ตอนที่ 2719 คำสั่ง
ผู้คนเดือดดาล สถานการณ์สั่นไหว
จวงซื่อหลิวนั่งไม่ติด
หลินสวินมองดูภาพนี้จากไกลๆ ก็รู้แล้วว่าครั้งนี้เจ้าเฒ่าจวงซื่อหลิวนี่จบสิ้นแล้ว
ตามคาด ตอนนี้เองเสียงเคร่งขรึมสายหนึ่งดังขึ้น
“ผู้ดูแลจวงซื่อหลิว เจ้ารู้ความผิดหรือไม่”
ประโยคเดียวราวกับระฆังใหญ่ทรงพลัง ดังก้องทั่วลานมรรคสำแดงสวรรค์
จากนั้นร่างของรองหัวหน้าหอฟางเต้าผิงปรากฏตัวกลางอากาศ รองหัวหน้าหอฟางเต้าผิงอุปนิสัยรักสงบ ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องขัดแย้ง ตอนนี้กลับอานุภาพดุจมหาสมุทร น่าสะพรึงอย่างที่สุด
ทั่วบริเวณเงียบกริบขึ้นมาทันที
ประโยคเดียวของฟางเต้าผิงเท่ากับยอมรับแล้วว่าจวงซื่อหลิวมีความผิด!
“ข้า…”
จวงซื่อหลิวสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เพิ่งหมายจะอธิบายอะไร เสียงต่ำลึกเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ถ้ายังเถียงอีกมีแต่จะยิ่งรับบทลงโทษรุนแรงขึ้น เจ้าอย่าคิดว่าจะโชคดีหนีรอดอีกเลย รีบยอมรับซะ ข้าเชื่อว่าสำนักจะให้ความยุติธรรมกับเจ้า!”
ที่มาพร้อมกับเสียงคือชายชราที่ร่างผอมคนหนึ่งปรากฏกายขึ้น เป็นรองหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ทังชิว
ยามเห็นทังชิวเอ่ยเช่นนี้ จวงซื่อหลิวหน้าซีด พูดอย่างทดท้อ “เรื่องครั้งนี้ใจข้ามีความชิงชัง จงใจกลั่นแกล้งหลินสวินในการทดสอบจริง”
เห็นจวงซื่อหลิวยอมรับผิด ความเดือดดาลในใจทุกคนในที่นี้ก็ลดลงไม่น้อย เปลี่ยนเป็นสงบลง
แต่คนใหญ่คนโตบางส่วนกลับขมวดคิ้ว สายตาวาบประกาย
ใครต่างก็ดูออกว่าที่จวงซื่อหลิวยอมรับผิด เป็นเพราะทังชิว ไม่ใช่ฟางเต้าผิง!
อีกทั้งตอนแรกจวงซื่อหลิวคิดจะทักท้วง แต่เพราะการปรากฏตัวของทังชิวจึงยอมรับผิดอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
ทังชิวพยักหน้าเล็กน้อย “มีความผิดก็ต้องรับบทลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะให้ผู้อื่นยอมรับได้อย่างไร แต่เห็นแก่ที่เจ้าทำเพื่อหอแรกพิสุทธิ์มาตลอด แม้ไม่มีคุณชอบแต่ก็มีความทุ่มเท ก็ปรับเบี้ยประจำเดือนเจ้าห้าปี เจ้ายอมรับหรือไม่”
จวงซื่อหลิวพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด “ยอมรับ!”
“แค่ปรับเบี้ยประจำเดือนห้าปีหรือ”
ฟางเต้าผิงขมวดคิ้วกล่าว “รองหัวหน้าหอทัง เรื่องวันนี้ร้ายแรงเพียงใด จวงซื่อหลิวในฐานะผู้ดูแล ใช้เรื่องการทดสอบกดข่มศิษย์สืบทอดแท้จริงตามอำเภอใจ ทำให้ทั่วหล้าเดือดดาล กลับลงโทษเขาเช่นนี้ จะให้ผู้คนยอมรับได้อย่างไร”
“รองหัวหน้าหอฟางพูดถูก การกระทำของจวงซื่อหลิวในวันนี้เหยียบย่ำและท้าทายกฎการทดสอบอย่างรุนแรง จะต้องลงโทษอย่างหนัก!”
ในลานมรรคสำแดงสวรรค์ หลินสวินเอ่ยพูดเสียงกังวาน “ไม่เช่นนั้นในใจศิษย์คงยอมรับไม่ได้”
“ใช่ ต้องลงโทษอย่างหนัก!”
