องถูกทำลายเพราะการต่อสู้ครั้งนี้แน่!”

สีหน้าของพวกฉินรั่วหลิงเปลี่ยนไป ยักษ์ใหญ่แห่งยุคอย่างเสิ่นไจ้เต้า… จะแพ้ได้หรือ

ลานมรรคสำแดงสวรรค์

เห็นเสิ่นไจ้เต้าออกมาต่อสู้เป็นคนแรก หลินสวินสีหน้าสงบนิ่ง “ไม่ว่าที่เจ้าออกมาต่อสู้ครั้งนี้มีคนสั่งมาหรือไม่ ในเมื่อเจ้าเลือกจะทำเช่นนี้ เช่นนั้นก็เตรียมใจแพ้ให้ดี”

คำพูดเบาแผ่วประโยคหนึ่ง ทั้งเป็นการพูดให้เสิ่นไจ้เต้าฟัง และเป็นการพูดให้ผู้ที่ออกคำสั่งอยู่เบื้องหลังเหล่านั้นฟัง

แต่สำหรับทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ประโยคนี้ฟังแล้วเสียดหูมาก ให้ศิษย์พี่เสิ่นไจ้เต้าเตรียมใจพ่ายแพ้ หลินสวินไปเอาความมั่นใจในการพูดคำพูดอวดดีเช่นนี้มาจากไหน

“ดูท่าศิษย์น้องหลินสวินคิดว่าข้ากำลังกดข่มเจ้าหรือ” เสิ่นไจ้เต้ายิ้ม ท่าทางสบายๆ

ครู่ต่อมา…

ฉัวะ!

จู่ๆ เขาก็ลงมือ ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกจากฝ่ามือเขา ราวกับไม่มีห้วงอากาศขวางกั้น เข้ากดข่มเบื้องหน้าหลินสวินโดยตรง

กระบี่นี้ราวกับแสงแรกของการเปิดฟ้าแยกดิน ไล่ตามสุริยันจันทรา เผยความเร้นลับมหัศจรรย์แห่งความลับสวรรค์

หลินสวินดีดนิ้วคราหนึ่ง ปราณกระบี่นั้นสลายไปทุกกระเบียด

“เอาฝีมือที่แท้จริงของเจ้าออกมา อย่าเสียเวลาอีกเลย หลังเจ้าแพ้ ยังมีการประลองอีกสองรอบรอข้าอยู่” เขาพูดเรียบๆ

ทั่วทั้งที่นั้นมีคนไม่น้อยอึดอัดใจขึ้นมา

เร่งทำเวลาหรือ

ในใจเจ้าเห็นศิษย์พี่เสิ่นไจ้เต้าเป็นอะไร

ชิ้ง!

ตรงหน้าเสิ่นไจ้เต้าปรากฏกระบี่มรรคที่โปร่งแสงราวกับมายา เสื้อผ้าทั้งร่างโบกสะบัดจนเกิดเสียงโดยไร้ลม

ท้องฟ้าเหนือศีรษะเขาล้วนมืดครึ้มลงกะทันหัน ราวกับกำลังสั่งสมอานุภาพ

ทั่วบริเวณล้วนปั่นป่วน คนไม่น้อยเผยสีหน้าประหลาดใจ ตระหนักได้ว่ากระบี่ต่อไปของเสิ่นไจ้เต้าจะต้องน่าตื่นตะลึง ฟันผ่าหมื่นกาล!

“ศิษย์น้อง ที่ข้าฝึกคือจิตกระบี่ไร้รูป สิ่งที่สังหารคือจิตวิญญาณ สิ่งที่ฟาดฟันคือจิตใจ เจ้าต้องระวังหน่อย หากต้านไม่ไหวรีบยอมแพ้จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจิตวิญญาณจะตาย สภาวะจิตจะแหลกสลาย”

เสิ่นไจ้เต้าพูดเรียบๆ

ตอนนี้ทั้งร่างของเขาราวกับกลายเป็นกระบี่ฟ้าเล่มหนึ่ง หลอมรวมกับฟ้าดินและมหามรรค ร่างตนคือฟ้า ก็คือเทพ!

ตูม โครม!

จู่ๆ ทั้งลานมรรคก็มืดไปทั้งแถบ

“รีบโคจรพลังปราณ!”

“อย่าได้ฝืนพยายามมองดู นี่คือจิตกระบี่ไร้รูป สังหารทั้งวิญญาณและจิตใจ!”

เสียงอุทานด้วยความตกใจและเสียงตะโกนระลอกหนึ่งดังขึ้นนอกลานมรรค

หลายคนรู้สึกถึงพลังมรรคกระบี่เสียดกระดูกที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณ ราวกับว่าหากกระบี่นี้ของเสิ่นไจ้เต้าฟันออกมา จะต้องไม่อาจสกัดกั้น ไม่อาจหลีกหนีได้

ความหวาดกลัวขนานใหญ่กระจายไปในจิตวิญญาณ ราวกับไม่ว่าจะต้านทานอย่างไรก็จะถูกพลังของกระบี่นี้ทำลายจนหมดสิ้น แม้แต่จิตใจ ความคิด เจตจำนง ล้วนถูกบดขยี้แหลกละเอียด!

คนใหญ่คนโตบางส่วนล้วนลงมือ ปิดผนึกพลังอันตรายในลานมรรคสำแดงสวรรค์ ถึงทำให้ศิษย์สืบทอดแท้จริงเหล่านั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

ยามมองดูเสิ่นไจ้เต้าอีกครั้ง ระดับอมตะบางส่วนยังอดหวั่นไหวไม่ได้

ความเชี่ยวชาญในจิตกระบี่ไร้รูปของเจ้าหมอนี่ บรรลุถึงขั้นสุดยอดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว!

และตอนนี้หลินสวินเองก็รู้สึกได้ว่ารอบด้านพร่ามัว ไม่สามารถมองเห็น และไม่สามารถจินตนาการอะไรได้เลย แม้แต่ความคิดยังถูกปิดกั้น

นี่ไม่ใช่เพราะฟ้าดินมืดลง แต่เพราะกลิ่นอายมรรคกระบี่ของอีกฝ่ายตัดประสาทสัมผัสทั้งหมดของตน ปาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย จิต!

ไม่รู้ว่ากายอยู่ที่ไหน ถึงขั้นไม่รู้ว่าร่างกายของตนอยู่ที่ใด

“หนึ่งกระบี่สามารถตัดสินแพ้ชนะได้”

ในความมืดไร้ขอบเขต เสียงของเสิ่นไจ้เต้าดังขึ้นมา

แสงกระบี่สายหนึ่งพุ่งมาจากความมืดอย่างไร้สุ้มเสียง กาลเวลาไม่คงอยู่ ห้วงอากาศไม่คงอยู่ เจตจำนงทั้งหมดก็ไม่คงอยู่เช่นกัน มีเพียงแสงกระบี่สายนั้นที่เป็นนิรันดร์

หลินสวินไม่ได้สกัดขวาง

เพราะยามตนเจอกระบี่นี้ อานุภาพและความอัศจรรย์ของมันส่งผลต่อจิตวิญญาณของเขาโดยตรงแล้ว

พูดอีกอย่างคือ นัยเร้นลับที่แท้จริงของกระบี่นี้ ก็คือมรรคกระบี่จิตวิญญาณอย่างหนึ่ง ไร้รูปไร้สาร สังหารคนอย่างไร้ร่องรอย ไม่อาจป้องกัน น่ากลัวเป็นที่สุด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์