“จวงซื่อหลิวมีฐานะเป็นผู้ดูแล กลับใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้ จะให้อภัยเขาง่ายๆ เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด”
เสียงตะโกนระลอกหนึ่งดังขึ้นในที่นั้น
จวงซื่อหลิวสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ อยากจะอุดปากคนพวกนั้นเสียเดี๋ยวนี้ เขาในฐานะผู้ดูแล เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสความรู้สึกของการถูกตัดสินเช่นนี้ ทำเอาอับอายและตื่นตระหนกมาก
สายตาของเขามองไปยังทังชิว
ในที่นี้ก็มีเพียงทังชิวที่พอจะช่วยเขาได้
ทังชิวเอ่ยอย่างใคร่ครวญ “เอาเอย่างนี้แล้วกัน เรื่องลงโทษจวงซื่อหลิว รออีกสามวันค่อยประกาศให้ทุกคนในสำนักได้รู้ การทดสอบในวันนี้แม้จะเกิดข้อผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็นับว่าจบลงอย่างราบรื่น จากที่ข้าดู แต่งตั้งหลินสวินเป็นผู้สืบทอดแกนหลักก่อนดีกว่า”
ฟางเต้าผิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เหตุใดจึงต้องรออีกสามวัน”
ใครจะดูไม่ออกว่านี่กำลังยื้อเวลา
กลับเห็นทังชิวกล่าวขรึมๆ “เรื่องนี้ข้าคิดว่าต้องให้สามหอหารือด้วยกัน รองหัวหน้าหออย่างพวกเราตัดสินใจร่วมกัน ต่อให้เป็นเรื่องเล็ก แต่ผลกระทบกลับใหญ่ยิ่ง จะต้องรอบคอบ”
“รองหัวหน้าหอทังพูดถูก”
ไกลออกไปผู้นำยอดเขาที่สองอวิ๋นเทียนหมิงพูดเสียงขรึม “รีบตัดสินโทษจวงซื่อหลิวไปอย่างไรก็ไม่รอบคอบ หลังจากหารือกันแล้วค่อยลงโทษเขาก็ได้แล้ว”
“ไม่ผิด เชื่อว่าหลังจากหารือกันแล้วสำนักก็จะให้คำตอบที่น่าพอใจกับทุกคน”
ผู้นำยอดเขาที่สามหนานป๋อหง และผู้นำยอดเขาที่สี่มู่อวิ๋นเจิงเองก็เอ่ยปากสนับสนุนข้อเสนอของทังชิว
ผู้สืบทอดหลายคนประหลาดใจ สถานการณ์ตรงหน้าเปลี่ยนแปลงไม่อาจคาดเดา ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า นี่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าอาจเป็นการปะทะระหว่างคนใหญ่คนโต ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมได้
หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้ จดจำรองหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ทังชิวเอาไว้ ในบรรดาคนที่มองตนเป็นศัตรู เจ้าเฒ่านี่จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฉินอู๋อวี้เจ้าคิดว่าอย่างไร”
สายตาของทังชิวมองไปยังผู้นำยอดเขาที่เก้าฉินอู๋อวี้ที่อยู่ไกลๆ
ฉินอู๋อวี้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ข้าหวังเพียงว่า สำนักจะให้คำตอบที่เป็นธรรมกับศิษย์สืบทอดแท้จริงแห่งยอดเขาที่เก้าอย่างหลินสวิน ไม่เช่นนั้นข้าไม่หยุดแค่นี้แน่”
ทังชิวขมวดคิ้วอย่างยากจะสังเกต จากนั้นพลันพยักหน้าพูด “นี่ก็เป็นสิ่งที่ข้าอยากเห็นเช่นกัน รองหัวหน้าหอฟางเจ้าคิดว่าอย่างไร”
ฟางเต้าผิงพูดเรียบๆ “หากเช่นนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถึงตอนนั้นข้าจะถามให้แน่ชัดว่าจวงซื่อหลิวจัดการทดสอบครั้งนี้อย่างไร แม้แต่เฟิงซีซีผู้สืบทอดยอดเขาที่สองและหลิวอวิ๋นเฟิงผู้สืบทอดยอดเขาที่สามยังรู้สึกไม่ยุมติธรรม เลือกจะยอมแพ้ และในตอนแรก เป็นใครที่ออกคำสั่งให้พวกเขาเข้าร่วมการประลอง ข้าไม่เชื่อว่าจวงซื่อหลิวจะมีความสามารถขนาดนี้”
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของหลายคนเปลี่ยนไป
อย่างเช่นผู้นำยอดเขาอย่างอวิ๋นเทียนหมิง หนานป๋อหง มู่อวิ๋นเจิง
แม้แต่ทังชิวยังอดหนังตากระตุกไม่ได้ ตระหนักได้ว่าฟางเต้าผิงคิดจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่!
หากเป็นเช่นนี้ ทั้งลัทธิแรกกำเนิดคงจะเกิดความสะเทือนไหวครั้งใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์